พ่อแจงภาพ เด็กอนุบาลโดนแก๊สน้ำตา หลังมีดราม่าพาลูกไปม็อบ-ใช้เป็นโล่บัง

จากกรณีโลกออนไลน์เผยแพร่ เด็กนักเรียนอนุบาลรายหนึ่ง ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังโดนแก๊งน้ำตา จากเหตุการณ์บริเวณแยกเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย.63 โดยมีการระบุว่า " เด็กนักเรียนอนุบาลกลับจาก รร.เดินผ่านสี่แยกเกียกกาย เจอแก๊สน้ำตา #whatishappeninginthailand #ม็อบ17พฤศจิกา เวลา 16.00 น."

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมาพบกับ นายไพรรัช กาญจนวรุตม์ อายุ 50 ปี คุณพ่อ "น้องพอต" อายุ 3 ขวบ เด็กนักเรียนที่ถูกน้ำของเจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดใส่นั้น มีการเปิดเผยถึงข้อเท็จจริงกับทีมข่าวว่า

เหตุเกิดในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ ตนเองเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ พร้อมลูกชายสองคน โดยจะพาไปหาคุณป้า ซึ่งมีการนัดแนะว่าจะทานข้าวเย็นพร้อมกันในย่านเกียกกาย ซึ่่งคุณป้าของเด็กๆ ทำงานอยู่บริเวณเกียกกาย ตนเองจึงใช้เส้นทางถนนประชาราษฏร์สาย 1 แต่บางครั้งก็จะใช้ถนนอื่น แต่ก็จะผ่านอาคารรัฐสภา

ขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปถึงจุดที่มีการชุมนุมและเป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการฉีดน้ำเข้ามาพอดี แต่ห่างจากการฉีดน้ำประมาณ 100 เมตร ตนจึงรีบลงจากรถจักรยานยนต์ จอดรถไว้ริมฟุตปาธ และพาเด็กเดินหนี จากนั้นมีการ์ดผู้ชุมนุมเข้ามาบอกว่าห้ามเข้าไป ทันใดนั้นลูกชายคนเล็กก็ร้องไห้ ว่าแสบตา อาเจียน น้ำหู น้ำตาไหล

พ่อแจงภาพ เด็กอนุบาลโดนแก๊สน้ำตา หลังมีดราม่าพาลูกไปม็อบ-ใช้เป็นโล่บัง

กระทั่งมีอาสามูลนิธิ นักข่าว มาช่วยกันพาไปนั่งจุดปลอดภัย และทำการปฐมพยาบาลให้ลูกชาย และตนเองพบกับ "แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์" ซึ่งเดินเข้ามาปลอบใจลูกชาย และพยายามกล่าวขอโทษตลอดเวลา ว่าดูแลน้องไม่ได้ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้โทษใครผิดถูก แต่เป็นเพราะตนเองที่สับสนกับเส้นทาง และหลงเข้าไปเอง ที่ผ่านมาก็มักจะหลงกับคุณป้าของเด็กๆ เป็นประจำ และยอมรับว่าไม่ชินทางจริงๆ

ทั้งนี้มีภาพตนเองกับลูกชายออกไปในโลกโซเชียลเป็นที่วิจารณ์ในแง่ลบว่าตัวเองใช้ลูกไปเป็นเกาะกำบัง กล่าวหาไปต่างๆ นานา ซึ่งไม่ใช่ความจริง และขอให้ทุกคนลองคิดในหัวอกของความเป็นพ่อเป็นแม่ว่า ใครจะทำเช่นนั้น และขอยืนยันว่าหากรู้มาก่อนหน้านี้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ ตนเองก็ไม่คิดจะพาลูกไปบริเวณนั้นเช่นกัน เป็นพ่อคนก็รักลูก

อย่างไรก็ตามทีมข่าวได้สอบถาม "น้องพอต" ถึงอาการ โดยน้องพอตบอกว่า ตอนนั้นแสบตา แสบแขน โดยตอนนี้อาการคุณพ่อน้องพอตบอกว่ามีเพียงน้ำมูกไหล ส่วนหากมีอาการอื่นๆ เพิ่มขึ้นคงพาลูกไปพบแพทย์ ซึ่งขณะนี้ลูกก็หยุดโรงเรียนยาวถึงวันที่ 23 พ.ย. 2563