เค้นสอบแม่อ้างลูกถูกฉก พุ่งปมมีออร์เดอร์ – หมอดูไถ 500 ชี้ขายเขมร (คลิป)

ล่าสุด นางใส ฝอยเหลือง อายุ 76 ปี ย่าทวดของน้องไอแอล เด็กที่สูญหาย เปิดเผยว่าปกติทุกวันตนเองก็อยู่บ้าน แต่วันเกิดเหตุตนเองไปรับจ้างถอนหอมแดงอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ หลังเลิกงานประมาณ 16.30 น. ตอนนั้นรู้เรื่องว่าเหลนถูกขโมยไป ตนก็แทบทรุด จึงรีบกลับมาบ้าน พอถึงบ้านพบว่ามีชาวบ้านมาช่วยกันตามหาให้ ขณะนั้นแม่เด็กอยู่ในอาการร้องไห้อยู่ ตนก็ถามจนทราบว่าเขาเข้าห้องน้ำประมาณ 10 นาที แล้วลูกหาย ตนก็เข้าใจว่าว่าอาจจะเป็นแม่ลูกอ่อนแผลยังไม่หาย การขับถ่ายจึงค่อนข้างลำบาก ซึ่งในชีวิตประจำวันบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน ได้แก่ ตนเอง หลานสาว (แม่น้องไอแอล) เหลนสาวอายุ 4 ปี และ 2 ปี และเหลนชาย คือ น้องไอแอล

โดยเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ตนเองก็ยังจุดธูปเต็มกำมือเพื่ออธิษฐานให้เหลนชายได้กลับมาบ้าน พ่อแม่ของเหลนก็จุดเต็มกำมือเหมือนกัน โดยพ่อก็อธิษฐานว่าหากได้ลูกกลับมา เขาก็จะแก้บนด้วยการไปบวชให้

ตนเองไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปสงสัยใครได้ ตนก็ไม่อยาปรักปรำใคร โดยจากการสันนิษฐานคาดว่าโจรขโมยเด็กน่าจะมาจากทางหลังบ้าน เพราะจากการสอบถามแม่ค้าเพื่อนบ้านที่ขายของอยู่หน้าบ้าน ก็บอกว่าไม่เห็นใครเข้ามาหน้าบ้าน แต่มีเพียงพยานที่บอกว่าเห็นรถสีดำขับมามีท่าทีพิรุธ ตอนนี้ตนยังมีความหวัง หากจะเป็นหรือจะตายก็ขอให้ได้เห็นหน้าเหลน ขอให้ตำรวจตามหาเบาะแสของคนร้ายได้ด้วย

ด้านนางสม ลีโต อายุ 53 ปี ป้าของแม่ของเด็ก เปิดเผยว่า ได้ไปดูดวง หมอดูบอกว่าเด็กถูกขโมยไป โดยคนในหมู่บ้านดูทางไว้ให้ และตอนนี้ขึ้นรถไปไกลแล้ว ตนจึงถามหมอจะได้หลานคืนมาหรือไม่ หมอดูบอกลักษณะว่าคนร้ายเป็นผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสูง ผู้หญิงประมาณ 50 ปี ร่วมใจกันมาขโมยหลาน หมอดูบอกว่าโจรเอาหลานออกไปจากพื้นที่หมู่บ้านแล้ว โดยเอาไปขายเขมร แต่หมอดูบอหว่าหลานชายตนนั้นยังมีชีวิตอยู่

ตนจึงถามต่อว่ารถสีอะไรที่มาเอาไป หมอดูบอกว่าเป็นรถสีเขียว บอกแค่รถสีเขียวและไม่ได้บอกว่าเป็นรถประเภทไหน โดยตนจ่ายค่าครูในการว่าจ้างด้วยด้ายแดง 5 ตัว ซึ่งหมายถึงเงิน 500 บาท ซึ่งพ่อหมอช่วยโดยการนั่งทางในดูให้ตน แล้วว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาหลังบ้าน ไม่ใช่หน้าบ้าน เพราะหน้าบ้านคนเยอะ ตอนนี้ตนเป็นห่วงหลานมากกินข้าวไม่ได้ 2 วัน นอนก็ไม่ค่อยหลับ เพราะเป็นห่วงหลานมาก ตนก็ยังคงมีความหวังอยู่ว่าจะได้พบหลาน

ขณะเดียวกัน วันนี้ตำรวจได้เชิญพ่อและแม่เด็กเข้าให้ปากคำ โดยภายหลังจากนั้น ทั้ง 2 คนเดินทางออกจากโรงพัก โดยมีท่าทีเคร่งเครียดและไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดต่อสื่อมวลชนที่ปักหลักรอทำข่าว

ด้าน น.ส.สุภาภรณ์ ขำคง ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการรับออร์เดอร์มาเพื่อขายเด็กให้กับนายหน้า และอีกประเด็นพ่อกับแม่ของเด็กก็สมรู้ร่วมกันส่งเด็กไปขายหรือไม่ ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออก ยังคงทำการสอบสวนต่อไป แต่ส่วนตัวตนเองไม่คิดว่าแม่ของเด็กจะทำ ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงไม่ร้องไห้จนตาบวมแบบนั้น ซึ่งจากการคุยช่วงแรก แม่ของเด็กก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำเรื่องดังกล่าว พร้อมยังบอกว่าหากจะทำจริงจะอุ้มท้องมาถึง 9 เดือนทำไม และลูกก็เป็นลูกคนแรก สามีก็อยากได้ลูกชายด้วย ซึ่งตนทราบมาว่าพ่อของเด็กนั้นยังไม่เคยเห็นหน้าลูกชายเลยสักครั้ง เพราะว่าทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด มีกำหนดจะเดินทางกลับมาหาภรรยาและลูกวันที่ 3 ต.ค.นี้ แต่ลูกก็มาหายไปเสียก่อน