“หมอปลา” พิสูจน์กระสือ แค่เข้าหมู่บ้านอ้วกจะพุ่ง! (คลิป)

จากกรณี เมื่อวันที่ 24 ก.พ.63 ที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบดวงไฟประหลาด คาดว่าเป็นแสงกระสือ เนื่องจากมองดูด้านทิศตะวันตก เหนือทิวไม้พบเห็นดวงไฟใหญ่ลอยได้ เหตุเกิดบริเวณ บ้านใหม่สัมพันตา ม.14 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ล่าสุดวันที่ 1 มี.ค.63 หมอปลาจะทำพิธีจับกระสือ เพื่อพิสูจน์ว่า ดวงไฟดังกล่าวที่ชาวบ้านเห็น ใช่แสงของกระสือจริงหรือไม่

ก่อนหน้านี้ นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เล่าว่า แสงที่ชาวเห็นยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นกระสือจริงหรือไม่ ส่วนตนก็เคยสัมผัสตอนอายุ 10 ขวบ ที่บ้านตากกางเกงใน ผ้าถุงไว้ ตื่นมาเจอตอนเช้ามีรอยคราบติดที่กางเกงในและผ้าถุงมีกลิ่นแรงมาก ชาวบ้านก็เชื่อว่าพวกผีไปกินของคาวแล้วมาเช็ดปาก แต่ไม่ได้เห็นดวงไฟ ทั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่าคนจะถอดหัวจนเหลือแต่ไส้เหมือนในหนังได้ ซึ่งก็แล้วแต่คนจะเชื่อ ตนไม่อยากกล่าวหาว่างมงาย แต่เชื่อว่าชาวบ้านก็ไม่น่าจะโกหก เพราะไม่ได้ผลประโยชน์ ไม่ได้ขายดอกไม้ธูปเทียน

ล่าสุด วันที่ 1 มี.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านใหม่สัมพันตา ม.14 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

นางพรพรรณ คำชมพู หรือ ปลา อายุ 47 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน เล่าว่า ความเชื่อเรื่องผีกระสือในหมู่บ้านมีมานานกว่า 40ปีแล้ว ตั้งแต่ตนเองเด็ก ๆ ซึ่งตนเองก็เคยเห็นแสงกระสือมาแล้วกับตา เห็นลอยอยู่ในระยะไกล ลักษณะเป็นแสงสีส้ม ขนาดเท่าลูกบอล คนเฒ่าคนแก่ที่เสียชีวิตไปแล้วเคยเล่าให้ตนเองฟังว่า สมัยก่อนเคยเจอผีกระสือ ลอยมาหาอาหารบริเวณใต้ถุนบ้าน แต่เมื่อโยนกบ-เขียดไปให้กระสือก็คาบกบ-เขียดลอยหนีหายไป คนแก่บางคนก็เล่าว่า ผีกระสือเกิดมาจากคนที่เล่นของ หรือผู้ที่เรียนวิชาอาคม และประพฤติผิดครูทำให้ของย้อนกลับเข้าตัวจนกลายเป็นผีกระสือ มักจะชอบออกมาหาอาหารในเวลากลางคืน หรือออกมาตามกลิ่นคาวเลือดวัวควายที่คลอดลูก ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็มักจะเคยพบเห็นแสงกระสือกันอยู่บ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง คิดว่าหากวันนี้หมอปลาจับกระสือได้ก็คงดี เพราะชาวบ้านทุกคนก็อยากรู้เหมือนกันว่าดวงไฟดังกล่าวที่ชาวบ้านเห็น จะเป็นกระสือจริงไหม และกระสือตัวเป็น ๆ จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

ขณะที่เวลา 18.00 น. ทีมงานหมอปลาได้เดินทางมาที่บริเวณหมู่บ้านสัมพันตา ที่ชาวบ้านได้มีการพบเห็นแสงกระสือ โดยมีชาวบ้านต่างมายืนรอติดตามทีมข่าวและหมอปลากว่า 100 คน บริเวณบ้านของชาวบ้านที่เคยพบเห็นแสงกระสือ ซึ่งขณะที่เดินทางเข้ามา หมอปลาแสดงอาการ หาว น้ำมูกน้ำตาไหล เหมือนสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง

นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมาในวันนี้เพราะต้องการพิสูจน์ว่าดวงไฟที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นแสงกระสือมีจริงหรือไม่ ตามความเชื่อของคนโบราณคือกระสือมีอยู่จริง แต่กระสือในแต่ละพื้นที่ก็จะถูกเรียกแตกต่างกันไป บางพื้นที่เรียกว่า "ผีกะ" ตั้งแต่เกิดมา ตนเองก็ยังไม่เคยเห็น เคยแต่ได้ยินว่ากระสือมักจะชอบกินของคาว

แต่เมื่อตนเองเดินทางมาถึงบริเวณจุดที่พบกระสือ ตนเองก็รู้สึกสัมผัสได้ถึงพลังงานวิญญาณ ส่วนอาการที่แสดงออกมานี้ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับดวงไฟดังกล่าวที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นแสงกระสือหรือไม่ ตนเองก็ยังไม่รู้ ซึ่งขั้นตอนในวันนี้ตนเองจะลองติดตั้งกล้องเพื่อเก็บภาพไว้ เผื่อจะเห็นดวงไฟในบริเวณที่ตนเองมีอาการหาวแล้วหายใจไม่ออก และตนเองจะทำการจุดธูปเสมือนเป็นการเรียกวิญญาณด้วย ส่วนที่เลือกมาพิสูจน์วันนี้เพราะเป็นวันพระ อาจจะทำให้เจอได้ง่ายขึ้น หากถ้าวันนี้ ตนเองเจอผีกระสือจริง ตนเองก็จะไม่จับ แต่จะสวดมนต์แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้ได้ไปผุดไปเกิด

ด้านนายพุทธ ติระบาล หรือ ช้าง อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า วันนี้ตนเองและชาวบ้านอยากมาดูว่าหมอปลาจะจับกระสือได้ไหม เนื่องจากตนเองและภรรยา เห็นกระสือกับตาตัวเองมาแล้ว ลักษณะเป็นดวงไฟ ใหญ่เท่าลูกบอลสีส้ม มีแสงวาบลอยอยู่บนฟ้า และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กลางดึกตนเองได้ยินหมูร้องด้วยความเจ็บปวด ตื่นเช้ามาหมูที่เลี้ยงไว้ก็ตาย 2 ตัว อย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ไม่มีรอยบาดแผล ทำให้ตนเองเชื่อว่ากระสือคงไม่พอใจ และเป็นต้นเหตุที่ทำให้หมูที่ตนเองเลี้ยงไว้ต้องตาย