สลด !! เด็กมัธยม มั่วยา มั่วเซ็กส์ โจ๋งครึ่ม

สลด !! เด็กมัธยม มั่วยา มั่วเซ็กส์ โจ๋งครึ่ม


จากกรณีคลิปวิดีโอ “อนาคตของชาติ ‎ดูแล้วเศร้าใจ” ความยาว 2.25 นาที เปิดเผยให้เห็นภาพเหตุการณ์เด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้น ประมาณ 6-7 คน มั่วสุมกันอยู่ในบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นภายในหมู่บ้านเลิศอุบล ถนนพระยาสุเรนทร์ 44 และมีอาการมึนเมาคล้ายกับมีการใช้ยาเสพติดร่วมด้วย โดยเด็กผู้หญิงที่เดินออกมาจากบ้านอยู่ในสภาพมึนเมา ทรงตัวลำบาก สวมเพียงเสื้อนักเรียนกับกางเกงขาสั้น จนสุดท้ายกลุ่มเด็กนักเรียนชาย-หญิงได้จับคู่กันหายเข้าไปภายในบ้าน สร้างความสลดให้กับผู้ที่เข้าชมคลิปเป็นอย่างมาก

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน” สอบถามไปยังพ.ต.ท.กิตติภัค เอื้อยฉิมพลี สวป.สน.คันนายาว เจ้าของท้องที่ ได้รับการเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องร้องเรียนในลักษณะดังกล่าว มีเพียงการร้องเรียนที่กลุ่มวัยรุ่นที่มักรวมตัวกันบริเวณสนามกีฬาในหมู่บ้านดังกล่าว และมักส่งเสียงดัง แต่ไม่มียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะสั่งให้ตำรวจสายตรวจ ออกตรวจสอบและเข้มงวดในการลงพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันเหตุในลักษณะดังกล่าวและเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึง

ด้านน.ส.แรมรุ้ง สุบรรณเสนีย์ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ชี้แจงว่า ทางเจ้าหน้าที่เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบดู ตอบได้ยากว่าเป็นเด็กนักเรียนของสถาบันใด แต่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อสืบหาว่าเป็นเด็กนักเรียนของสถาบันใด หากทราบข้อมูลที่แน่ชัด ก็จะเข้าสู่กระบวนการดูแลช่วยเหลือและฟื้นฟู โดยการเข้าไปพูดคุยกับครู-อาจารย์ ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลนักเรียน เนื่องจากตามกฎหมาย หากเด็กแต่งเครื่องแบบนักเรียน หมายความว่าเป็นช่วงเวลาที่ต้องอยู่ภายในสถานศึกษา หรืออยู่ร่วมทำกิจกรรมอื่นของโรงเรียน ผู้ดูแลสถานศึกษาต้องร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลนักเรียนและตรวจสอบพฤติกรรมการใช้สารเสพติดและของมึนเมา การจำหน่ายและมั่วสุม โดยในขั้นตอนนี้จะต้องอาศัยการทำงานร่วมกับตำรวจในพื้นที่นั้นๆ ให้ช่วยดูแลเรื่องการจัดระเบียบพื้นที่ให้ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ รวมไปถึงตรวจสอบเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ที่อนุญาตให้เด็กใช้เป็นที่มั่วสุม ว่าเป็นผู้ปกครองหรือเป็นผู้ใหญ่ที่มีลักษณะหรือเจตนามอมเมาเด็กหรือไม่ และสิ่งที่ต้องเร่งทำควบคู่กันคือพ่อแม่และผู้ปกครองของเด็กจะต้องเป็นผู้ดูแลเด็กในเบื้องต้น

ตอนนี้ขอให้เราเจอเด็กก่อน เพื่อจะสาวไปให้ได้ว่า ทำไมช่วงเวลานั้นถึงไม่อยู่ที่โรงเรียน มีเหตุผลอะไร ถูกใครล่อลวงมา หรืออยู่ในภาวะที่เด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งถือว่าเสี่ยงมาก เมื่อเป็นอย่างนี้ทุกฝ่ายโดยมี พม.เป็นแม่งาน ต้องช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนที่ทำกับเด็กแบบนั้น หรือเด็กเป็นวัยรุ่นรวมตัวกันทำเอง คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะพ่อแม่ ผู้ปกครองครู อาจารย์ ต้องระวังและสอดส่องให้มากขึ้นเด็กไปไหน คบเพื่อนอย่างไร หากประชาชนหรือผู้ปกครองพบเหตุการณ์ในลักษณะนี้สามารถโทรมาแจ้งได้ที่สายด่วน 1300 ตลอด 24ชม.”น.ส.แรมรุ้ง กล่าวทิ้งท้าย




เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์