เผยทางรอดมวลมนุษยชาติ ไวรัสโควิด-19 วอนคนไทยมีสติ หากเข้าระยะ 3

"อยู่ทางด้านรักษาด้วย การต่อสู้โรคนี้ต้องมีสามแกน แกนแรกระบาดวิทยา ออกไปสืบสวนโรค ชุมชน สองคือหมอรักษา หรือหมอทางเทคนิค คือหมอรักษาตัวคนไข้เลย อีกอันคือตัวชี้เป็นชี้ตายที่สำคัญคือทางแล็ป ซึ่งเป็นตัวที่สำคัญที่สุด"

"ต้องขอตอบอาจารย์ว่าระยะ 3 นี่ยัง ระยะ 3 ต้องมีเหตุมีผล แต่ขณะนี้ต้องเรียนว่าจวนเจียน อย่างไรก็ตามระยะ 3 ไม่ใช่ฟ้าถล่มดินทลาย เรามีแผนงานทางด้านมาตรการสังคมกับการแพทย์รองรับถึงระดับ 3 แล้ว เลข 2 หลักไม่ได้เหนือความคาดหมาย ทางการแพทย์อยากให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ หลักสิบรับได้ที่ทางการแพทย์สามารถรับมือกับหลักสิบที่เจ็บป่วยรุนแรงได้"

 

"มีหายนะครับ แต่เป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยมีใครดู (หัวเราะ) คนที่หายเวลาติดเชื้อในระยะนี้เป็นการเอาเข้ามาอยู่รพ. เพราะเราไม่ให้เชื้้อแพร่กระจายออกไป ถึงแม้อาการน้อยก็ต้องอยู่รพ. แล้วมีการตรวจแล็ปจนกระทั่งผลสบสองครั้งติดต่อกัน ต่อเนื่องกันภายใน 3 วันเราถึงจะยอมปล่อย"

"ข้อมูลเหล่านี้จากประเทศจีน ซึ่งมีคนไข้ 8-9 หมื่นคน ทุกรายงานออกมาชัดเจน คนที่ป่่วยคอนเฟิร์ม 80 เปอร์เซ็นต์อาการน้อย ทางการแพทย์จีนเขาให้อยู่บ้าน ถ้าอยู่บ้านแล้วมีอาการมากเขาถึงจะรับเข้ารพ. 15 เปอร์เซ็นต์ลงปอดต้องอยู่รพ. อีก 5 เปอร์เซ็นต์จะอาการรุนแรง ต้องอยู่ไอซียู ปอดลุกลามมาก ถ้าเสียชีวิตก็เสียชีวิตจาก 5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเรามีคน มีเครื่องมือพอ มีผู้ชำนาญดูแลเกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือ การดูแลรักษา 5 เปอร์เซ็นต์ก็จะเสียชีวิตน้อยลง" 

"อยู่รพ. ทั้งหมด และทางฝ่ายแพทย์ระบาดก็ยังไปเจาะติดตามว่าแต่ละคนแจกจ่ายให้แต่ละคน ครอบครัวตัวเองเป็นใครบ้าง เท่าที่ติดตาม ยังอยู่ในกลุ่มนี้ ไม่ได้ออกไปข้างนอกมาก ยังไม่แพร่มาก"

"พออยู่กันเยอะๆ โอกาสติดเชื้อเราไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นใคร ถ้าเป็นเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เรารู้ว่าเป็นคนจีน นักท่องเที่ยว ช่วงนึงเป็นคนมาจากยุโรป เกาหลี แต่ตอนนี้มองไม่ออกแล้ว"

"ทั้งหมดเราไม่รู้ว่าเขายืนอยู่จุดไหน แต่ที่เขาวงพบว่าอยู่ตรงริงไซต์มากที่สุด ฉะนั้นตอนนี้เราพยายามโฟกัสไปตรงจุดริงไซต์ ว่าใครป่วย ไม่สบาย ให้ตรวจ"

"จากนี้ต่อไป อะไรที่คนรวมตัวกัน แรกๆ ฝรั่งเศสบอกรวมตัวพันคนควรยกเลิก สเปนบอกสองพันคน ตอนหลังเขาพบว่าในกลุ่มก้อนที่ร้อยกว่าคนก็ติดได้แล้ว ตัวเลขประเทศไทยเราและการแพทย์ ที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน 50-100 คนควรยกเลิก"

"ถ้าเลื่อนได้ก็เลื่อน พิธีรีตรองก็จัดการไป จดทะเบียนได้ ประเพณีเรามีก็ทำตามประเพณี งานบวชก็ทำตามประเพณี แต่เต้นไป กินไป รำไปควรยกเลิก เพื่อนฝูงญาติโยมไม่ไปก็อย่าไปโกรธ"

"เป็นอีกงานที่เราก็รู้ แต่หากถ้าเผื่อเพื่อนรัก ญาติพี่น้องไม่ไป ก็อย่าโกรธกัน ต้องให้อภัยกัน"

"ทางการแพทย์เรา ได้ปรึกษาเรื่องนี้มาเป็นเดือน ตัวที่จุดไฟให้ระเบิดอาจเป็นงานสงกรานต์ เพราะเป็นงานหนึ่งที่คนเคลื่อนไหวเป็นล้านนะ คนออกจากกรุงเทพฯ 5 ล้านคน แล้วเราต้องยอมรับว่าโรคนี้เป็นโรคชุมชนเมือง คนในชนบทยังสะอาดสะอ้านอยู่ ถ้าคุณกลับบ้าน คุณมีโอกาสพาเชื้อแพร่กระจายไปหมด คนชนบทเป็นพ่อแม่พวกเราที่อายุเยอะ มีโรคประจำตัว เป็นกลุ่มเสี่ยงตายเลยนะ เป็นแล้วมีโอกาสรุนแรง ระบบป้องกันด่านแรกๆ ในร่างกาย ก็ชราไปตามวัย พออายุมากก็ป่วยบ่อย"

"ช่วยได้ครับ อย่างที่มีการศึกษาวิจัย ต้องเข้าใจว่าผับไม่เห็นหลักร้อย แต่อยู่ในที่ที่แออัดมาก ลมพัดการระบายอากาศไม่ดี เชื้อก็วนเวียนอยู่ได้ น้ำลายต่างๆ ที่คุยกัน ถามจริง ผับที่ดื่มเหล้ากัน เขาจะกระซิบกระซาบกันเหรอ มีโอกาสติดเยอะมาก"

"มีไปแล้ว ไปแล้วก็ยังสืบได้ว่ารากจริงๆ มาจากกรุงเทพฯ เช่นคนมาเชียร์มวยและกลับไปบ้าน นี่แหละถือว่าอยู่ระยะที่ 2 เรายังสืบได้หมด"

"การแพร่เชื้อที่บอกว่าฟุ้งกระจายได้ไป 5-10 เมตร มันเป็นคนไข้ที่อาการหนัก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและอยู่ในห้อง อันนั้นเป็นหน้าที่แพทย์พยาบาลต้องดูแล ถ้าเก็บระยะห่าง 1 เมตรก็ปลอดภัย ที่ไหนรวมตัวกันเยอะๆ ก็ให้ห่างสัก 1 เมตรก็ปลอดภัย ถ้าอย่างเราคุยกัน ผมเป็น เชื้อก็อยู่บนโต๊ะ แต่เวลาไอจามจะออกมาเยอะกว่า สองหล่นไปพื้นข้างๆ สิ่งที่ติดได้ส่วนใหญ่เป็นมือเรา ที่เป็นเสมหะ เราก็แคะจมูก มันก็เข้าจมูก ตาได้ เข้าปากได้มั้ย เข้าได้น้อย เพราะมีความเป็นกรดสูงมาก ฆ่าเชื้อได้ทันที การแคะจมูกจะสำคัญที่สุด ถ้าเราใส่หน้ากาก มันก็ไม่เข้าจมูก แต่ติดที่หน้ากาก ทำให้เซฟขึ้นเยอะ"

"จริงครับ แก้ไขยากนะ ตอนนี้เตียงมีอยู่แสนกว่าเตียง รวมทั้งภาครัฐและเอกชน ในเตียงเหล่านี้จะมีเตียงที่รับทั่วไป แต่เตียงที่เอามาใช้สำหรับโรคนี้ก็มีห้องแยกด้วยนะ เรื่องเตียงพอเกลี่ยกันได้ อย่างคุณเป็นซีสต์มา 3 ปี ก็กลับไปเป็นอีก 3 เดือนไม่เป็นไร แต่ถ้าคลอดลูกนี่รอไม่ได้ บุคลากรแพทย์มี 3 หมื่นคน ดูแลคนเป็นโรคได้หมื่นคน

ซึ่งหมื่นคนไปนั่งเป็นผู้บริหารซะเยอะ ประเด็น 2 ใน 3 หมอสูฯ หมอศัลยกรรม เอามาทำงานได้มั้ย ต้องฝึกใหม่ แม้กระทั่งพยาบาลต้องมาฝึกใหม่หมด อันนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตัว ถามว่าทางการแพทย์เตรียมตัวหรือยัง เราเตรียมอยู่แล้ว เรารองรับระดับ 3 ถ้าเกิดขึ้นจริงเราทำได้"

"อันที่หนึ่งตั้งสติก่อน พระท่านก็สอนมาแล้ว ดูให้รอบคอบ ที่สำคัญอยากให้คิดว่าเรื่องนี้เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ อีก 5-10 ปีก็จะมีโรคใหม่ๆ มาอีก อยากให้ตั้งสติ ทำตัวให้ถูกต้องตามคำแนะนำ เรื่องนี้เป็นเรื่องโรคระบาด ให้ฟังคำแนะนำทางการแพทย์ อย่าไปฟังนักเลงคีย์บอร์ด เขาว่าไปเรื่อย ครั้งนี้โรคระบาดนี้จะจบด้วยวัคซีน ถามว่าเมื่อไหร่ที่จะพอมีวัคซีน เมื่อวานสหรัฐอเมริกาเริ่มทดลองวัคซีนเป็นครั้งแรกในคน 4 คนแล้ว ความหวังของเรา ครั้งแรกแล้วพรุ่งนี้เอามาใช้มั้ย ต้องอีกประมาณ 9-10 เดือน ต้องใช้เวลา ซึ่งถ้าเป็นวัคซีนปกติไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี อย่างเร็วที่สุด ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนแน่นอน ฉะนั้น 6 เดือนนี้สู้ไปด้วยวิธีการว่าอย่าให้ออกมาเป็นประกายไฟใหญ่ๆ ให้มันลามนิดๆ วันละ 30-40 ราย ทางการแพทย์ผมพอใจ ไม่อยากเห็นวันเดียวสามพันอย่างอิตาลี แบบนี้ยุ่งยากมาก ขั้น 3 นี่สู่แน่ แต่ประเภทอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่คนจะตายไปเยอะแยะ"