ชี้รัฐมีเงินเหลือเฟือเยียวยาผลกระทบโควิด-หลอกตัวเองไม่มีบ่อน!

เขาควรได้ 1.5 หมื่นเหมือนเดิมมั้ย
ผมคิดว่าควรได้ในส่วนของคนที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้เที่ยวที่แล้ว บวกกับคนตกสำรวจด้วยซ้ำไป ใครขึ้นทะเบียนไม่ทันเที่ยวที่แล้ว มาแสดงตนเที่ยวนี้ ผมใช้หลักง่ายๆ ถ้าคุณประเมินว่าเขาเป็นกลุ่าเปราะบางและสมควรช่วยในเที่ยวที่แล้ว เที่ยวนี้ เงื่อนไขไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแต่เขาเปราะบางมากขึ้น ใครมีเงินออม เงินเก็บตอนนี้่หมดแล้ว ความต่างที่ชัดเจนคือเที่ยวนี้่เราเห็นแสดงสว่างเพราะมีวัคซีน เรารู้อยู่แล้วว่าภายใน 6 เดือนจากนี้ เราจะเริ่มฉีดวัคซีนและหวังว่าสิ้นปีจะฉีดได้ครบครึ่งนึงของประชากรชาวไทย ทำให้เรามีชีวิตเป็นปกติที่มีความปลอดภัย

การช่วยเหลือก็ไม่กี่เดือน เพราะแสงสว่างมาแล้ว
ถูกต้อง และเขาเองจะช่วยตัวเองได้ นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยได้ โอกาสทำมาหากินจะกลับมาเป็นปกติ ถ้าจะช่วยตอนไหนก็ช่วยตอนนี้นี่แหละครับ โดยเร็วด้วย

มีสองโครงการที่คนชื่นชอบ อันนึงคือเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง แต่พอเกิดแบบนี้ปั๊บ ยังบินไม่ได้ พักโรงแรมไม่ได้ มองยังไง

นี่เป็น 5 กลุ่มที่รัฐบาลควรมาช่วยเหลือ กลุ่มคนตกงาน วันนี้เศรษฐกิจไม่ดียังหางานใหม่ไม่ได้ สองกลุ่มเปราะบางที่ได้รับการเยียวยา 5 พันบาท 3 เดือนเที่ยวที่แล้ว 3 คือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง โดนปิดโรงแรม ร้านอาหารทุกอย่าง รวมถึงลูกจ้างผู้ประกอบการกลุ่มนี้ก็ควรได้รับการช่วยเหลือเยียวยา กลุ่มที่ 4 คือผู้ค้ากว่าล้านราย ซึ่งเป็นผู้ค้ารายย่อยจริงๆ เป็นแผงตามตลาดคนเดิน ตามตลาดสดที่ได้ประโยชน์จากโครงการคนละครึ่ง ทำให้มีคมาจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น หลายคนเลิกเข้าห้างเลย มาใช้สิทธิ์คนละครึ่งตามตลาดสดแทน แน่นอนตอนนี้่ได้รับผลกระทบ เพราะคนกลัวไม่กล้าออกไปจ่ายตลาด รัฐบาลก็อยากให้คนอยู่กับบ้าน ก็คงต้องคิดว่ามีมาตรการยังไง กลุ่มสุดท้ายคือฟรีแลนซ์ ก็เห็นใจเขานะ เที่ยวที่แล้วได้รับการเยียวยา 5 พันบาท 3 เดือน แต่โดยรวมกลุ่มนี้ตอนนี้โอกาสทำมาหากินแทบไม่มี มันรวมถึงใครบ้าง นักดนตรี เสร็จเลย ถูกสั่งห้ามเลย ไกด์ ไม่ต้องพูดถึง กองถ่าย อีเวนต์ หรือครูสอนพิเศษ กลุ่มนี้มีจำนวนหลักหลายแสน ช่องทางทำมาหากินตอนนี้เหลือน้อยมาก รัฐบาลไม่ควรมองข้าม

สิ่งที่กระทบอย่างแรงคือการท่องเที่ยว เราพยายามใช้ไทยเที่ยวไทย รัฐให้ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้แม้แต่ไทยเที่ยวไทยก็คงจะยาก ตอนนี้ 5 จังหวัดล็อกไปแล้ว ตราด จันทบุรี ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร แม้แต่ชัยนาทคนติดนิดเดียว เขาบอกใครจะเข้ามาเขาตรวจหมด ทำให้การท่องเที่ยวแย่ โรงแรมเอาไงดี

ผู้ประกอบการโรงแรมรอคอยการช่วยเหลือมานาน พอถึงวันนี้แนวโน้มเริ่มอยู่ตัว ก็กลับกลายเป็นเข้าสู่สภาวะล็อกดาวน์เหมือนเดิม เที่ยวที่แล้วที่เป็นปัญหา รัฐบาลยังช่วยไม่ถูกจุดในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรม มีหลากหลายประเด็นมาก ทั้งแง่แหล่งทุนเขาเข้าไม่ถึงผ่านมาตรการซอฟต์โลน สาเหตุส่วนหนึ่งที่ยากเพราะเงื่อนไขแบงค์ชาติของรัฐบาลที่กำหนดไว้ เป็นเงื่อนไขที่ทำให้กลุ่มธนาคารพาณิชน์ต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงอยู่ เขาก็เลยไม่กล้าปล่อย ดังนั้นส่วนตรงนี้ถ้าจะช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมเข้าถึงจริง รัฐต้องเข้าไปแบกรับความเสี่ยงเพิ่มมากยิ่งขึ้น แทนที่จะให้ธนาคารพาณิชย์เขาเสี่ยง เงินจะออกอย่างคล่องตัว ผมไปคุยกับเจ้าของโรงแรมท้องถิ่น ก็จะเห็นว่าสุดท้ายแล้ว ต้นทุนค่าใช้จ่ายของเขา เป็นต้นทุนที่มีกับหน่วยงานของรัฐในสัดส่วนที่สูงมากกว่าที่เราคิด อย่างค่าไฟ ต้องเปิดโรงแรมต้องมีค่าน้ำค่าไฟ มีต้นทุนสูงแค่ไหน ค่าไฟก็จ่ายกับรัฐวิสาหกิจ น้ำก็รัฐวิสาหกิจ ภาษีทั้งท้องถิ่นและระดับประเทศ นี่คือภาระค่าใช้จ่ายที่มีกับหน่วยงานของรัฐ ฉะนั้นรัฐสามารถช่วยได้ในต้นทุนสำคัญของเขา และมีเรื่องค่าแรง ลูกจ้าง ลูกน้องจำนวนมากต้องดูแล กรณีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวธุรกิจโรงแรม รัฐสามารถแบ่งภาระได้โดยตรง แบ่งภาระค่าใช้จ่ายเลย การว่าจ้าง 50 เปอร์เซ็นต์ รัฐออกให้ ก็จะทำให้โรงแรมเดินต่อไปได้ และรักษาคนให้อยู่ในงาน

เรื่องบ่อนระยอง บ่อนชลบุรี บ่อนตราด บ่อนจันทบุรี ถ้าเป็นกรณ์จะทำยังไง เพราะมีผู้ใหญ่คนนึงพูดว่าในกรุงเทพฯ ไม่มีบ่อน

กดกูเกิลดูก็ได้นะ (หัวเราะ) แล้วน่าจะบอกได้ด้วยว่าเป็นของใคร นี่คือประเด็น ว่าเราไม่ยอมรับความเป็นจริง ว่าบ่อนมีจริง คนนิยมเล่นพนันจริง แทนที่จะบอกว่าบ่อนเป็นของคนโน้นคนนี้คนนั้น เราพร้อมหรือยังที่จะบอกว่าบ่อนนี้่เป็นของรัฐบาล ทำให้ถูกต้อง มีใบอนุญาตกำกับดูแลได้ รัฐมีรายได้จากการเก็บภาษีได้ จริงๆ เพื่อนบ้านเราเกือบทุกประเทศแล้วมั้งครับ มีบ่อน มีคาสิโนถูกต้องตามกฎหมาย สิงคโปร์เนี่ย ถ้าเป็นคนสิงคโปร์ต้องซื้อตั๋วไปเล่น และมีสิทธิ์ 24 ชม.ต่อครั้ง บางประเทศก็จำกัดเพื่อคนต่างชาติเท่านั้น หรือบางประเทศเป็นคนพื้่นเมืองได้แต่ต้องแสดงเงินในบัญชี หรือใบเสียภาษีเพื่อพิสูจน์ว่ามีสตางค์ ผมว่ามันแล้วแต่ประเทศจะกำหนดเงื่อนไข แต่สำหรับประเทศไทยเรา ผมคิดว่าเราหลอกตัวเองที่จะบอกว่าเราไม่มีบ่อน หรือเราสามารถกำจัดบ่อนได้ พูดกันมานานแล้วแต่ทำไม่ได้ นึกภาพดูว่าถ้าคาสิโนหรือบ่อนถูกต้องตามกฎหมาย การกำกับดูแลก็จะไม่เกิดเหตุการแพร่เชื้อที่ตามไม่ได้ เหมือนที่เพิ่งปรากฎไป ผมคิดว่าเป็นเรื่องกระจายอำนาจ แต่ละจังหวัดก็ไปพิจารณาเอาเองในเรื่องความพร้อมแล้วผมคิดว่ามันมีพื้นที่ทดลองได้ในทุกๆ เรื่อง และตอนนี้เราคุ้นเคยกับแซนบ็อก พื้นที่ทดลอง เราลองกำหนดพื้นที่ทดลองเรื่องใหม่ๆ ในสังคมขึ้นมา สมมติว่ามันไม่เวิร์กจะได้กำจัดความเสียหายอยู่ในกระบะทราย

คนที่ฟังอาจคิดว่าแสดงว่าเห็นด้วยกับการที่เราจะมีคาสิโนของรัฐ
ครับ ถ้าพูดตรงๆ ก็คือใช่

มันจะไปเจอกลุ่มนึงที่บอกเราเป็นเมืองพุทธนะ
ก็ถูก แต่เมืองพุทธหรือไม่ก็ตาม หลักความเป็นจริงที่ต้องยอมรับ มันมีบ่อนอยู่ทั่วเมือง ถ้าถามผม ไม่มีบ่อนเลยดีมั้ย ดี แต่มันเป็นไปไม่ได้ แล้วเราพูดมาเยอะแล้วเรื่องการใช้มาตรการเข้มงวดแล้วทำไม่ได้สักที ดังนั้นถ้าเทียบกับบ่อนอยู่ใต้ดิน ผมมองว่าบ่อนอยู่บนดินที่รัฐกำกับดูแลดีกว่า