ย้อนฟังคำพูดและสัมภาษณ์สดสุดซึ้งของผู้สื่อข่าว CNN ในวินาทีแห่งความสูญเสียของคนไทย วันสวรรคต ร.9 (คลิป)

ย้อนกลับไปในวันที่ 13 ตุลาคม เวลา 19.00 น. ประกาศของสำนักพระราชวัง เรื่องการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มิเพียงนำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจของคนไทย แต่ยังเป็นข่าวใหญ่ ข่าวสำคัญข่าวหนึ่งบนสื่อหลักๆของโลก

เรื่องเล่าเช้านี้ออนไลน์ได้ถอดความการรายงานสดของสถานีโทรทัศน์ CNN สถานีข่าวชื่อดังของสหรัฐฯ ในวินาทีแห่งความสูญเสียของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งการถอดความต่อไปนี้ เป็นการถอดความตั้งแต่วินาทีแรก จนถึงนาทีที่ 7.20 ของคลิปการรายงานต่อไปนี้

ย้อนฟังคำพูดและสัมภาษณ์สดสุดซึ้งของผู้สื่อข่าว CNN ในวินาทีแห่งความสูญเสียของคนไทย วันสวรรคต ร.9 (คลิป)

ชมคลิปวิดิโอ
VVVVV
VVVV
VVV
VV
V




คริสตี้ ผู้ประกาศหลักในห้องส่งของ CNN : สำหรับข่าวด่วนในช่วงนี้กลับมาที่ประเด็นใหญ่ของเรา พระมหากษัตริย์ของประเทศไทยสวรรคตด้วยพระชนมพรรษา 88 พรรษา

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก พระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อ 70 ปีที่แล้ว ทรงเป็นที่เคารพนับถือของพสกนิกรชาวไทย และในขณะนี้นำมาซึ่งความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคต

เราจะกลับไปติดตามที่คุณบิล ริบลีย์ ซึ่งรายงานสดจากกรุงเทพมหานคร โดยทั้งประเทศไทยกำลังเข้าสู่การไว้ทุกข์สำหรับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรรยากาศและอารมณ์ที่คุณได้เห็นเป็นอย่างไรบ้างคะ?

บิล ผู้สื่อข่าวภาคสนาม รายงานจากโรงพยาบาลศิริราช : มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปอารมณ์ที่เข้มข้นที่นี่ครับคุณคริสตี้ ความรู้สึกของคนไทยในเวลานี้ เหมือนว่าพวกเขาได้สูญเสียใครสักคนในครอบครัวไป พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นจิตวิญญาณของประเทศ เป็นบุคคลที่คนไทยยกไว้เหนือสมาชิกในครอบครัว จนเปรียบเสมือนเทพเจ้าที่มีชีวิต ผู้คนที่นี่ที่พยายามสวดภาวนาเพื่อขอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอย่างสุดหัวใจ เพื่อขอให้มีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นและพระองค์จะยังทรงมีพระชนม์ชีพต่อไปอีก 10, 20 หรือ 30 ปีและยังคงเป็นประมุขของที่นี่


คุณจะเห็นประชาชนที่ยืนคลาคล่ำกันอยู่ที่นี่ ภายใต้ความโศกสลดที่เงียบงัน ไม่ใช่แค่ความเศร้าเสียใจที่เต็มไปด้วยน้ำตา แต่คุณจะมองเห็นในสายตาพวกเขาที่เต็มไปด้วยความช็อก ความสูญเสีย ความเสียใจ และไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พวกเขาได้เห็น เรายืนอยู่นอกโรงพยาบาลที่มีประชาชนกว่าพันคนมารวมตัวกันใกล้ๆกับอาคารที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงประทับอยู่กว่าสองปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 ประชาชนเยอะมากจนเราต้องเคลื่อนย้ายออกมา บรรยากาศตลอดครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้คนเพิ่มขึ้นอย่างมากที่พยายามผ่านประตูเข้าไปเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับพระองค์ให้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ในครั้งสุดท้าย

เราจะพูดคุยกับหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ที่นี่ในขณะนี้ ขอบคุณมากที่มาพูดคุยกับเรา เพราะผมทราบว่ามันเป็นค่ำคืนที่ยากลำบากสำหรับคุณ

ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : มันแย่มาก ฉันบอกได้แค่ว่ามันเป็นค่ำคืนที่แย่มาก

บิล : ผมขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียของคุณและคนที่อยู่ที่นี่ที่กำลังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ผมอยากให้ทราบว่าพวกเราอยู่เคียงข้างคุณ ช่วยบอกผมได้ไหมครับว่าพระองค์มีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ

ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : พระองค์เป็นพ่อ พระองค์เหมือนเป็นพ่อ ฉันต้องบอกว่าพระองค์เป็นเหมือนพ่อจริงๆ พระองค์ไม่ใช่พระเจ้าแต่ทรงเป็นพ่อของทุกคน ผู้ทรงทำงานทุกวันกว่า 70 ปีโดยไม่มีวันหยุด หรือแม้แต่วันพักผ่อน ตอนนี้พระองค์มิใช่พ่อแต่ทรงเปรียบเสมือนปู่ที่ไม่มีวันหยุด หรือแม้แต่กระทั่งตอนที่ท่านประทับในโรงพยาบาล


บิล : แต่คุณก็ยังหวังที่จะให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แม้กระทั่งบ่ายนี้ที่คุณเลิกงานแล้วมาที่นี่

ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : ด้วยทั้งใจที่ฉันมี ฉันหวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น ฉันอยากจะเชื่อในปาฏิหาริย์จนกระทั่งบัดนี้ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าปาฏิหาริย์ก็แค่นิทานสอนเด็ก มันก็แค่เรื่องเล่าก่อนนอน ปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้นกับพระองค์

บิล : จนกระทั่งบัดนี้ที่พระองค์จากไปแล้ว ส่วนหนึ่งคุณเชื่อว่ามันอาจจะเป็นไปได้ที่พระองค์จะยังอยู่กับคุณยาวนานกว่านี้

ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : ฉันเคยเชื่อจนกระทั่งบัดนี้ว่านี่เป็นแค่เรื่องโกหก (บิล : คุณไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นใช่ไหม) ไม่ต้องการจะเชื่อ มันยากที่จะเชื่อ

บิล : มันสำคัญตรงที่คุณระบุว่าคุณไม่คิดว่าพระองค์เป็นเทพเจ้าที่ยังมีชีวิต เพราะว่ามีช่วงเวลาหนึ่งที่คนไทยสามารถมองที่ไปพระมหากษัตริย์ของพวกเขา ซึ่งพระองค์เสด็จไปยังพื้นที่ห่างไกลเป็นเวลาหลายปี พระองค์วางพระหัตถ์ของท่านลงบนผืนดิน พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์เพลงที่ถูกเปิดในวิทยุ พระองค์เปลี่ยนพระราชวังให้กลายเป็นห้องทดลองสำหรับโคนม เกษตรกร และการทำประมง ผมหมายถึงพระองค์ทรงต้องการดูแลพสกนิกรในประเทศนี้ และพระองค์ทรงทำในวิถีทางที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ต่างจากราชวงศ์เกือบทุกแห่งในโลก


ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : ใช่ ลองคิดว่าคุณมีลูก อะไรที่คุณอยากจะทำให้กับลูกของคุณ คุณจะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกของคุณเสมอ พระองค์ก็เช่นกัน โดยส่วนตัวฉันไม่คิดถึงพระองค์ในฐานะเทพเจ้า พระองค์ทรงเป็นพ่อ เป็นปู่ที่ทำทุกอย่างที่ดีที่สุดเพื่อลูกๆ กว่า 70 ล้านคนในประเทศนี้ และนั่นเป็นสิ่งที่พระองค์ต้องการทำ พระองค์ท่านไม่มีวันหยุดพักผ่อนเลย

บิล : ประชากรกว่า 65 ล้านคน ดูเป็นจำนวนของลูกๆที่พระองค์ต้องดูแลเยอะมาก แต่พระองค์ทรงคิดว่าท่านทำได้ไม่เหมือนคนอื่นๆ

ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : ไม่ พระองค์ตรัสว่าพวกเราบางคนหรือบางสิ่งกำลังลำบาก พระองค์ไม่สามารถหยุดพักได้แม้แต่วันเดียว เพราะพวกเราลำบาก แม้เพียงวันเดียวที่พระองค์ช่วยเหลือประชาชน ประชาชนก็จะมีความสุขมากขึ้น

บิล : คุณเคยมีความทรงจำที่ประทับใจกับพระองค์ หรือช่วงเวลาที่ประทับใจอย่างไรไหม

ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : เมื่อฉันโตขึ้นมา พระองค์ก็ทรงมีพระชนมพรรษามากแล้ว ดังนั้นเมื่อฉันมองไปที่พระองค์ ฉันก็ไม่เคยเห็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลกที่ทรงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย พระองค์มิได้ทรงมีเพชรนิลจินดามากมาย พระองค์ไม่ใช่กษัตริย์ในนิทานที่อาศัยในปราสาทหลังใหญ่ ประทับบนบัลลังก์ หรืออะรก็ตาม


บิล : คุณก็คงคิดถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์่ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เช่นกัน ทรงมีพระชนมพรรษา 86 พรรษาแล้ว และกำลังประชวรอยู่ในโรงพยาบาล

ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : ใช่ พวกเรายังหวังว่าพระองค์จะกลับมามีพระอาการที่ดีขึ้น ดีขึ้น และดีขึ้นในทุกวัน เราเสียพ่อไปในวันนี้ เราไม่อยากเสียแม่ไปอีก

บิล : ทั้งสองพระองค์ทรงอภิเษกกันตั้งแต่ปี 2493 อะไรคือตัวอย่างของความรักของทั้งสองพระองค์

ประชาชนคนหนึ่งที่ รพ.ศิริราช : ความเชื่อใจ มันยาวนานกว่าการที่คุณจะพูดว่าความรักยังคงอยู่ นี่คือความเชื่อใจ การเชื่อในกันและกัน ที่ทำให้ทั้งสองพระองค์ทรงใช้ชีวิตร่วมกันได้ และช่วยเหลือกันและกันมาเป็นเวลานาน

บิล : ขอบคุณมากสำหรับการพูดคุยกับผม ผมรู้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับคุณ และพวกเราจะเคียงข้างคุณและทุกๆคนที่นี่


บิล : นี่อาจจะไม่ใช่กษัตริย์ของประเทศของคุณ หรือความโศกเศร้าของประเทศคุณ แต่คุณจะไม่สามารถทนกับช่วงเวลาแบบนี้ และไม่สามารถทนที่จะไม่โศกเศร้าเหมือนกับประชาชนคนไทยกำลังรู้สึก ณ เวลานี้ ข้อเท็จจริงก็คือมีผู้คนมากมายที่นี่ ไม่ว่าระหว่างวันทำงาน หรือหลังเลิกงาน มาเพื่อที่จะได้ยืนใกล้ๆ บุคคลคนหนึ่งผู้ที่ดูแลประเทศนี้มากว่า 70 ปี บุคคลที่ช่วยกอบกู้ประเทศจากภาวะสงครามกลางเมืองหลายๆครั้ง เช่นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี 2535 เพราะไม่ว่าความเห็นทางการเมืองของคุณจะแปรผันไปในทางใดในประเทศที่ความเห็นแบ่งแยกอย่างลึกซึ้ง ยังมีคนๆหนึ่ง คนๆหนึ่งที่ทุกคนจะฟัง นั่นคือพระองค์ และตอนนี้พระองค์จากไปแล้ว คุณคริสตี้


ที่มา เรื่องเล่าเช้านี้ออนไลน์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์