ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน


 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน

นพ.ประสิทธิ์ ลั่น! ยอดผู้ติดเชื้อขึ้่นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน แจงเหตุทำไมคนติดเชื้ออายุน้อย-อาการหนัก อัปเดตอาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ใส่เครื่องช่วยหายใจ

รายการโหนกระแสวันที่ 4 ม.ค. 64 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ โดยได้สัมภาษณ์เปิดใจ ศ.ดร.นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ในมุมอาจารย์หนักใจมั้ย
ถ้าใครติดตามดู เคยพูดเรื่องนี้มาครึ่งปีแล้ว ว่าจะมีการติดเชื้อระลอกใหม่แน่ ที่บอกว่ามีแน่ไม่ได้เป็นการคาดเดาอย่างเดียว มันเป็นการศึกษาพฤติกรรม ศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 100 ปีที่แล้ว เมื่อประเทศต่างๆ ในโลกใบนี้ติดเชื้่อรอบแรก อย่างไข้หวัดใหญ่สเปน แล้วพอทุกอย่างเริ่มดีขึ้น มีการผ่อนคลาย พอเริ่มมีการระบาดในระลอกสอง การปิดประเทศปิดเมืองต่างๆ มันจะช้า เพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากถูกควบคุม อีกทั้งเรื่องเศรษฐกิจ กว่าจะตัดสินใจเรื่องล็อกดาวน์อีกครั้ง ก็เกิดเหตุการณ์ระลอกที่ 2



จริงหรือเปล่า ที่บอกว่าถ้ามีการระบาดระลอกใหม่จะมากกว่าเดิม 5 เท่า
ข้อมูลในเวลานี้ เรามี 75 ประเทศที่มีการระบาดรอบ 2 ใน 75 ประเทศ 88 เปอร์เซ็นต์ รอบที่้ 2 รุนแรงกว่ารอบที่ 1 เป็นตัวเลขที่อ.ธีระ ได้รวบรวมไว้ เอาตัวเลขนี้เป็นตัวตั้ง จากตัวเลขอันนี้ซึ่งเป็นการศึกษาจากข้อมูลจริงย้อนหลัง ยกตัวอย่างประเทศไทย เรามีรอบแรกตัวเลขสูงสุดต่อหนึ่งวัน ตัวเลข 188 รายต่อหนึ่งวัน ข้อมูลที่เราศึกษาใน 75 ประเทศที่ระบาดรอบสอง พบว่าตัวเลขพีคไป 5 เท่า จากตัวเลขสูงสุดของรอบแรก นั่นคือตัวเลขประเทศไทย ที่เราน่าจะได้เห็นคือ 1 พันราย แต่เป็นตัวเลขที่ศึกษาประเทศที่มีการระบาดระลอก 2 ไม่ได้หมายความว่าตัวเลขต้องเป๊ะๆ ตามนี้ เป็นการอาศัยข้อมูลจากสิ่งที่เกิดขึ้นมาคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น

ล่าสุด อ.ยงค์ บอกว่ามีสายพันธุ์อังกฤษเข้ามาอยู่ในประเทศไทย กำลังคุมกันอยู่ เป็นยังไงกันแน่

อยากให้พวกเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างถูกต้อง เพื่อประยุกต์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ โควิด-19 เป็น RMA ไวรัส เราเปิดตลอดเวลาว่าการกลายพันธุ์ของมันเป็นเรื่องปกติ นิสัยของมันคือกลายพันธุ์ ถ้าการกลายพันธ์ของมันเล็กๆ น้อยๆ ไม่ก่อให้เกิดผล ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้อย่างน้อยสองรอบแล้วที่การกลายพันธุ์ของมัน ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดได้เร็วกว่าเดิม สายพันธุ์เดิมที่เกิดขึ้นที่อู่ฮั่น ที่เราเรียกคร่าวๆ ว่า D 614 เราเริ่มปลายปีที่แล้ว จนต้นปีนี้ ประมาณเดือนก.พ. พบว่าทางตะวันตกเริ่มมีการกลายนพันธุ์เร็วขึ้น ตอนนั้นก็เริ่มมีการศึกษา รอบนั้นเริ่มศึกษาว่ามีการกลายพันธุ์หรือยัง รอบนั้นที่ชัดๆ คือเดือนเม.ย เราเจอสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า G614 ซึ่งแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิมประมาณ 10 เท่า และสายพันธุ์นี้โดยหลักธรรมชาติ สายพันธุ์ที่โตเร็วจะทำให้สายพันธุ์ที่โตช้าถูกกำจัดออกไป สายพันธุ์ที่โตเร็วจะมาทดแทน ณ วันนี้สายพันธุ์ทั่วโลกที่เกิดการระบาดโควิด-19 เป็น G 614 รวมทั้งที่มาจากเมียนมา เข้ามาที่เรา 60 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็น G 614 ทีนี้ประมาณเดือนก.ย. ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักร ไม่ใช่อังกฤษนะ พบว่ามีการแพร่ระบาดที่เร็วขึ้นกว่าเดิม จากการลงไปศึกษารหัสพันธุกรรม พบว่ามันมีการกลายพันธุ์อีก แต่คราวนี้การกลายพันธุ์เกิดท 23 จุดของตัวไวรัส การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นมีการไปกระทบจุดที่มันมีการสร้างโปรตีน ทำให้เกิดการเกาะติดในตัวคนได้เร็วขึ้น สายพันธุ์นี้ที่เราเรียก B117 มันแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิม ตอนเดือนก.ย. ที่สหราชอาณาจักรเริ่มเจอ พอเดือนพ.ย. ปรากฎว่า 1 ใน 4 การแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักรเริ่มเป็นสายพันธุ์นี้ แต่พอกลางเดือนธ.ค. ที่เพิ่งผ่านมา 2 ใน 3 เป็นตัวนี้แล้ว B117 ฉะนั้นมันเร็วมาก จึงเป็นเหตุผลว่า 7 ประเทศในยุโรปจึงปิดไม่ให้คนในสหราชอาณาจักรเข้าประเทศ เพราะกลัวมากว่าสายพันธุ์นี้เข้าไปมันจะยุ่งยากมาก 

 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน

ขณะเดียวกัน สายพันธุ์นี้ผมติดตามตัวเลขเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มันกระจายไป 17 ประเทศ ตอนนี้มันกระจายไปแล้ว 30 กว่าประเทศ มันเกิดขึ้นเท่าตัว สายพันธุ์นี้มันเข้าไปที่เวียดนามเมื่อ 5-6 วันที่แล้ว เวียดนามเจอรายแรก เป็นคนที่กลับมาจากสหราชอาณาจักร ของเราก็มีรายงานว่าเจอครอบครัวหนึ่ง ที่มาจากสหราชอาณาจักร หลักการใหญ่ๆ คือตอนนี้เราคงบอกไม่ได้ว่ากันไม่ให้คนจากสหราชอาณาจักร เพราะตอนนี้มันไปกว่า 30 ประเทศแล้ว ฉะนั้นใครก็ตามที่มาจากต่างประเทศ ต้องรัดเข็มขัดเข้มงวดจริงๆ หย่อนไม่ได้แม้แต่วันเดียว เพราะเราคาดการณ์ไม่ได้แต่ละคนที่เข้ามา แล้วเวลาเราศึกษาสายพันธุ์ใด มันไม่ได้ง่าย เพราะเราต้องไปถอดรหัสพันธุกรรม มันไม่ใช่หลักปกติที่เราจะทำ ดีทื่สุดคือตอนนี้ใครก็ตามที่กลับมาจากต่างประเทศ ต้องอยู่ในที่ควอเรนทีน หย่อนไม่ได้

ตอนนี้ที่อยู่สมุทรสาครคือ G614 แต่ตอนนี้ที่เข้ามา 4 แล้วคือ B117 ถูกเก็บเอาไว้ ไม่ได้ปล่อยมาให้กระจายออกไป เชื้อตัวนี้ติดเร็ว 70 เปอร์เซ็นต์ คืออะไร ติดเร็ว 70 เท่าหรืออะไร
ระยะเวลา สมมติจาก 1 ตัวเป็น 2 ตัว มันใช้เวลาสั้นลง ฉะนั้นมันเพิ่มจำนวนได้เร็วขึ้น สองความสามารถของมัน เข้าไปมัลติกับเซลส์ของเรา ทำให้การติดตัวเราเยอะมากขึ้น มีโอกาสที่เข้าไปสัมผัสได้เร็วขึ้น และเพิ่มจำนวนในตัวเราได้เร็วขึ้น เมื่อตัวเราเพิ่มเร็วขึ้นโอกาสแพร่กระจายก็จะสูง

ถ้าวัคซีนที่ออกมา จะกำจัดตัวนี้ได้หรือเปล่า
สมมติปากกาคือตัวไวรัส ก็มีพันธุกรรมของมัน เวลาเราทำวัคซีนเราจะเลือกตำแหน่งที่มันเสถียรที่สุด รหัสพันธุกรรมที่มีโอกาสกลายพันธุ์น้อยที่สุด ถ้าตรงนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง วัคซีนที่เข้าไปก็จะเจอมัน แต่ส่วนอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ต่อให้มันเปลี่ยนแปลงไป แต่วัคซีนไม่ได้มองหามัน มองหาแค่นี้ วัคซีนก็จะไม่พลาด จน ณ วันนี้วัคซีนที่ผลิตในโลกนี้ เวลานี้ ยังครอบคลุมทั้ง G614 และ B117 ยังไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนหามันไม่เจอ ตอนนี้ยังปลอดภัยอยู่ สิ่งสำคัญคือไวรัสกลายพันธุ์เป็นประจำ เราไม่รู้อนาคตจะเกิดเหตุการณ์กลายพันธุ์ตรงนี้อีกหรือเปล่า แต่หลักการคนผลิตวัคซีนเขาต้องหาตรงตำแหน่งที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด เสถียรที่สุด ตอนนี้ก็ยังเชื่อว่า วัคซีนยังจัดการได้

 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน

วัคซีนปัจจุบันมีหลายตัวมาก ล่าสุดที่อ่านข่าวมา มีตัวนึงไฟเซอร์ที่คนอเมริกันฉีดกัน มีบุคลากรทางแพทย์ฉีดเข้าไป ผ่านไป 8 วันติดไวรัสโควิด แล้วมีการแถลงออกมาเลย อันนี้คืออะไร

อันดับแรกตอนนี้เรามีวัคซีน 18 ตัว ของ 18 บริษัท ที่เข้าสู่ระยะ 3 หรือจะจบระยะสาม เราต้องจัดสรรทดลองและเข้าระยะ 1 2 3 ตอนนี้มี 18 บริษัท ที่ไปเร็วมากคือไฟเซอร์ที่ออกมาก่อน วัคซีน 18 ตัวนี้ มีกลไกการทำงานหรือการผลิตอยู่ 4 แบบ มี 3 บริษัทเป็นของอเมริกา เร็วสุดคือไซเบอร์ อีกหนึ่งคือ Moderna ของอเมริกันเหมือนกัน หลักการวัคซีนต้องฉีด 2 เข็ม ไม่ใช่เข็มเดียว ฉีดเข็มแรก ภูมิต้านทานเรายังไม่ดีหรอก ต้องฉีดเข็มที่สอง แล้วหลังจากฉีดเข็มที่สองไป 1 อาทิตย์ภูมิคุ้มกันเราถึงจะถึงระดับที่สามารถป้องกันเชื้อได้ เพราะฉะนั้นระหว่างการฉีดวัคซีนหลายคนเข้าใจผิด อันนี้คือน่ากลัว มันไม่ใช่ สองอันนี้ดีมาก เขาออกมาทำความเข้าใจคนอเมริกันแล้วว่าถึงแม้ฉีดครบ 2 เข็มก็ยังต้องใส่หน้ากากนะ เพราะไม่มีวัคซีนไหนร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นเหรียญด้านลบที่เป็นห่วงมาก เพราะคนจำนวนหนึ่งเอาตัวเองไปทุ่มกับวัคซีน เชื่อวัคซีนเต็มที่ พอถึงเวลาได้วัคซีนก็จะดี๊ด๊า พอถึงตรงนั้นถ้าเกิดการกลายพันธุ์หนึ่ง หรือตัวเองยังไม่ทันขึ้นไปแล้วติดกลับเข้ามา ก็กลายเป็นเบิร์น

ไม่ใช่หมายถึงว่าฉีดเข็มแรกแล้วจะมีภูมิทันที ความเสี่ยง 4 อย่างที่ประเมินการล็อกดาวน์มองยังไง


อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมพยายามพูดตลอดเวลา เรามีกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง มีช่วงเวลาเสี่ยง สี่อย่างนี้เจอพร้อมกันที่ใดที่หนึ่งต้องมาตรการเข้มสุด ฉะนั้นตอนนี้บุคคลเสี่ยงใหญ่ๆ มี 4 กลุ่มประเทศไทยมีกลุ่มเสี่ยงใหญ่ๆ อยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มสมุทรสาคร แรงงานต่างด้าว กลุ่มที่สองคือกลุ่มเข้าไปบ่อนการพนันทั้งหลาย สองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยง สองกลุ่มนี้ต้องจัดการแยกมาให้ได้ สองคือพื้นที่เสี่ยง คือจังหวัดใด ซึ่งเราแบ่งเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว จังหวัดใดแดงส้มคือพื้่นที่เสี่ยง คนเสี่ยงอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ต้องมาตรการเข้มข้น คนอื่นมีโอกาสไปเจอคนกลุ่มเสี่ยง จากสีส้มก็จะกลายเป็นสีแดง ตรงนี้ต้องระวัง สามคือกิจกรรมเสี่ยง คนจำนวนเยอะๆ มาอยู่ที่เดียวกัน เมื่อไหร่สามอย่างนี้เจอกันอีก คนกลุ่มเสี่ยงเข้าไปพื้นที่เสี่ยง เช่นไปร้านที่มีคนเยอะๆ ความเสี่ยงก็จะเพิ่มเป็นทวีคูณ และที่สี่คือช่วงจังหวะเสี่ยงของโลกใบนี้คือช่วงเทศกาล อย่างปีใหม่ เวลานี้เราเป็นจังหวะที่ก่อนหน้านี้ประมาณเกือบเดือนในอเมริกา มีการเฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุุดปลายปี

 หลังจากนั้นก็ชู้ตเลย มีจำนวนคนติดเชื้อคนไข้เยอะมาก ในช่วงที่เป็นช่วงเวลาเสี่ยง คนมักจะไปสถานที่ที่คนติดกันเยอะๆ แล้วไม่ได้ใส่หน้ากาก ก็เกิด 4 อย่างในเวลาเดียวกัน จังหวัดใดเจอ 4 อย่างนี้จังหวัดนั้นต้องเข้มสุดๆ ถ้าประเทศไทยจะเกิดการล็อกดาวน์ อาจล็อกดาวน์จำกัดไล่พื้นที่ แต่ก็ต้องสำคัญว่าไม่เกิดการเคลื่อนย้ายระหว่างคนในพื้นที่ ผมคิดว่าไม่ง่าย ก็เข้าใจ แต่เราจะป้องกันสิ่งเหล่านั้นได้ยังไง ถ้าบอกว่าเรามี 28 จังหวัดที่เข้มข้นสุดๆ แล้ว บางจังหวัดที่เป็นสีแดง มีคนไข้น้อยมากนะ แต่เป็นพื้นที่กันชน ต้องให้เป็นพื้นที่สีแดงไปด้วย เพราะถ้ามีคนเสี่ยงจากที่นึงเยอะ แล้วเข้าไปในจังหวัดกันชน ในที่คนอยู่กันเยอะๆ ก็จะมีการแพร่และไปต่อ ถ้าเราเข้าใจตรงกันแบบนี้ เราจะประยุกต์แนวคิดได้ตรงกันมากขึ้น

 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน


กรณีแบบนี้่ทำไมไม่ล็อกขาดเป็นบางจังหวัดไปก่อนหน้านี้ อย่างออสเตรเลีย ที่ล็อกเมลเบิร์น ห้ามเข้าห้ามออก แล้วทุกอย่างมันลด เราทำแบบนั้่นได้มั้ย

นี่คือทางทฤษฎีที่ควรต้องทำ แต่ต้องอาศัยการตัดสินใจ รัฐบาลออสเตรเลียตัดสินใจเรื่องนี้ทันทีที่เจอที่เมลเบิร์น ล็อกคน 6.7 ล้านไม่ให้ออก รีเซ็ตเลย แต่ใน 14 วันนั้น คนมีเชื้่อมีอาการเข้าสู่กระบวนการรักษา คนมีเชื้อไม่มีอาการเข้าสู่กระบวนการควบคุม คนปกติทุกอย่างจะแยกออกจากสองกลุ่มแรก คนที่มีเชื้อแต่ไม่เจ็บป่วย วันที่ 8 เป็นต้นไปตามหลักการ ภูมิต้านทานจะเริ่มขึ้นแล้ว และกำจัดเชื้อในตัวเขาออกเองได้ เขาก็รีเซ็ตเมืองทั้งเมือง และต้องห้ามคนเข้าออก เพราะถ้าคนเข้าออกจะควบคุมทั้งเมืองไม่ได้

มหาชัยถ้าก่อนหน้านี้เราล็อกเหมือนเมลเบิร์นจะดีกว่านี้มั้ย
เวลาเขาจะปิดเมืองทั้งหมด หรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ เป็นการพิสูจน์ว่ามาตรการนั้นพอหรือไม่พอ อย่าลืมถ้าเราปล่อยให้คนเข้าออก เราประเมินสถานการณ์ไม่ได้ สมมติมาตรการบอกว่าใส่หน้ากาก ยืนห่างกัน 1 เมตร ทุกคนทำตามนี้หมดก็ยังเกิดการติดเชื้อ แสดงว่ามาตรการ 1 เมตรไม่พอ ต้อง 2 เมตร ถ้าไม่มีการควบคุมการเข้าออก มันประเมินมาตรการได้ มันมีตัวแปรว่าคนอาจติดเชื้่อจากคนข้างนอกเข้าไป หนำซ้ำคนข้างในอาจไปแพร่คนข้างนอก ดังนั้นการปิดล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ชัดๆ ไม่ให้มีการเคลื่อนไหวนี่คือข้อดี แต่แน่นอนมันมีข้อแลก มันก็จะมีข้อด้อยมันเหมือนกัน นอกจากเรื่องเศรษฐกิจคือจะมีคนจำนวนนึงหนีไป บางทีไปกันก่อนล่วงหน้าแล้วก็มี ถ้าจะล็อกดาวน์มันต้องตูมเลย ฉะนั้นมันก็มีกระบวนการทำงานในแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกัน ก็อยู่ที่ดุลยพินิจผู้บริหารประเทศแต่ละประเทศ

หลังจากนี้จะเห็นตัวเลขที่สูงกว่านี้มั้ย จะขึ้นหลักพันมั้ย
ผมว่าขึ้นแน่ เราต้องเข้าใจว่าเวลาตัวเลขขึ้นอย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกเรื่องตัวเลข ต้องลงไปดูองค์ประกอบย่อยของตัวเอง อย่างเวลานี้ 745 ราย 500 กว่าราย มีบุคคลเสี่ยงคือแรงงานต่างด้าว ซึ่งเขาอาจเป็นอยู่ก่อนแล้ว แต่เราเพิ่งมาตรวจเจอ ตัวเลขมันก็ขึ้น คนก็ตกใจ แต่ตรวจแบบนี้ดีกว่า ถ้าองค์ประกอบนี้ขึ้นผมไม่กังวล แต่ถ้าติดกันภายในแล้วไม่รู้แหล่งที่มา อันนี้น่ากลัวที่สุด เพราะเวลานี้คนสมุทรสาครจะต่างจากระยอง คนระยองการเข้าไปตรวจสอบโรค เป็นที่อโคจร ผิดกฎหมาย หลายครั้งไม่แสดงตัว ไม่มาตรวจ มาตรวจเมื่อมีอาการ สุดท้ายเอาไม่อยู่ก็เสียชีวิต

พอถามว่าไปคุยกับใครมาเพื่อสอบสวนก็ไม่บอก กลัวเพื่อนถูกจับ สิ่งเหล่านี้เป็นผลลบทั้้งสิ้นต่อการควบคุมการระบาดของโควิด-19 รอบนี้ที่ห่วงมากๆ คือองค์ประกอบตัวเลขตัวเลของค์ประกอบที่ 2 คือการติดเชื้อภายใน ถ้าตัวเลขนี้มันเพิ่มขึ้นแสดงว่าเราหลุด เรายังคุมไม่ได้ ส่วนสามคือคนที่อยู่ในสเตทควอเรนทีน เดินทางมาจากต่างประเทศ ก็ไม่มีประเด็น เพียงแต่ช่วงนี้ต้องควบคุมเต็มที่อย่าปล่อยให้หลุดออกมา วิธีจัดการกับ 3 กลุ่มนี้คิดก็ไม่เหมือนกัน

 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน


ส่วนใหญ่คนที่เสียชีวิตหนักๆ 60-70 มีโรคประจำตัว แต่วันนี้อายุ 20 ใช้ท่อช่วยหายใจ ล่าสุดอายุเกือบ 30 เสียชีวิตมันเกิดอะไรขึ้น

รอบนี้ก็อยากให้คนไทยคิดนิดนึง หลายคนบอกว่าไม่ค่อยมีอาการเลยไม่กังวลว่าจะติด รอบนี้เห็นปรากฎการณ์ชัดๆ คือคนอายุน้อยเป็นหนักและเสียชีวิต 40 กว่าเข้ามาตอนนี้ เจอรายงานหลังๆ ใส่ท่อช่วยหายใจและกู่ไม่กลับเพราะมาช้า เพราะคิดว่าไม่เป็นไร ย้ำว่าโควิด-19 ถ้าเริ่มติดเชื้อ ปอดอักเสบต้องรีบให้ยาทันที การให้ยาหลังปอดอักเสบเป็นมากๆ แล้วไม่ทัน มีงานวิจัยออกมาเยอะมากว่าไม่ทัน เพราะไวรัสทำลายเนื้อปอดไปแล้ว ก็ฝากเลยรอบนี้ไม่ใช่เฉพาะคนมีอายุอย่างเดียว หนุ่มสาวก็อย่าชะล่าใจ ดีที่สุดต้องควบคุมไม่ให้เกิด ถ้าเอาเชื้อไปแพร่ให้ครอบครัวหรือเพื่อนฝูง คนเหล่านั้นอาจเป็นคนที่มีอาการหนักได้

ภาพในจอคืออะไร ไม่มีอาการพบเชื้อในจมูกสูง ไปบ่อนปอดอักเสบ ต่างกันยังไง
เวลาปอดธรรมดาเราจะดำ แต่ถ้าเมื่อไหร่มีการอักเสบ มีเม็ดเลือดขาว มีสารต่างๆ เข้าไปในเนื้อปอดจะเห็นว่ามันเปรอะมากขึ้น ทีนี้โควิด-19 ใครก็ตามที่เข้ามาและติดเชื้อ วันสองวันแรกเจอฟิล์มลักษณะแบบนี้ ปอดเริ่มติดเชื้อ ต้องระวัง เพราะงานวิจัยที่พบมา ภูมิต้านทานเริ่มขึ้นวันที่ 8 และภูมิขึ้นค่อนข้างเร็ว แต่อยู่ไม่ได้นาน ไม่ได้อยู่ตลอด ทีนี้คนปอดอักเสบตั้งแต่ต้น กว่าภูมิจะขึ้น และกำจัดไวรัสในตัวเขาเอง ไวรัสมันจะเพิ่มจำนวนและไปทำลายปอด ถึงจุดนึงถ้าการทำลายปอดไม่สามารถย้อนกลับมาได้ ปอดทำงานไม่เพียงพอกับการดำรงชีพ แบบนี้เราไม่อยากให้เจอ ทันทีที่ตรวจ สงสัย แล้วเจอ หรือมีอาการเล็กน้อยขอให้บอก ถึงมีผู้หญิงท่านนึงไปบ่อนแล้วมีอาการเล็กน้อย ไม่ยอมไปรพ. ขอดูเอง สุดท้ายเสียชีวิต ผมยืนยันนะว่ามันเร็วมาก คาดการณ์อะไรไม่ได้

เรื่องอาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นอย่างไรบ้าง
ท่านผู้ว่าฯ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่รักษาแบบเดียวกัน วันศุกร์ท่านปกติทุกอย่าง ไม่มีอาการอะไร วันเสาร์ท่านเริ่มมีไข้ขึ้น และพอไปเช็๋กเริ่มมีปอดอักเสบ และบวกกับอายุ 58 แล้วต้องระวัง สุดท้ายอาการอักเสบก็เป็นมากขึ้น จนย้ายมาศิริราช อาการท่านตอนนี้เมื่อวานลองถอดเครื่องช่วยหายใจ ท่านหายใจเอง เมื่อวานดีทีเดียว แต่ท่านเริ่มเหนื่อย เราไม่อยากให้ท่านต้องเหนื่อย เราเลยต้องกลับมาใช้เครื่องช่วยหายใจ และรอดู

นอนคว่ำนอนหงายคืออะไร
มันเป็นประสบการณ์ทั่วโลก คนเป็นหนักๆ จะหายใจไม่ได้ การนอนคว่ำจะเพิ่มเนื้อที่ของปอด ทำให้ออกซิเจนในกระแสเลือดทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าปอดถูกทำลายทั้งใบ ก็ไม่เกิดประโยชน์ ขณะนี้ของท่านตราบใดนอนคว่ำ ออกซิเจนในกระแสเลือดของท่านดีมาก เริ่มแย่คือนอนหงาย พอเราเริ่มถอยเครื่องช่วยหายใจ ปรากฎว่าท่านเหนื่อยมากขึ้น ก็เลยกลับมาใช้เครื่องช่วยหายใจก่อน วันนี้ก็จะลองดู แต่ผมคิดว่ากลับมานอนคว่ำก็จะดี ให้เวลาปอดฟื้นตัว เพราะถ้าทำลายเนื้อปอด เราจัดการมันเร็วพอก็ไม่เสียหายถาวร

เรื่องเชื้่อตอนนี้มีข่าวว่าเชื้่อล่องลอยในอากาศได้ 3 ชม.
จริงๆ 28 องศาก็ไปแล้ว แต่ที่ลอยอยู่ได้มาจากน้ำลาย สารคัดหลั่งคนเป็นโรค อยู่บนโต๊ะได้เป็นชม. ถึงบอกว่าใส่หน้ากากอย่างเดียวไม่พอ คนบางคนเข้าใจผิด ใส่หน้ากากดีมาก แต่ขณะเดียวกัน ต้องล้างมือบ่อยๆ สองสถานประกอบการต้องทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ จริงๆ เชื้อพวกนี้ไม่ได้ดื้อมาก อย่างสระว่ายน้ำ น้ำคลอรีนธรรมดา มันก็ตายแล้ว เพียงแต่ว่าพอว่ายน้ำเราชอบมาคุยข้างสระ

นายกฯ บอกว่าไม่ถึงต้องล็อกดาวน์ แต่ประชาชนต้องล็อกดาวน์เอง อาจารย์มองว่ายังไง ถึงเวลาใช้ยาแรงหรือยัง
ปกติเวลารัฐบาลออกมาตรการอะไรบางอย่าง ผมถือว่าเป็นมาตรการต่ำสุด เราสามารถทำสูงกว่าที่รัฐบาลให้ทำได้ อย่างเป็นคนดี จะถือศีลห้าหรือศีลแปดก็ได้ อย่างเราเองรู้ว่าถ้าเราไม่ระวังตัว เราจะแพร่เชื้อสู่ครอบครัวสู่คนที่รักเรา เราก็ทำให้สูงกว่าสิ่งที่รัฐบาลบอก การทำมากกว่าไม่ได้เป็นข้อเสีย รัฐบาลบอกอย่างไร ผมมีแนวโน้มทำมากกว่ารัฐบาลบอก เพราะรัฐบาลต้องมองในแง่สมดุลกับหลายๆ ด้าน แต่สมดุลหลายด้านแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ผมให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ดังนั้นเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และทำให้เศรษฐกิจไปได้ในระดับหนึ่ง ยอมเจ็บเศรษฐกิจบ้างเพื่อสุขภาพที่ดีและระยะยาว ตรงนี้ก็เป็นดุลยพินิจของแต่ละคน ย้ำว่าถ้าทำได้มากกว่านั้นจะดีที่สุด แต่ทำถูกต้องตามหลักวิชาการ บางคนตื่นตระหนก ทำมากจนเกินไป ฉีดผักทุกใบ อันนี้ก็อาจมากเกินไป แล้วแอลกอฮอล์พวกนี้กินไม่ได้ก็ต้องระวัง

ดื่มเหล้าช่วยได้มั้ย
ไม่เกี่ยวข้อง จริงๆ แล้วโควิดเมื่อเข้าไปในกระเพราะมันจัดการได้อยู่แล้ว การบอกว่าเอาแอลกอฮอล์เข้าไปเป็นการหาเหตุในการกินเหล้า

 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน


ถ้าเข้าใจไม่ผิด ก่อนหน้านี้ที่มีการล็อกดาวน์เรา ล็อกคือล็อกปั้ง ข้างในข้างนอกออกไม่ได้ ประกาศเคอร์ฟิวต่างๆ นานา เศรษฐกิจก็ไม่ดี ตอนนี้มีการล็อกจากข้างในหรือเปล่า

เรียกว่าจัดการกับเป้า จังหวัดใดเป็นจังหวัดแดงก็จัดการเป้าซะ ความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจจะน้อยลง แต่ถ้าจังหวัดไหนมันเยอะมากจริงๆ ต้องปิดทั้งจังหวัด

เราจะอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
ความเห็นผม โควิด-19 ไม่ไปง่ายๆ หวังว่าคงไม่ถึงปีใหม่ปีหน้านะ แต่ผมทำใจเผื่อไว้เลย ถึงแม้วัคซีนทยอยออกมา ตั้งแต่ไตรมาสที่สามนี้เป็นต้นไปทั่วโลก ของเราไตรมาสที่สอง ประมาณพ.ค. มิ.ย. แต่ย้ำว่าวัคซีนไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าทั่วโลกยังติดเชื้อกันเยอะก็เป็นไปไม่ได้เลยที่โควิดจะหายไปจากโลก

ทำไมต้องรอแอสตร้าฯ เรารออันอื่นไม่ได้เหรอ

ตอนนี้เราติดต่อจากจีน ถ้ามีความจำเป็นก็สามารถเอามาได้ ตอนนี้มี 5 บริษัทที่ใช้ในหลายประเทศแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอแอสตร้าฯ อย่างเดียว

 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน


 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน


 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน


 ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นหลักพันแน่! ชี้โควิด-19 ไม่จากโลกนี้ไปง่ายๆ แม้มีวัคซีน

ชมคลิป
VVVV
VV
V
VV
V
VV
V
VVVVV


เครดิตแหล่งข้อมูล : รายการ โหนกระแส


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์