เปิดนาทีชีวิตถูกฟ้าผ่าหมดสติ คาดอีโต้เป็นชนวนล่อ เข็ดเอามีดถวายวัด (คลิป)

จากกรณีฟ้าผ่า นางชนิตา ประเสริฐศรี อายุ 52 ปี ที่หมู่บ้านมาบฆ้อ ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง ขณะที่กำลังล้างมีด หลังจากใช้มีดปอกขนุนให้หลานกิน ถูกสายฟ้าผ่าลงมาทำให้นางชนิตา ล้มหงายท้องและถูกนำตัวส่ง รพ.แกลง

โดยนางชนิตา ประเสริฐศรี อายุ 52 ปี คนที่ถูกฟ้าผ่า พาทีมข่าวไปดูต้นสะตอที่มีความสูงกว่า 10 เมตร ห่างจากบ้านพักของเจ้าตัว ประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ถูกสายฟ้าผ่า ก่อนที่สายฟ้าจากต้นสะตอจะพุ่งเข้ามาหาเจ้าตัวที่นั่งขัดมีดอีโต้อยู่บริเวณระเบียงบ้าน

นางชนิตาเปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งขัดมีดอีโต้ด้วยฟองน้ำล้างจานอยู่ที่ระเบียงบ้าน ก็มีฟ้าผ่าลงที่ต้นสะตอที่อยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 30 เมตร หลังจากนั้นสายฟ้าก็พุ่งมาที่มีดที่ตนถืออยู่ ทำให้สายฟ้าจากมีดพุ่งเข้าหน้าและหน้าอกของตน ด้วยแรงอัดทำให้ตนนอนหงายท้อง ซึ่งขณะนั้นตนยังพอมีสติอยู่ จึงพยายามคลานอย่างกระเสือกกระสนไปเรียกลูกสาวที่อยู่ในบ้าน ก่อนที่จะสลบไป ซึ่งลูกสาวปิดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า และลูกสาวโทรแจ้งกู้ภัยก่อนจะปิดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งหลังจากนั้นกู้ภัยพาตนไปส่ง รพ.แกลง จ.ระยอง โดยในระหว่างนั้นตนรู้สึกสะลึมสะลือ ก่อนจะหมดสติไปประมาณ 10 นาที แต่ได้ยินเสียงของลูกสาวและหน่วยกู้ภัยเรียกสติไม่ให้ตนหลับอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในขณะนั้นตนคิดว่ายังไงตัวเองต้องตายแน่ๆ ก่อนที่จะฟื้นตัวที่ รพ.แกลง ตอนเวลาประมาณเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งหมอเอาสายไฟมาดูดกระแสไฟฟ้าออกจากร่างกายของตน และขอหมอกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน

ขณะเกิดเหตุตนเห็นอย่างชัดเจนว่าสายฟ้าเป็นเส้นมีขาวพุ่งเข้าหาตน ซึ่งตนคิดว่าสาเหตุที่ไฟฟ้าจากต้นสะตอ พุ่งเข้ามาเป็นเพราะตนขัดมีดเหล็กจนเกิดเป็นไฟฟ้าสถิต ซึ่งเป็นตัวนำให้สายฟ้าผ่าเข้ามา ซึ่งจากคำบอกเล่าของเพื่อนบ้าน บอกว่าในบริเวณนี้มักจะมีฟ้าผ่าเป็นประจำ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีฟ้าผ่าจนทำให้คนแก่ในหมู่บ้านตกใจ เป็นลมจนเสียชีวิต

นางชนิตาบอกอีกว่า หลังเกิดเหตุ ตนยอมรับว่ารู้สึกกลัวมาก ไม่กล้ามานั่งที่ระเบียงบ้านอีกเลยเพราะกลัวว่าฟ้าจะผ่าลงมาอีก ส่วนมีดที่ตนถือในวันเกิดเหตุนั้นก็จะนำไปถวายวัดหนองจระเข้ จ.ระยอง เพราะพระท่านเตือนว่าถ้าเก็บมีดเอาไว้ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยและฟ้าอาจจะผ่าลงมาที่มีดอีก