หมอพรเทพเฟิร์ม ผลตรวจซ้ำ 40 คนที่ยะลาเป็นลบ ชี้แล็บตรวจไม่เสถียร

นพ. พรเทพ : "ถูกต้อง เหมือนเดือนแรกสุดเราทำสองแล็บเสมอ ไม่ว่าทำที่ไหนก็ตาม ต้องมาคอนเฟิร์มที่กรมวิทย์ก่อน จนมันเสถียรแล้วเราถึงให้ออกไป ทีนี้ในช่วงมีคนไข้เยอะๆ เราเพิ่มแล็บเยอะแยะ แล้วเราก็ไปตรวจถ้ามันเสถียรเมื่อไหร่เราก็รับรองเขา ไม่ต้องครั้งที่สองแล้ว แต่ที่ยะลาเปิดใหม่เป็นของรัฐด้วยนะ เราคิดว่าเราต้องตรวจสอง ครั้งแต่มันหลุดไป"

นพ.พรเทพ : "แต่ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตกใจเรื่องนี้ พวกเรานักเวชศาสตร์ป้องกันทุกคนไม่ปล่อยให้เกิดความเสี่ยงเด็ดขาด 40 คนนี้ต้องอยู่รพ.จนเราแน่ใจ ตรวจหลายครั้งก่อนให้แน่ใจถึงปล่อยให้กลับบ้าน ถึงจะลบแล้วก็ขอให้อยู่ต่ออีก 7 วัน"

หมอสฤษดิ์เดช : "ตอนนี้เคสน้อยลงแล้ว โดยเฉพาะที่อยู่ในรพ. ของนนทบุรี ตอนนี้เหลืออยู่ 2 รายที่ยังอยู่ในรพ. จาก 100 กว่าราย อันนี้เรียกว่าพักยกได้ครับ"

นพ. พรเทพ : "ที่ผ่านมาเราเจอไปคนนึง เราก็กวาดหมด ตอนนี้นนทุบรีทำไป เราเจอ 2-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ตอนนี้ไปหาก็ไม่ค่อยเจอแล้ว เราเลยคิดว่าเราต้องเฝ้าระวังแบบหอสูง เป็นยามหอสูง ตรงไหนมีควันนิดๆ เราไปตรวจดู ถ้าไม่มีเราไม่ไป มีควันแสดงว่าเราหาคนไปสอดแนมก่อน ว่าตรงนี้มีโอกาสเสี่ยงหรือเปล่า ตรวจสัก 5-20 คน เขาบอกว่านี่คือการเฝ้าระวังแบบหอสูง" 

หมอสฤษดิ์เดช :  "ที่วางแผนคือเราจะสุ่มในรพ. คลินิกโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเวลาคนไข้มาตรวจ สองตามห้างร้านตลาดที่คนมากันเยอะๆ ตลาดสดคนเยอะมาก เราก็ตรวจกลุ่มนั้น หรือผู้ต้องขังรับใหม่ที่เข้าไปเรือนจำ หรือกลุ่มคนที่สัมผัสคนเยอะๆ อย่างรถตู้ รถโดยสารจะต้องไปสุ่มตรวจเพื่อความมั่นใจ"

หมอสฤษดิ์เดช : "มีสองประเด็น ประเด็นแรกเรามีรพ. บำราศฯ กับทรวงอก เฉพาะทาง อาจไม่ใช่คนนนทบุรีทั้งหมด อีกกลุ่มนึงคือเราติดจากกรุงเทพฯ คนนนทบุรีเป็นคนทำงานในกรุงเทพฯ ตอนเช้า ตอนเย็นกลับมานอนในนนท์ แล้วกรุงเทพฯ มีเคสเป็นพัน ก็อาจติดมาบ้างและมาติดในครอบครัว"

หมอสฤษดิ์เดช : "ตอนนี้เรากำลังค้นอย่างที่บอกไป ค้นเชิงรุกและเชิงรับ เราเจอน้อยลงแล้ว"

หมอสฤษดิ์เดช : "สาเหตุหลักๆ คิดว่าเขาเป็นเขตคนเมือง เขามีวิถีชีวิตอีกแบบ เดิมอาจใช้ชีวิตกลางคืนเยอะ อาจเคยชิน และอาจมีเรื่องสุรา ตอนสุราปิดจำหน่ายเคสมันน้อยลง แต่ตอนนี้คือเปิดแล้ว อาจกลับมาอีกก็ได้"

หมอสฤษดิ์เดช :  "อาจ 4-5 รายต่อวัน เรามีเป้าสัก 2 พัน ทุกกลุ่มนะ สุ่มวันละ 4-5 ราย สุ่มทุกวันๆ ไปเรื่อยๆ ประมาณเดือนนึง"

นพ. พรเทพ : "ถ้าตรวจ 4 ราย เจอ 1 รายให้สมมติฐานว่าติดเยอะแล้ว ถ้าเมื่อไหร่มันเข้าไปมันติดหมด มันอันตรายแล้ว กลุ่มนั้นต้องกวาดหมด"

หมอสฤษดิ์เดช : "เราคุยกับทางจังหวัด เป็นความร่วมมือระหว่างจังหวัดนนทบุรี  สาธารณสุขจังหวัด และม.ธรรมศาสตร์ คณะวิศวะ มีแอปฯ ตัวนึงเรียกว่าโควิดนนท์มีสองส่วน สถานที่เสี่ยง แต่เปิดให้คนใช้ก็จะมีการลงทะเบียน มีคิวอาร์โค้ด ประชาชนไปโหลดแอปฯ นั้นมาและเวลาเข้าใช้ต้องยิงแสดงตัวตนว่าเข้าไปสถานที่นั้น"

หมอสฤษดิ์เดช :  "เช่นร้านตัดผม รถตู้สาธารณะ ร้านนั่งทาน เดิมเราให้ซื้อกลับไปบ้าน แต่ตอนนี้เราให้นั่งที่ร้านได้ ถอดแมสก์ปุ๊บการ์ดตก เราต้องเฝ้าระวังว่ากลุ่มนี้มีคนเข้าไปรานนี้มั้ย ถ้ามีผู้ป่วยยืนยันเราจะได้ตามได้ เป็นการขอความร่วมมือกึ่งเชิญชวน"

หมอสฤษดิ์เดช : "ทำให้เจอตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้เร็วขึ้น และโรคจะหลุดน้อยลง เราเริ่มใช้วันที่ 8 พ.ค."

นพ.พรเทพ : "หนึ่งถ้าไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน นี่สำคัญ ถ้าออกไปก็ไปสั้นๆ แล้วกลับมา ไปตลาดสดก็จดไว้ว่าจะซื้ออะไร ซื้อครบแล้วกลับเลย ไม่ต้องไปเดินเตร็ดเตร่ ถ้าออกไปให้สมมติฐานว่าทุกที่อาจมีคนติดโควิดได้ หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าก็ได้ แอลกอฮอล์ เจล นี่คือการ์ดไม่ตก กลับมาบ้าน รองเท้าก็อย่าเอาเข้าบ้าน เสื้อผ้ารีบถอด แล้วไปนั่งกินข้าวกับคนในบ้านได้ อย่าอยู่ใกล้คนแก่คนเฒ่า อันนี้จะปลอดภัย"

นพ. พรเทพ : "มันไม่ใช่คนที่ไม่มีงานทำกลับบ้านนะ คือคนที่มีงานทำ แต่หยุด 4 วัน คนไม่มีอะไรทำ ไม่มีจะกินกลับไปตั้งแต่แรกแล้ว 2 ล้านคน คนที่ไปวันหยุด 4 วัน ขอว่าอย่าไปแล้วทำให้พ่อแม่ผู้เฒ่าติดโรค ถ้าคิดจะอยู่ที่บ้านนาน ท่านต้องแยกตัวเอง 14 วัน แต่เราห้ามเขากลับบ้านไม่ได้นะ คนรอบๆ บ้านอย่าไปรังเกียจ"

นพ. พรเทพ : "เราก็อย่าให้เข้าเมือง เขาตรวจบัตรอยู่แล้วนี่ มาด้วยเหตุอะไร ไม่ใช่คนบ้านนี้เขาก็ไม่ให้เข้า ไม่ได้นะ อย่างอีสาน หลายจังหวัด เขาไม่ให้เข้านะ"

นพ.พรเทพ : "ภูเก็ตเขามีมาตรการอยู่แล้ว ออกจากภูเก็ตตรวจ 1 รอบแล้ว และดูว่าเป็นคนกลุ่มเสี่ยงหรือเปล่าเขาถึงอนุญาตให้ออกมา ฉะนั้นจังหวัดที่รับเข้า ตรวจอีกทีก็ได้ กักบริเวณก็ได้"

นพ. พรเทพ : "ถ้าเป็นบ้านเขา เขามีบัตรประชาชนก็ให้เขาเข้า แต่ขอให้แยกตัวซะ"

หมอสฤษดิ์เดช : "รับเข้าแต่เราตรวจทุกราย เราให้กักตัวที่ของเราที่จัดให้ 14 วัน ตอนนี้มีสัก 10 กว่ารายได้ แต่ตอนแรกเป้า 115 นะครับ แต่อาจจะยังมาไม่ถึง ก็รับได้"

นพ.พรเทพ : "ภูเก็ตเขาต้องแจ้งหมด และมาแล้วก็ต้องรายงานตัว อสม. ก็ต้องตามไปจิกเลยนะ"

นพ.พรเทพ : "ก่อนอื่นคนที่ขอรับ 5 พัน ผมว่าร้านขอดูก่อนว่าอย่าขายเขาได้มั้ย รับ 5 พันมาซื้อเหล้าเบียร์ มันไม่ได้สิ ซื้อไปก็ขอร้องอย่าไปนั่งกินกันหลายคน เวลาเมาเหล้าเข้าปากก็ขาดสติ คนที่กินเหล้าแล้วเป็นโควิด ตายสูงกว่าไม่กินเหล้า 8 เท่านะ เพราะตับมันไม่ดี โควิดเข้าไปแล้วโจมตีเส้นเลือดกับปอด ปอดก็ทำงานไม่ดี เพราะโดนเหล้าดองไป คนกินเหล้าเส้นเลือดไม่ดี ตับก็ไม่ดี หยุดซะเถอะ ขอร้องเถอะ ถ้าไม่อยากป่วยตายเพราะโควิดก็เลิกเหล้า"

นพ. พรเทพ : "ถ้าเป็นครอบครัว สั่งมากินที่บ้านดีกว่า แต่ถ้าเป็นที่ร้านก็ให้แบ่งเป็นล็อกๆ เราสตริ๊กมาก อย่างเมืองนนท์ก็ต้องมีฉากกั้น ต่างคนต่างหม้อ ต่างคนต่างชาม ต่างคนต่างช้อนนี่ช่วยได้ แต่ถ้าจะกินแบบหม้อกลาง ไม่ได้ สั่งมาทางอินเตอร์เน็ตแล้วกัน เดี๋ยวนี้ชาบูฉลาดมากทำเดลิเวอรี่ มาเป็นหม้อเป็นเตา มาเป็นชุด"

หมอสฤษดิ์เดช :  "ตอนนี้นนท์ประกาศต้องจัดเป็นชุดเดียว ห้ามกินร่วมกัน และต้องมีฉากกั้น"

นพ.พรเทพ : "เดี๋ยวจะมีคู่มือออกมาละเอียดยิบ มาเป็นเซ็ต และต้องทำตามนั้นด้วย จังหวัดก็เอาไปออกประกาศ กว่าจะออกมาได้เป็นเดือนนะ รวมทั้งเศรษฐกิจก็มาดูด้วยว่าทำได้มั้ย ประชาชนก็มาดูด้วยว่าดีมั้ย"