เปิดคลิปดุเดือด รุ่นน้องถามตรงมงคลกิตติ์จะรับผิดชอบชื่อเสียงสถาบันอย่างไร?


เปิดคลิปดุเดือด รุ่นน้องถามตรงมงคลกิตติ์จะรับผิดชอบชื่อเสียงสถาบันอย่างไร?

      เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำพวงมาลัยมากราบขอขอขมา กับ ผศ.วรวิทย์ จตุรพาณิชย์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร และ ผศ.สมชาย เวชกรรม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ หลังจากที่มีคลิปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ลักษณะที่พูดจากล่าวล่วงเกินไม่ว่ากรณีใดใด ที่อาจทำให้สถาบันเสื่อมเสียชื่อเสียงท่ามกลางบรรดาศิษย์เก่า และ นักศึกษา เดินทางมารอดู นายมงคลกิตติ์เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้มากว่า 7 ปีแล้ว และอีก 2 วัน จะถึงวันประชุมสภา ตนจึงต้องการทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดการเข้าใจผิดนั้น จบลงด้วยดี ตนจึงนำพวกมาลัยมาขอขมาแก่สถาบันการศึกษาของตน ที่ก่อนหน้านี้ ตนอาจจะมีการพูดพาดพิงสถานบัน ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า โดยต้นเหตุนั้นเกิดจากคลิปคลิปหนึ่ง ที่ตนได้ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2562 ซึ่งอยู่มนช่วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง ในตอนนั้นพรรคเพื่อไทย มีนโยบายลดทหาร ลดกำลังพล มีวิวาทกันกับพรรคเพื่อไทย และมีการนำเสนอพูดเรื่องส่วนตัวของตนเอง ชีวิตวัยรุ่นที่เคยผ่านเรื่องทะเลาะวิวาทมา และอาจจะมีการกล้างอ้าวไปถึงสถาบัน ซึ่ง เรื่องนี้จบไปแล้ว และคลิปนี้หายไปนานแล้ว


แต่หลังจากที่ใน พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ร่วมการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และพร้อมจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 หลังจากนั้น 2 วัน คลิปนี้โผล่มา ซึ่งเป็นคลิปที่ทางสื่อมวลชนสายฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาล มีการตัดต่อให้เหลือเพียง 2 นาที จาก คลิป 1 ชั่วโมงกว่า ทำให้เนื้อหาของคลิปคลาดเคลื่อน ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงและนำคลิปเก่า เรื่องโรงเรียนบดินทรเดชา เมื่อ 7 ปีที่แล้ว มานำเสนออีกด้วย โดยสื่อมวลชนนำเสนอออกมาเพียงด้านเดียวเท่านั้น ตนคิดว่าการปล่อยคลิปออกมาแบบนี้เป็นการดิสเครดิตของพรรคตน ซึ่งตนก็ได้ดำเนินคดีไปแล้ว

"ผมยอมรับว่า ในคลิปมีการเล่าเรื่องราวสมัยที่ผมเป็นวัยรุ่น ซึ่งทุกคนเคยผ่านประสบการณวัยรุ่นมาก่อน มีทั้งดีและไม่ดี ผมเล่าประสบการณ์ในเรื่องการชกต่อย ซึ่งผมมองว่า ในช่วงวัยรุ่ย เรามีมีเพื่อนทั้งในสถาบันและต่างสถาบัน อาจมีปัญหากันบ้าง จึงการมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย

ส่วนสาเหตุที่ผมอัดคลิปในลักษณะคล้ายนักเลงนั้น อย่าเรียกผมว่านักเลง ให้เรียกว่าเด็กซนจะดีกว่า ในตอนอัดคลิผ ผมยอมรับว่าตอนนี้พรรคของเราไม่มีทุนในการหาเสียงเหมือนพรรคอื่นๆ ไม่ทุนที่จะซื้อสื่อ ผมจึงได้เลียนแบบการพูดของ นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล ที่เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง และดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เพื่อสร้างกระแสให้คนสนใจและรู้จักพรรคของผมมากขึ้น"

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของตนเสื่อมเสียหรือไม่นั้น ตนมองว่าภาพลักษณ์ไม่ดีมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตนตั้งใจที่จะเล่าประสบการณ์ด้านลบของตนให้ทุกคนฟัง ตนเริ่มจากภาพลักษณ์ที่ดูแย่ คงจะไม่มีใครเกลียดตนไปมากกว่านี้ ส่วนหลังจากนี้ ภาพลักษณ์ของตนจะดีขึ้น ซึ่งใครที่จะไปลงชื่อถอดถอนตน ออกจากการเป็น ส.ส. ตนไม่ห้าม

แต่อยากให้มองที่การทำงานในอนาคตของตน ซึ่งจะทำให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้น ตนยอมให้คนอื่นโจมตีเรื่องนี้ ก็ดีกว่าถูกโจมตีคดีโอนหุ้น หากตนเข้าสภาไปแล้ว จะไม่เกิดเหตุการณ์ชกต่อยแบบแต่ก่อนแน่นอน เพราะ ตั้งแต่ตนอายุเกิน 18 ปี ขึ้นไป ไม่ได้มีการชกต่อยกันมานานแล้ว กว่า 20 ปี ตนไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ ขึ้นได้ในสภาแน่นอน ส่วนในสภา หากเจอ นายวัน อยู่บำรุง ก็อยากจะลองดีเบตกันสักครั้ง ตนไม่เคยยุ่งอยู่แล้ว แต่อย่าให้คุณวันมายุ่งกับตน

เปิดคลิปดุเดือด รุ่นน้องถามตรงมงคลกิตติ์จะรับผิดชอบชื่อเสียงสถาบันอย่างไร?

หลังจากนี้ ตนมีความคิดที่จะดูแลกระทรวงศึกษา เพราะตนมีประสบการณ์โดยตรง เคยมีชีวิตวัยรุ่นมาก่อน และตนรู้จักกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่มากมาย สามารถเป็นตัวกลางในการเจรจากันได้ หากมีการทะเลาะวิวาท วัยรุ่นที่ท้าตีกัน ก็จะเอาวัยรุ่นที่ท้าตีกัน เอาไปฝึกวินัยทหาร เพื่อลดการทะเลาะวิวาท

"โดยหลังจากนี้ ผมก็อยากจะบอกว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น หากมีผลทำให้สถาบันเสื่อมเสียชื่อเสียง พี่เป็นลูกผู้ชาย พี่ขอโทษ ขออภัย พี่ไม่ใช่นักการเมืองที่ศาลตัดสินว่าผิด แต่ไม่ยอมรับผิด หลังจากนี้ขอให้ดูการทำงานของพี่ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เมื่อมีพี่แล้ว ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น" นายมงคลกิตติ์ กล่าว

ด้าน ผศ.วรวิทย์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ทางศิษย์เก่า ศิษยปัจจุบัน สถานบัน เกิดความไม่สบายใจ ถึงข้อความที่นายมงคลกิตติ์พูดออกไป การที่นายมงคลกิตติ์มาในวันนี้ เพื่อมาขอโทษ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งอย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ทางสถาบันให้อภัย

บรรยากาศขณะที่นายมงคลกิตติ์ กำลังเดินทางกลับโดยรถยนต์ส่วนตัว ได้มีกลุ่มศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือมาดักรออยู่ที่ลานบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 50 คน ได้วิ่งกรูเข้ามาขวางรถแล้วใช้มือทุบรถของนายมงคลกิตติ์ และตะโกนด่าทอโห่ร้อง โดยบรรดาศิษย์เก่าที่มาดักรอส่วนใหญ่เห็นการขอโทษนายมงคลกิตติ์ ยังไม่เพียงพอต่อการที่ทางมหาลัยต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และภาพของนักศึกษารุ่นน้องที่กำลังศึกษาอยู่และที่จะจบออกไปมีผลต่อการไปสมัครเข้าทำงานยังที่ต่างๆ

ด้าน นายเซอร์ ศิษย์เก่า กล่าวว่า 
วันนี้ตนเดินทางมาดูการขอขมาของ นายมงคลกิตติ์ หลังจากได้พูดเรื่องราวที่ทำให้สถาบันเสียชื่อเสียง ตนถือว่าเป็นรุ่นพี่ของนายมงคลกิตติ์ อยากจะชี้แจงว่า เรื่องที่นายมงคลกิตติ์พูด ไม่เป็นความจริงเลย ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีการท้าชกต่อยกัน ไม่มีซุ้มใครเป็นซุ้มใคร มีคนคุม เหมือนที่นายมงคลกิตติ์เล่า ไม่ได้มีนักเลงที่ต้องคอยคุมใคร ส่วนใหญ่อยู่แบบพี่น้อง

เมื่อนายมงคลกิตติ์เล่าเรื่องเท็จ ทำให้ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันเสียชื่อเสียง เพราะหลายคนเข้าใจว่า สถาบันเรา เป็นสถาบันนักเลง มีคนโทรเข้ามาสอบถามตนเป็นจำนวนมาก จึงขอยืนยัน ว่าเรื่องที่นายมงคลกิตติ์พูด ไม่เป็นความจริง สถาบันใคร ใครก็รัก ขนาดเรื่องนี้ยังสามารถโกหกกันได้ แล้วจะไปบริการประเทศได้อย่างไร ในเมื่อคุณยังโกหกประชาชน

ขณะที่หลังจากการขอขมาเสร็จสิ้น ก็มีกลุ่มศิษย์เก่าและรุ่นน้องเดินเข้ามาในห้องประชุม พร้อมถามถึงความรับผิดชอบการกระทำของนายมงคลกิตติ์ ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ได้แต่บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม สุภาพว่า ผมแถลงไปแล้ว ผมขอโทษ จึงไม่มีอะไรจะพูดอีก

เปิดคลิปดุเดือด รุ่นน้องถามตรงมงคลกิตติ์จะรับผิดชอบชื่อเสียงสถาบันอย่างไร?

รับชมคลิป
VVVVVV
VV
VVVVVVV
VVVVVV




เครดิตแหล่งข้อมูล : workpointnew,khaosod.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์