ดร. เสรี แรงไม่แผ่ว ฟาดคนจุ้น โหนโสร่งด่า ลุงตู่

"บางคนบอกมีแม่ค้าส้มตำเห็นเหตุการณ์ ศาลก็บอกว่าเป็นเพียงคำบอกเล่า ไม่ใช่หลักนิติวิทยาศาสตร์ ถ้าต๊อบกล่าวหาว่าพี่ตีหัวใคร แล้วบอกว่าเห็นพี่ตีหัว เขาถามหลักฐาน รูปมีมั้ย วิดีโอคลิปมีมั้ย กล้องวงจรปิดมีมั้ย แล้วจะไปเรียกนิติวิทยาศาสตร์ได้ไง มันเป็นเพียงคำบอกเขา เล่าอาจพูดจริงหรือเท็จก็ได้ ถ้าเราเกลียดขี้หน้ากันล่ะ"

ทำไมต้องฆ่าพลเอกร่มเกล้า
"จริงๆ ตั้งใจฆ่าทหารนั่นแหละ แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจต้องติดตามกันต่อไป นี่เป็นแค่ศาลชั้่นต้น ยังต้องมีอุทธรณ์ ฎีกาอีก พอถึงอุทธรณ์ ฎีกา เราไม่รู้จะออกมาในรูปแบบใด"

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สังคมตั้่งคำถามว่าต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้
"เราอยากอย่างนั้น แต่กฎหมายว่าด้วยหลักฐาน จะใช้ความรู้สึกไม่ได้ ถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจนแจ่มแจ้ง ถ้าไปดูกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็น หาคลิปหารูปไม่ได้ สาวคนอยู่เบื้องหลัง ก็ต้องสาวด้วยหลักฐาน ถ้าสาวด้วยวาจาศาลก็จะสรุปเหมือนกันว่าเป็นเพียงคำบอกเล่า ไม่อยากให้พวกเราที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายไปก้าวล่วงการพิจารณาของศาล"

ถ้าเอาผิดใครไม่ได้เลย ใครต้องรับผิดชอบ
"ในเชิงกฎหมายก็จะไม่มี เพราะในเมื่อเอาผิดใครไม่ได้ จะเรียกว่าตายเปล่าก็คงเป็นเช่นนั้น ทำยังไงได้ ในเมื่อไม่สามารถหาหลักฐานเอาผิดได้"

การที่มีกลุ่มคนไทยบางคนไปจุ้นจ้าน ผสมโรง ผสมเชื้อฟืนที่สถานทูตเมียนมา มองยังไง
"คิดว่าคนรู้ทัน จริงๆ เรื่องเมียนมา เป็นเรื่องกิจการภายในของเขา เราไม่ควรไปจุ้นอะไรทั้งสิ้น แต่ที่รู้ทันเขาไปโหนโสร่งโยงด่าลุงตู่ บอกว่านี่ไงยึดอำนาจ ปล้นเสรีภาพทำลายประชาธิปไตย ซึ่งวาทกรรมนี้เป็นวาทกรรมเดิมๆ ที่เขาด่าลุงตู่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉะนั้นตรงนี้ เมื่อมีทหารยึดอำนาจในเมียนมา เขาก็พยายามโยงว่านี่แหละ ไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในภาคพื้นอาเซียน โห ทำเป็นผู้ยิ่งใหญ่มาก แล้วบอกว่าเป็นการปล้นเสรีภาพ ทำลายประชาธิปไตย เป็นการยึดอำนาจเพราะกลัวตัวเองจะถูกปฏิรูป ฟังแล้วรู้สึกว่าคุณรู้เรื่องในเมียนมาเหรอ หรือจะเอาเรื่องนี้ด่าลุงตู่"

"ข้อที่หนึ่งเราไม่ควรจุ้นเรื่องชาวบ้าน เพราะในอาเซียนเรามีข้อตกลงกันชัดเจน จะไม่ไปเกี่ยวกิจการภายในซึ่งกันและกัน ข้อนี้เราต้องรู้ ในวันนั้นมีกลุ่มการ์ดไป มีแกนนำที่เห็นหน้าตาชัดเจน คุณธนาธร คุณช่อก็ไป ส.ส.พรรคก้าวไกลบางคนก็ไป ทีนี้เมื่อไปแล้ว มีเหล่าเมียนมามาด้วย อย่าลืมว่าโควิดที่ติดรอบนี้ มาจากแรงงานพม่านะ เห็นแล้วสะดุ้งมาก เขากล้าแต่พี่กลัว ถ้าคุณติดขึ้นมา คนที่เป็นส.ส. ถ้าติดขึ้นมา คุณไปสภา ส.ส.อีก 500 คน ไม่คิดถึงประเทศชาติบ้างเลยเหรอ ตรงนั้นเป็นที่ปิดนะ มีส.ส. 500 เจ้าหน้าที่เท่าไหร่ไม่รู้ ถ้าติดจะกระจายเป็นวงกว้างเท่าไหร่ ไม่กลัวกันบ้างเลยหรือ"

คนไทยของเราไปละเมิดเขาตรงนั้น มีสิทธิ์ถูกดำเนินคดีได้มั้ย ติดคุกสองแผ่นดินได้มั้ย
"ก็เป็นไปได้นะ หนึ่งเขามีการพูดจาพินิจพิเคราะห์ว่ากลัวการถูกปฏิรูปใช่มั้ย ถึงมายึดอำนาจก่อน ถ้าทางโน้นฟ้อนหมิ่นประมาทขึ้นมา ก็ไม่รู้ต้องไปติดคุกที่นั่นหรือเปล่า ขณะเดียวกันเรามีพ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ จะไปก่อความวุ่นวายไม่ได้ สุดท้ายคุณไม่ได้ไปโดยสงบ คุณมีไม้แหลม ระเบิด ปาหิน อันนี้ทำผิดแล้ว และเขาก็จับแล้ว สิ่งที่เราต้องคิดคือว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องประเทศไทย แต่ถามว่ารัฐบาลไทยจะไม่รับผิดชอบได้อย่างไร ไม่ได้ การที่คนไปยืนออหน้าสถานทูต คนสถานทูตเขามีสิทธิ์ตกใจ มีสิทธิ์กลัว มีสิทธิ์ป้องกันตัว ถึงเขาไม่ขอเราก็ต้องดูแลเขา จะไปปล่อยให้เขาเป็นอันตรายจากการกระทำของคนของเราได้อย่างไร เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้ารักชาติรักแผ่นดิน ต้องไม่ทำอะไรที่ทำให้รัฐบาลไทยถูกกล่าวหาว่าไม่ดูแลแขกบ้านแขกเมือง ที่เขามาทำหน้าที่ในประเทศเรา เพราะความเสียหายมันไม่ได้น้อยๆ จะทำอะไรคิดซะหน่อยเถิด อย่าทำอะไรตามใจตัวเอง เพียงแค่ต้องการโหนโสร่ง ตีวัวกระทบคราด ประเทศไทยก็คงปล่อยให้เกิดแบบนี้อีกไม่ได้ การเกิดเหตุการณ์นี้แล้วทัวร์ลงขนาดนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าทำอีกแล้ว"

เปรียบเปรยเป็นสำนวนไทย เรียกว่าอะไร
"พี่เห็นในเฟซบุ๊กเขียนว่าโง่ใต้ถุนนะ ด่าแล้วเจ็บนะ (หัวเราะ) โง่ต่ำกว่าพื้นบ้าน"

ล่าสุดธนาธรโพสต์ในโซเชียล ว่าประเทศอาเซียนต้องร่วมไม้ร่วมมือกันสิ ในเมื่อมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในประเทศอาเซียนด้วยกัน

"จริงๆ แล้วเขาต้องทำความเข้าใจก่อน อาเซียนที่เขารวมตัวกัน เขามี 3 ขา ขาหนึ่งเรื่องความมั่นคง เขาจะประชุมทางการทหารกัน ให้ความร่วมมือกันตรงนี้่ สองเขามีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน มีการประชุมสัมมนาเชิงวัฒนธรรม เขาทำตั้งแต่เริ่มต้นก่อนรวมตัวกัน ขาที่สามคือเออีซี ร่วมมือกันด้านเศรษฐกิจ ต้องเข้าใจสิคะ เขาจะร่วมมือกันสามด้านนี้ แต่ขณะเดียวกันเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องกิจการภายใน ถ้าเกิดมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นในประเทศใดก็ตาม มันคือกิจการภายใน ถ้าไปยุ่งเกี่ยวมันก็เลยสามขานั่นสิ เรื่องของเขาอย่าไปยุ่งกับเขา ขณะเดียวกัน พอไปอยู่หน้าสถานทูตเขาต่างๆ นานา มาโพสต์อีกนะ ได้รับการขานรับอย่างดีจากชาวเมียนมา โอ้โห"

มีนักเขียนคนดัง ที่ไปสัมภาษณ์คนพม่า เขาเห็นด้วยกับการยึดอำนาจรัฐประหารครั้งนี้
"เวลายึดอำนาจ มันมีคนสองกลุ่ม กลุ่มนึงยึดมั่นในประชาธิปไตย ใครมายึดอำนาจย่อมไม่ถูกต้อง คนกลุ่มนี้ย่อมไม่พอใจการยึดอำนาจ แต่บางกลุ่มบอกว่ามาจากประชาธิปไตยยังไงก็แล้วแต่ แต่ถ้าปกครองประเทศไม่ได้ ทำงานไม่เข้าตา เขาก็ต้องการกำจัดเหมือนกัน การที่เขาไปสัมภาษณ์กลุ่มชาติพันธุ์แล้วไม่พอใจมันก็มี เรื่องพม่ามีทั้งคนนอกและคนใน คนนอก มีจีน อังกฤษ สหรัฐ ที่อานเข้ามาจุ้นพม่าในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง พม่าขับเคลื่อนยังไงคนนอกมีส่วน ทีนี้พอพูดถึงคนใน ประเทศพม่ามีชนกลุ่มน้อยอยู่เยอะ กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้ บางทีก็ไม่พอใจที่ปฏิบัติต่อเขา มีความขัดแย้งภายในเกิดขึ้น แต่เรามีคนกินเผือกเพิ่มไปอีก ไม่แปลกใจเลยถ้าไปสัมภาษณ์กลุ่มชาติพันธุ์ในพม่าว่าเขาก็เห็นด้วยเหมือนกัน เคยมีคนพูดว่าคนเราพอไม่มีอำนาจจะพูดจะคิดจะทำอีกอย่างนึง แต่พอมีอำนาจ จะทำอีกอย่าง ถ้าเขามองการกระทำก็บอกไม่เหมือนที่เคยพูด ที่เคยแสดงออก ที่โดนก็น่าจะใช่แล้วนะ บ้านเมืองเราก็เหมือนกัน เวลาทำรัฐประหาร เขามาจากการเลือกตั้ง คุณทำแบบนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ก็มีคนคิดแบบนี้ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนบอก แล้วไงเหรอ ในการบริหารประเทศเป็นเผด็จการรัฐสภา การที่คุณมาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้แปลว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ถ้าทหารบอกไม่ไหวแล้ว ให้ประเทศชาติเป็นแบบนี้ไม่ไหวแล้ว เขาก็ออกมา คนที่เขาเห็นด้วยตรงนี้ เขารู้สึกว่าถ้าปล่อยไปบ้านเมืองอาจจะแย่ มันก็มีสองฝ่าย"

ในเพจพบว่ามีชาวเมียนมาหลายล้านคนที่ออกมาห้ามการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามนิ้ว การ์ดวีโว่ หรือกลุ่มใดๆ ก็ตาม เขาออกมาเตือนด้วย

"เขาก็คงอยากบอกว่าไม่รู้ข้อเท็จจริง ไม่รู้รายละเอียดลึกซึ้งก็อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย เขาอยู่ในประเทศเขา เขาย่อมรู้ อะไรเป็นอะไร ถ้าจะเคลื่อนไหว ขอให้เป็นเรื่องพวกเขาที่รู้และได้รับผลกระทบ เรานี่ไม่รู้และไม่ได้รับผลกระทบจะไปยุ่งทำไม"