เปิดใจ ส.ส. ม้งคนแรกของไทย ถูกเหยียดชาติพันธุ์ “ผมไม่โกรธ เขาแค่ยังไม่รู้จักตัวตนของเรา” (คลิป)

แม้ว่าสังคมปัจจุบันจะพัฒนามาสู่ ‘ยุคโลกภิวัฒน์' แล้ว เทคโนโลยีมีการพัฒนาจนเราสามารถเดินทางออกไปนอกอวกาศได้แล้ว

รวมไปถึงเรื่อง ‘การยอมรับความหลากหลาย' ทั้งทางเพศ เชื้อชาติ และสีผิว ก็กลายเป็นประเด็นที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ เพราะมนุษย์ล้วนแล้วต่างก็เท่าเทียม

แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้คนอีกมากมายหลายคน ที่ยังปฏิเสธแนวคิดเรื่องความหลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันความคิดแบบนี้ไม่ได้รับการยอมรับเหมือนในอดีต และเมื่อเกิดเหตุการณ์ ‘เหยียด' เกิดขึ้น ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกยอมรับในสังคมนัก เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้

สืบเนื่องจากวันประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในรอบ 5 ปี ของประเทศไทยเรา เรียกได้ว่า ‘ในสภา' ล้วนแล้วแต่มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง ส.ส. หน้าใหม่ที่เข้ามาทำงานเป็นครั้งแรกและเรื่องที่น่าสนใจก็คือ ในครั้งนี้เรามี ‘ส.ส.ม้ง' คนแรกของประเทศไทยเข้าไปทำหน้าที่ในสภาด้วย

ซึ่งในวันประชุมสภานั้น ส.ส. คนดังกล่าวก็ได้ทำการสวมชุดชนเผ่า เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ ความเป็นชนเผ่าของตัวเอง เข้าไปประชุมในสภา แต่ก็ไม่วายที่จะถูกชาวเน็ตนำภาพไปวิพากษ์วิจารณ์ ชาวเน็ตหลายคนที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ต่างก็ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง

เปิดใจ ส.ส. ม้งคนแรกของไทย ถูกเหยียดชาติพันธุ์ “ผมไม่โกรธ เขาแค่ยังไม่รู้จักตัวตนของเรา” (คลิป)

ขณะเดียวกัน ก็มีชาวเน็ตมากมายหลายคนเข้ามาคอมเมนต์มองว่า การแต่งกายของนายณัฐพลนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจเสียมากกว่า

จากประเด็นดังกล่าว รายการ ไขลาน ความคิด ก็ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เปิดใจนายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ความรู้สึกเมื่อได้ก้าวเข้าสภาครั้งแรก และถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแต่งกาย รวมไปถึงการเหยียดชาติพันธุ์

นายณัฐพล เล่าว่าตนเองเกิดที่เขาค้อ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่ อ.พบพระ จ.ตาก และเขาเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 24 ของพรรคอนาคตใหม่

"การเข้าสภาครั้งแรก มันมีหลายความรู้สึก ส่วนบทบาทในสภา ผมมีความตั้งใจ เพราะหลายคนที่อยู่บนดอยเลือกผมเข้ามา ผมต้องแบกปัญหาของทุกคนลงมาพูดในสภา ยกตัวอย่างเช่น ที่อยู่ ที่กิน ความไม่เท่าเทียม วิถีชีวิต ที่สังคมเข้ามาไม่ถึง"

ส่วนประเด็นเรื่องของการถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือการถูกเหยียดชาติพันธุ์ หลังได้รับเลือกเป็น ส.ส. นายณัฐพลกล่าวว่า

"ผมเข้าใจคนที่อยู่ในเมือง ผมไม่ได้โกรธ เพราะเขาไม่เข้าใจ เขาไม่ได้รู้จักตัวตนของเรา มันแสดงให้เห็นชัดว่า ‘เราถูกทิ้งไว้ข้างหลังตั้งนานแล้ว' เป็นหน้าที่ที่เราต้องมาทำความเข้าใจ"

"ความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นความงดงามของไทย เรามีพหุวัฒนธรรมที่อยู่ในป่าในดอย ผมอาจใส่เสื้อผ้าแปลกในสายตาพวกคุณ แต่ผมมาเพื่อบอกว่า ‘ผมเป็นพลเมืองไทยคนหนึ่ง และผมรักประเทศนี้เหมือนทุกคน'"