โหนกระแส ระอุ ผัวผีน้อยฉะเมียเก่า สุดท้ายหญิงยอมจ่ายเพื่อจบ

วันที่ 13 มีนาคม 2566 รายการโหนกระแส มีการเชิญนายเอก หนุ่มที่ไปทำงานที่เกาหลีใต้ ส่งเงินให้ภรรยาที่ไทย แต่ภรรยาถูกหวย 12 ล้านบาท กลับไปแต่งงานกับชายอื่น จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม ขอส่วนแบ่งเงิน

นายเอก เล่าว่า ตนกับภรรยาอยู่กินกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูก 3 คน กระทั่งปี 2559 ตนกับภรรยาไปทำงานเป็นผีน้อยที่เกาหลีใต้ และภรรยาตั้งท้องลูกคนที่ 3 หลังจากนั้น แม่ตนเสียชีวิตที่ไทย ช่วงที่ภรรยาท้อง 7 เดือน จึงคุยกันว่า ให้ภรรยากลับมาไทย จัดการเรื่องงานศพ และคลอดลูกที่ไทย

หลังจากที่ภรรยากลับไทย ตนยังส่งเงินให้สม่ำเสมอ จนภรรยาสามารถดาวน์รถยนต์ป้ายแดง 1 คัน กระทั่งปี 2562 เราเริ่มมีปัญหากัน ภรรยาไปโผล่ต่างจังหวัดบ่อย ๆ ลูกก็ปล่อยให้ยายเลี้ยง ตนจึงได้ข่าวว่า เธอคบกับชายอื่น ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตนจึงบอกเลิกไป แต่ก็ยังส่งเงินให้ทุกเดือน ประมาณ 3 หมื่นบาท กระทั่งวันท่ 1 มีนาคม 2564 ภรรยาถูกรางวัลที่ 1 รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท

หลังจากนั้น นางหวี ภรรยาโฟนอินเข้ามา บอกว่า เลิกรากับนายเอกไปแล้วตั้งแต่ปี 2562 ยอมรับว่ามีการส่งเงินมาให้จริง แต่เป็นค่างวดรถ ค่าเลี้ยงลูกไม่พอใช้ ตนต้องไปขายลูกชิ้น และตอนถูกรางวัลก็เลิกรากันไปแล้ว วันที่บอกเลิกก็มีพยานได้ยินกันหมด หลังจากเลิกรา อดีตสามีก็ส่งเงินให้ลูกสาวคนโตเป็นคนจัดการ ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว

เรื่องรถ ตนไม่ได้อยากได้ เขาอยากซื้อรถให้ลูก ตนยังถามว่า มั่นใจไหมจะออกรถ ส่งไหวไหม สุดท้ายก็ไม่ไหวจริง ๆ ตนต้องขายลูกชิ้นหาเลี้ยงครอบครัว และบอกให้ลูกสาวขายรถไป ไม่ต้องเสียดาย

นายเอก โต้กลับว่า สิ่งต่าง ๆ รวมถึงเงินที่ส่งให้ลูก ตนก็ส่งให้ภรรยา แม้กระทั่งปี 2565 ก็ยังส่ง เงินที่อีกฝ่ายกู้มา ตนก็ใช้หนี้ให้ ถ้าเลิกกันแล้ว จะใช้หนี้ทำไม แล้วรถที่ดาวน์ให้ ก็เอาไปชนจนพังยับเยินหลังบอกเลิก ตนยังบอกให้เอาไปซ่อม ให้ช่างตีราคาขาย เอาเงินที่ได้มาลงทุนขายลูกชิ้น เขาก็ทำตาม

ในวันที่ถูกลอตเตอรี่ ภรรยาก็ไม่มีเงิน ตนยังโอนเงินให้ลูกสาว 1 หมื่นบาท เพื่อเอาให้ไปขึ้นเงินที่กองสลาก

ขณะที่นางหวี ยืนยันว่า ไม่ได้รับเงินจำนวนนี้ จะโอนให้ลูกจริงหรือไม่ตนไม่รู้ วันที่ขึ้นรางวัลตนไปกับ ธ.ก.ส. ไม่ได้เสียเงินสักบาท

น้องสาวของนายเอก กล่าวว่า หลายปีก่อนพี่ชายกับภรรยามีปัญหากันหนักมากเรื่องมือที่สาม กระทั่งกลางปี 2563 พี่ชายก็ไม่ค่อยไว้ใจเมีย จึงเปลี่ยนมาโอนเงินให้ตน แล้วโอนต่อให้ลูกสาวคนโต

เรื่องนี้ดูเหมือนเคลียร์กันยังไม่ได้ จึงให้ลูกสาวคนโตมาโฟนอิน พบว่า ลูกสาวกำลังร้องไห้ นายเอกจึงบอกว่า สงสารลูก เชื่อว่าถูกครอบครัวภรรยาขู่บังคับให้กลัว ส่วนนางหวียืนยันว่า ไม่ได้บังคับ เขาก็เสียใจเป็นที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้

สุดท้าย นางหวีขอจ่ายให้นายเอก 2.5 แสนบาท แล้วเลิกแล้วต่อกัน ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยว ส่วนเรื่องลูก ถ้าจะมาเยี่ยมก็ไม่เคยห้าม นายเอกรับข้อเสนอนี้เพราะสงสารลูก