แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก


แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก

จากกรณีการหายตัวของ เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง โดยหายไปตั้งแต่ 11 พ.ค.63 กระทั่งพบศพน้องอยู่กลางป่าในภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านต้องเดินเท้าไปกว่า 4-5 กม.

ทีมข่าวได้คุยกับ นายพูนศรี ชัยมะโย อายุ 52 ปี พ่อของนายพิษณุพร ขอเปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี หลังลูกชายตกเป็นข่าว และถูกตั้งข้อสงสัย อาจทำให้คนเข้าใจผิด ซึ่งนายพูนศรี บอกกับทีมข่าวว่า ตนเป็นคนจ้างช่างโด่ง ช่างวา ตนก็นั่งเล่นอยู่ที่บ้านยายจำลอง เพราะสามียายจำลองเป็นพี่ชายของตน ตอนนั้นนายหำ ลูกชายยายจำลองก็อยู่กับตน ก็เดินมากินกาแฟอยู่ที่บ้านยายจำลอง แต่ยายจำลองกับสามีไม่อยู่บ้านไปหาน่อไม้



ทั้งนี้ตนก็เดินไปหาลูกชาย ก็เห็นอยู่ว่าลูกชายนอนอยู่ในบ้าน ส่วนลูกสะใภ้ก็ตื่นแล้วพบว่าทั้งลูกชายลูกสะใภ้ก็อยู่แต่ในบ้าน เวลาตอนนั้นน่าจะเกือบ ๆ 10.00 น. ซึ่งลูกชายตนก็ยังไม่ได้หายไปไหน ส่วนตนก็นั่งอยู่บ้านนางจำลองก็เห็นตลอดว่าไม่ได้ไปไหน รวมถึงช่างวาและช่างโด่งก็ยังอยู่ตรงนั้นตลอด กระทั่งมีช่วงไฟดับก็ไม่ได้ไปไหนกัน

ตนนั่งอยู่บ้านยายจำลอง ตนยังไม่ทราบข่าวว่าน้องหาย แต่เห็นเด็ก ๆ แก๊งจำปาเดินหาน้อง ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร กระทั่งพ่อน้องชมพู่กลับมาบ้าน ตนจึงทราบว่าน้องชมพู่หายไปแล้ว

แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก


อย่างไรก็ตาม ตนงงว่าทำไมมาตั้งข้อสงสัย เพราะช่วงน้องชมพู่หายตัวไป ลูกชายตนนอนอยู่บ้านตลอด ส่วนตัวตนอยากบอกกับคนที่คิดแบบนั้นว่า ถ้าไม่รู้พื้นที่จริง ๆ ทำไมต้องพูดกล่าวหากัน หากอยากรู้จริงมาหาตนเลย ตนจะบอกให้ อีกทั้งพระทำนายเรื่องไฟช็อต ตนอยากบอกว่ามันช็อตตอนไหน เพราะตนนั่งอยู่แถวนั้นไม่เห็นว่ามีน้องชมพู่เดินมาเลย หากถูกช็อตจริงตนก็ต้องช่วย หากพระรูปนั้นมีของดีจริงก็มาช่วยตำรวจหาเสื้อเลย

แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก


ทีมข่าวเดินทางมาพบ นางสุจิตรา หรือ ยุ้ย ภรรยานายแอ๋ม ระบุว่า วันเกิดเหตุน้องชมพู่หายตัวไป ยืนยันว่าสามีอยู่ที่บ้านตลอด จะมีออกบ้านก็ช่วงช่างมา แต่ไม่ได้ออกไปไกลบ้าน จะอยู่ใกล้ ๆ ช่วยช่างเดินสายไฟ อย่างไรก็ตามตนเองยืนยันว่าสามีไม่ได้ก่อเหตุ เท่าที่จำได้วันเกิดเหตุสามีใส่กางเกงยีนส์ขายาวนอนอยู่ที่ในบ้าน ถอดเสื้อนอนอยู่ แต่จำไม่ได้ว่าตัวไหน ทั้งนี้เรื่องเสื้อสีส้ม ตนก็ยืนยันว่าบ้านตนไม่มี ตอนนี้ไม่ได้เครียดอะไร จะมีคิดมากก็เพียงตอนที่ไปตลาดแล้วคนพูดว่าคนใกล้บ้านเป็นคนร้าย ซึ่งตนกังวลเรื่องนี้มากกว่า

ทีมข่าวสอบถาม นายพิษณุพร ชัยมะโย หรือ นายแอ๋ม คนข้างบ้านชมพู่ นำประวัติการโทรศัพท์ให้ทีมข่าวดู โดยเฉพาะวันที่ 11 พ.ค.63 ข้อมูกหายไปหลังจากตำรวจนำโทรศัพท์ไปตรวจสอบ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนนอนอยู่ที่บ้าน ไกวเปลลูกอยู่ ส่วนแฟนอยู่นอกบ้าน ทำงานบ้านประกอบกับดูช่าง ประกอบกับเช้าวันนั้นตนก็ไม่ได้ไปไหน

แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก


ตอนนั้นตนไม่ได้ออกมานอกบ้านเลย ไม่ได้ยินเสียงอะไรยกเว้นเสียงช่างไสไม้ ตนเพิ่งจะมาทราบว่าน้องหายก็ช่วง เวลา 10.00 น. ตนได้ยินเสียงชาวบ้านมาค้นหากัน ตนจึงออกไปค้นหา โดยเดินไปที่บ้านน้องชมพู่ คุยกันอยู่ระยะหนึ่งเกี่ยวกับข้อมูลสุดท้ายของชมพู่ จนเกือบจะเวลา 11.00 น. จากนั้นก็เดินไปตามป่ายางฝั่งขวามือ เดินไปทิศทางป่ามันสำปะหลังนางขวัญใจ และเดินวกกลับมาที่บ้าน เพราะตอนนั้นหาไม่เจอ และคิดว่าเด็กไปได้ไม่ไกล จนวันนั้นทั้งวันตนก็ไม่ได้ไปค้นหาอีก

ตนยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุ ไม่รู้คนอื่นจะคิดอย่างไร พี่สาวน้องชมพู่ก็ไม่ได้เข้ามาบ้านตน ซึ่งตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่สาวน้องชมพู่เดินผ่านบ้านตน ภรรยาก็ไม่ได้บอกตน เพราะหลังรู้ข่าว ภรรยาตนเดินไปบ้านชมน้องพู่แล้ว ซึ่งปกติน้องชมพู่ เดินเล่นอยู่หน้าบ้านตน แต่ไม่เคยเข้ามาในตัวบ้าน

แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก


ทั้งนี้ตำรวจเรียกตนไปสอบ 7-8 ครั้งแล้ว มีครั้งหนึ่งตำรวจนำโทรศัพท์ตนไปตรวจสอบ ปรากฏว่าประวัติมือถือที่โทรออกโทรเข้าหายไป โดยเฉพาะวันที่ 11 พ.ค.63 วันที่น้องชมพู่หายตัวไป ตนไม่ทราบว่าใครลบ คาดว่าอาจเป็นตำรวจ ซึ่งตนเองคุยอยู่สายเดียว คุยกับนายบุญทัน

นอกจากนี้หลังจากเจ้าหน้าที่นำโทรศัพท์ตนไปตรวจสอบแล้ว ปรากฎว่าตอนำมือถือมาส่งคืน หน้าจอโทรศัพท์กลับแตก แต่ตำรวจก็ไม่ได้ชี้แจงอะไร เพราะผู้ที่นำมาคืนเป็นเจ้าหน้าที่คนละคนกับที่มาขอมือถือตนไป ตำรวจก็ไม่ได้จ่ายค่าเสียหาย แต่ลึก ๆ ตนไม่ได้อยากได้ค่าเสียหาย แค่อยากรู้ว่านำมือถือไปทำอะไร

แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก


ส่วนตัวไม่ได้กังวลเรื่องการลบข้อมูล เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด ตอนไปสอบปากคำถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่ด้วย ขณะนั้นไปสอบราย 3-4 ชม. โดยไปสอบที่โรงเรียนบ้านกกตูม ตำรวจใช้มือตบบริเวณกลางหลังของตน 2 ครั้ง เตะที่ขาเบา ๆ อีก 2 ที คล้ายพยายามจะให้ตนรับสารภาพ ส่วนตัวไม่กังวลว่าจะถูกซ้อม หรืออกหมายจับ เพราะยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุ หากถูกจับก็พร้อมสู้คดี แต่ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องการประกันตัว หรือเตรียมอะไรไว้

ทีมข่าวเดินทางมาพบ นายพิษณุพร ชัยมะโย หรือ แอ๋ม คนข้างบ้านน้องชมพู่ ซึ่งตำรวจพาตัวขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา โดยบอกว่าจะพาไปเดินเล่น ซึ่งนายแอ๋ม พาทีมข่าวขึ้นมาที่เชิงภูเหล็กไฟ และอธิบายกับทีมข่าวว่า วันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย พาขึ้นมาที่ภู โดยเดินลัดป่ามันสำปะหลังมุ่งขึ้นเขา เดินขึ้นเส้นทางกลางเขามุ่งหน้าไปบนภู โดยไม่ได้บอกปลายทางว่าเป็นสถานที่ใด

แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก


ระยะเวลาที่เดินราว 40-50 นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาหา ขอให้มาพบที่บ้าน ก่อนจะบอกว่าให้นำทางขึ้นเขา เมื่อสอบถามว่าจะไปทำอะไร ก็บอกว่ามาเดินเล่น ระหว่างทางไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องคดี มีแต่การคุยเรื่อยเปื่อย ไม่ได้คุยเรื่องคดีความแม้แต่คำเดียว

โดยนายแอ๋ม เป็นคนเดินนำทางไป ระหว่างทางก็พยายามสอบถาม แต่ก็ไม่มีคำตอบอะไร ทั้งนี้นายแอ๋ม ได้พาทีมข่าวเดินไปได้ถึงเพียงพักที่ 2 ซึ่งระหว่างทางไม่ได้แวะที่ไหน เดินมุ่งหน้าไปอย่างเดียว เวลาพักก็พักแค่ข้างทาง นั่งเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร ไม่มีการค้นหา หรือพลิกหินแต่อย่างใด

เมื่อถึงจุดที่คาดว่าเป็นพักที่ 3 ก็บอกว่าไม่เดินต่อ และกลับลงมาข้างล่าง จากนั้นก็ถามเพียงว่ากลุ่มวัยรุ่นได้เข้ามาเล่นที่บ้านเปิ้ลหรือไม่ ซึ่งตนไม่ทราบ ตนยืนยันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ขึ้นภูเหล็กไฟ นับตั้งแต่วันที่น้องชมพู่หาย ครั้งแรกขึ้นกับตำรวจ เพราะวันค้นหาก็ไม่ได้ขึ้นมาที่เขา

แอ๋มผวา ถูกพาขึ้นเขาขู่ให้รับคดีชมพู่ งงโดนยึดมือถือลบเบอร์ทิ้ง-หน้าจอแตก

คลิป
vvvvvvvv
vvvvvv
vvvv
vv
v


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี อัมรินทร์TV


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์