นพ.ระวี เผยอดีตเคยคิดโค่นสถาบัน ลั่นอีก10ปี ม็อบจะเปลี่ยนความคิด


นพ.ระวี เผยอดีตเคยคิดโค่นสถาบัน ลั่นอีก10ปี ม็อบจะเปลี่ยนความคิด

รายการ "ถามสุดซอย" ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.20 - 23.15 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส" เปิดใจสัมภาษณ์"นพ.ระวี มาศฉมาดล" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เป้าหมายสูงสุดของคณะราษฎรคืออะไร

ม็อบสาดสีต้องการแก้แค้นตร.?
"ถ้าคนฟังความหมาย ก็คงจะเป็นจุดที่ว่าเขาเอาคืนที่ตร.ทำเขาก่อน เขาเลยสาดสีคืน ถ้าดูทีแรกจะเป็นอย่างนั้น"

แต่เขาไม่ได้สาดสีใส่ตร.อย่างเดียว เล่นพ่นไปทั่ว?
"เมื่อวานนอกจากสาดสีแล้ว ที่สำคัญ ยังทำลายทรัพย์สินราชการบางส่วน แต่ที่น่าตกใจคือการไปพ่นสีฐานป้ายพระพันปีหลวง อันนี้เป็นสิ่งที่คนไทยจำนวนมากไม่สามารถรับได้"

ไม่ใช่พ่นสีธรรมดา แต่ใช้ถ้อยคำรุนแรง ทำไมถึงกล้าทำ?
"อันนี้คือปัญหา ผมคิดว่าข้อเรียก 3 ข้อ เป้าหมาย 3 ข้อมีการพูดจากแกนทางความคิด เขามองข้ามเป้าหมายท่านประยุทธ์ไปสู่ข้อ 3 เป้าหมายหนึ่งกับสอง ทำไมเขาไม่นอนสภาที่เกียกกาย ทำไมสลายการชุมนุม เพราะเขามองแล้วว่าเป้าหมายหนึ่งสอง มีโอกาสบรรลุแล้ว เพราะรัฐสภามีโอกาสรับร่างหนึ่งกับสอง พรรคร่วมฝ่ายค้านกับรัฐบาล สองร่างตรงกันตรงที่หนึ่งให้แก้มาตรา 256 เปิดโอกาสให้เลือกตั้งสสร. ทั้งประเทศ แล้วมาร่างใหม่ทั้งฉบับ ใช้เวลาปีเศษๆ ก็ร่างเสร็จ หลังเสร็จแล้วก็ต้องเข้าสู่กระบวนการนายกฯ ยุบสภา ข้อหนึ่งข้อสองจะบรรลุภายในเวลาปีครึ่ง ดังนั้นสิ่งที่เขาเตรียมทำก็คือการเลี้ยงกระแสให้มีการเรียกร้องข้อหนึ่งข้อสองไปเรื่อยๆ แต่ที่สำคัญคือเขาต้องเข้าสู่โหมดข้อเรียกร้อง ข้อที่ 3"




นายกฯ บอกว่าตอนนี้จะใช้กฎหมายทุกมาตราที่มีอยู่กับผู้ชุมนุม นั่นแปลว่าตร.มีอำนาจเต็มที่แล้ว?

"ต้องชี้แจงว่านายกฯ แถลงแบบนี้ เพราะจากการเรียกร้องเริ่มมีความรุนแรง และไปพ่นสีที่พระบรมฉายาลักษณ์พระพันปีหลวง การประกาศอย่างนี้หมายความว่าจะใช้มาตรการเข้มข้นจากกฎหมายทุกฉบับและมาตรา คำถามว่าใช้มาตรา 112 หรือไม่ ผมคิดว่าพระองค์ท่านมองการไกล เข้าใจธรรมชาติม็อบ เพราะเป็นคนในแผ่นดินพระองค์ท่าน พระองค์ท่านจึงแจ้งนายกฯ ห้ามใช้มาตรา 112 ในช่วงที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เริ่มมีการรุนแรง รัฐบาลก็ต้องประกาศอย่างนี้แต่ถามว่าจะใช้มาตรา 112 หรือไม่ ส่วนตัวผมคิดว่ารัฐบาลไม่ควรใช้ 112 ใช้ 116 มาตราอื่นดีกว่า เพราะถ้าใช้ 112 คนอาจเข้าใจผิดได้ ว่าใช้ 112 มากลั่นแกล้งผู้ร่วมชุมนุม"

ถ้าใช้ขึ้นมา จะออกมาเป็นยังไง?
"ผู้ที่กระทำความผิด ที่ไปจาบจ้วงสถาบันก็จะมีโทษที่หนักขึ้น"

เรื่องการสาดสี ทำไมเขาถึงกล้าทำ มีใครอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า เพราะตามท้องถนน มีกล้อง มีคนถ่ายคลิป สามารถจับตัวผู้กระทำผิดได้แต่ยังกล้าเพราะอะไร?
"กรณีกล้าขว้างปาสีใส่รั้วตร. ผมว่าธรรมดามาก แต่การที่เขาสาดสีใส่พระบรมฉายาลักษณ์ ม็อบทุกม็อบต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง เป็นแกนนำทางความคิด เป็นแกนนำแบบเปิดเผย ต้องมีแกนนำอยู่เบื้องหลังในการวางเกม เขาอ้างว่าของเขาไม่มีแกนนำ ทุกคนคือแกนนำ อันนั้นเอาไว้หลอกเด็ก ไม่งั้นจะเอางบไหนมา การที่เขาทำแบบนี้เขาระบุชัดเจนเป้าหมายคือต้องการปฏิรูปสถาบัน ภายใต้ข้ออ้าง แต่ความจริงจะปฏิรูปหรือโค่นล้มสถาบันก็เป็นอีกเรื่อง"

จากการแสดงออกเหมือนโค่นล้มหรือเปล่า?
"เป็นสิ่งที่เราตีความหมายได้ จากสิ่งที่แกนนำเขาเขียนหนังสือ สัมภาษณ์ และพูดออกมา ไม่รวมที่ไปฟังเขาพูดในม็อบ เขาใช้เงื่อนไขพลเอกประยุทธ์ ซึ่งเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ สืบทอดอำนาจจากเผด็จการทหารมาก่อน เป็นจุดอ่อนที่เขาใช้เป็นเงื่อนไขในการก่อม็อบ ถ้าเขาบอกว่าจะก่อม็อบด้วยเหตุผลปฏิรูปสถาบัน ใครจะเข้าร่วม เขาก็ใช้พลเอกประยุทธ์เป็นเหยื่อทางการเมือง"




คนสาดสีใส่พระบรมฉายาลักษณ์ บ้านไม่มีทีวีเหรอเพราะอะไรถึงมีความคิดแบบนั้น?

"คนเป็นฐานของเขา แนวร่วมของเขา มี 3 กลุ่มหลัก กลุ่มคนที่ไม่เอาสถาบันมาตั้งแต่สมัยอดีต มวลชนแดงบางส่วนที่ไม่เอาสถาบัน สองคือคนรุ่นใหม่ที่กระแสทั่วทั้งโลก ต้องการอิสระเสรี เขามองไม่เห็นว่าประเทศยืนอยู่ได้เพราะกษัตริยไทยพิทักษ์ไทยยังไง สามที่อยากวิเคราะห์ว่าเป็นไปได้มั้ย ต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกากับจีนที่มีสงครามการค้าแย่งชิงอำนาจกันอยู่ ไทยมีนโยบายต่างประเทศที่สุดยอด คุมความเป็นกลางในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอเมริกาก็ไม่พอใจ โดยเฉพาะราชวงศ์ไทยมีสัมพันธ์กับจีนเป็นอันดับโลก ยิ่งเป็นรัฐบาลทหาร ทางยุโรป อเมริกา เขาถือว่าต้องเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ เขาก็ไม่ชอบรัฐบาลทหาร สองสามเหตุผลที่ประกอบ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่อเมริกาอาจเป็นแนวร่วมของม็อบ อาจมีต่างประเทศเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่"

การทำแบบนี้ คนไทยที่รักสถาบัน เหมือนถูกย่ำยี เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้ถูกปลูกฝังมาเหรอ?
"ในสมัยผมเป็นนิสิตนักศึกษาผมก็ไม่เอาสถาบันนะ ต้องการโค่นล้มสถาบัน ณ วันนั้นเราก็เป็นคนรุ่นใหม่เหมือนตอนนี้ เพราะการได้ข้อมูลของเรา แม้เราศึกษาประวัติศาสตร์ แต่สิ่งที่เราได้รับก็เห็นว่ามีจุดอ่อนยังไง แต่หลังจากที่เราโตและศึกษามาเรื่อยๆ นักศึกษาตอนนั้นก็กลับมาอยู่ข้างสถาบัน เพราะเข้าใจมากขึ้น ผมคิดว่าคนรุ่นใหม่ที่ไม่เอาสถาบันในตอนนี้ คอยดูอีก 10 ปีจะเปลี่ยนความคิด"

การที่นายกฯ ไม่ได้ใช้มาตรา 112 ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมย่ามใจ?
"เป็นในรูปแบบนั้นได้ เพราะไม่เหมือนแกนนำแดงในอดีต แต่ไม่ใช่หลักตรงจุดนี้ การที่ไม่ใช้มาตรา 112 มันสอดคล้องกับการใช้รัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ ใช้มาตราอื่นก็ได้ที่ใกล้เคียงกัน การที่เราจะให้คนนึงกลับใจ ไม่ใช่ไปบังคับไปจำคุกเขา ต้องให้เขาค่อยๆ ตื่นตัวว่าขนาดทำผิดขนาดนี้ พระองค์ท่านยังมีเมตตา ศาลตัดสินจำคุกรอลงอาญาเล็กๆ น้อยๆ สังคมไทยไม่ใช่สังคมที่รุนแรง เป็นเพราะพระบารมีพระองค์ท่านช่วยและคุณก็ยังอยู่ได้ คนรุ่นใหม่จะเป็นพลังในอนาคตไม่ใช่รุ่นเรา ให้เขาสำนึกเอง ดังนั้นไม่มีทาง เหมือนพวกผมที่เข้าป่าไป ในที่สุดกลับมาปกป้องสถาบันเยอะแยะ"

บางคนสำนึกเร็ว บางคนสำนึกช้า บางคนไม่สำนึกเลย ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ จะทำให้ประชาชนลุกฮือมาจัดการกับม็อบเอง เป็นไปได้มั้ย?
"เหมือนเหตุการณ์วันที่ 17 เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง และเป็นผลเสียต่อประเทศไทย ไม่ว่าฝ่ายไหนจะแพ้ ฝ่ายไหนชนะ คนแพ้แน่ๆ คือประเทศไทย"




คุณหมอจากคนไม่เอาสถาบัน มาเปลี่ยนความคิดได้ยังไง?

"จากการศึกษา และได้เห็นบทบาทพระองค์ท่าน ในหลวง ร.9 เราเห็นว่าข้อมูลที่บรรจุในสมองเรามันไม่ใช่ เป็นพระองค์ท่านทำความเจริญต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล ไม่ใช่ผมคนเดียวนะ เยอะแยะหมดที่เปลี่ยน และคิดว่าคนรุ่นใหม่ 5-10 ปีเขาก็จะเริ่มเปลี่ยน"

แต่ 5-10 ปีจะเกิดการเรียกร้องวนเวียนแบบนี้ไม่จบ?
"ถ้าได้รัฐธรรมนูญเต็มใบมาแล้ว นายกฯ ยุบสภาแล้ว ก็ไม่มีประเด็นก่อม็อบอีกแล้ว"

คิดว่าจะจบเหรอ ถ้าข้อ 3 เขายังไม่ได้?
"คงอยู่ระดับนึง แต่มีกระแสถึงขั้นก่อม็อบรุนแรงก็ต้องตามดูอีกที ผมว่าเขาจะเห็นพลังการปกป้องสถาบันที่มีมากกว่า"

ทนายอานนท์ เขาออกมาบอกว่ารัฐบาลมาประกาศสงครามพวกเขาจะยกระดับการชุมนุม และบอกว่าข้าราชการต้องเลือกข้าง การเลือกข้างจะช่วยอะไรเขา?
"มันเป็นยุทธวิธีของเขา การพ่นสีพระบรมฉายาลักษณ์ รัฐบาลก็ต้องใช้กฎหมายที่รุนแรงขึ้น เขาก็ต้องสวนทาง มีเจ้าหน้าที่คุกคนนึงที่ออกมาโต้คุณไมค์ว่าเดี๋ยวเจอกันอีกในคุก คนปกป้องรัฐบาลมีเยอะแยะ"

คิดว่าการยกระดับการชุมนุมจะไปถึงขั้นไหน?
"ถ้าผมคาดการณ์ เขามองเห็นแล้วว่าในที่สุดข้อหนึ่งข้อสองปีครึ่งเขาจะบรรลุเป้าหมาย เขาเพียงแต่เลี้ยงกระแสก็พอ แต่เป้าหมายข้อที่สาม เขายกระดับตรงนี้ แต่ขอวิเคราะห์ว่ายุทธวิธีมีคนพูดมากว่าม็อบทั่วไปทั่วโลก ต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง เอาแค่ข้อหนึ่ง-สองก็พอแล้ว แต่ผมมาวิเคราะห์จากพฤติกรรม คิดว่าเป็นความตั้งใจของเขา เขาคิดว่าคนรุ่นใหม่ถือข้างเขาแน่นอน เขาเลยเดินหน้าถล่มมาเป้าหมายที่สามชัดเจน โดยภายใต้ข้ออ้างว่าปฏิรูปสถาบัน"




มีการเขียนข้อความรุนแรงจาบจ้วง จะไปถึงไหนอีก?

"วันที่ 25 เขาจะไปชุมนุมที่สำนักงานทรัพย์สิน พอดีมีข่าวว่าท่านพลเอกอภิรัตน์ ถูกแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการ พอดีกันเป๊ะ เป้าหมายเขาคือจะยกระดับการต่อสู้สู่เป้าหมายที่สาม เขาน่าจะไปแสดงสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง แต่การที่เขาดำเนินนโยบายตรงๆ แบบนี้ก็จะทำให้บุคคลที่ร่วมกับเขาบางส่วนแยกตัวออกมา ส่วนคนรุ่นใหม่ก็อาจฟังพ่อแม่ เพราะมันเริ่มรุนแรง เพราะคนไทยส่วนมากก็รับไม่ได้อยู่แล้ว จะเห็นว่าคนออกมาปกป้องสถาบันมีจำนวนมากกว่า ซึ่งยุทธศาสตร์เขาจะตีตรงมาข้อที่สาม โดยหลักทฤษฎีเขาคือทุบทุกวันก็อาจจะชนะ เขาอาจคิดแบบนี้ เลยจู่โจมโดยตรง"

คิดว่าจะรุนแรงถึงจุดไหน?
"ก็อยากเรียกร้องม็อบคณะราษฎร ถ้าคุณยกระดับความรุนแรง แล้วเกิดมือที่สามขึ้นมา ฝ่ายคุณจะแพ้ และประเทศจะแพ้ ประชาชนจะแพ้ ยกตัวอย่างวันที่ 17 ถ้าคิดในแง่ดี คนทำลายรถตร.อาจไม่ใช่ม็อบก็ได้ อาจเป็นมือที่สาม รวมทั้งการยิงคืนนั้นก็อาจเป็นมือที่สามที่พกอาวุธเข้าไป ยิ่งเขาบอกว่าไม่มีแกนนำ ภาพวันนั้นแกนนำกอดกันระหว่างเหลืองกับม็อบ 3 นิ้ว เขายังขว้างของกันอยู่เลย ถ้าม็อบนิสิตธรรมดาเขาไม่น่าทำแบบนี้ แต่มือที่สามเขามีโอกาสทำได้ทันที"

เรื่องนี้จะจบยังไง?
"คำตอบแรกคือรัฐบาลถอยแล้ว ที่จะให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หมดอำนาจสว.ในอนาคต เข้าสู่โหมดประชาธิปไตยเต็มใบ ม็อบต้องเข้าใจยว่าการดำเนินการที่จะบรรลุเป้าหมายข้อที่สามของคุณยังอีกนาน การที่คุณก่อความรุนแรง ผู้แพ้คือคุณเองและประเทศ อย่างที่สามประชาชนก็ต้องยืนหยัดปกป้องสถาบัน และประเทศชาติ และนั่งคุยอธิบายลูกหลาน ให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอย ต้องนำหลักรัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ ปัญหานี้แก้ไม่ยาก เป็นเรื่องระหว่างวัย เจนเอ็กซ์ เจนวาย"



vvvvvvv
vvvvv
vvv
v


เครดิตแหล่งข้อมูล : ถามสุดซอย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์