หลังเหตุการณ์บันไดเลื่อนหนีบผมเด็กหญิงวัย 12 ปี กระทั่งหมดสติในห้างสรรพสินค้าชื่อดังนั้น รายการ "คม ชัด ลึก" ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนแนล จัดตอน "บันไดเลื่อน...ภัยเงียบใต้ฝ่าเท้า ?" วันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2555 โดยมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นและแนะแนวทางป้องกันอย่างรอบด้าน

ผศ.ดร.ทรงเกียรติ เที้ยธิทรัพย์ ประธานหลักสูตรปริญญาโท เทคโนโลยีสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (มจท.) กล่าวว่า ความห่างระหว่างผนังกับบันไดเลื่อนจะต้องมีป้ายเตือน หรือการ์ดเตือน ต้องอยู่ในระนาบเดียวหรือต่ำกับตัวจริง

ส่วนความยาวของบันไดเลื่อน ยิ่งสูงจะยิ่งอันตราย ถ้าสถาปนิกออกแบบแล้วคิดว่าทำให้เกิดจุดเด่น สวยงาม ต้องเสริมเรื่องความปลอดภัย หากสูงเกิน 3 ชั้น ต้องมีสเกิร์ต หรือระแนง กันคนตกลงไป ความจริงหากเจ้าของไม่มีงบประมาณจริงคงไม่ใช้บันไดเลื่อน เพราะยิ่งยาวก็ยิ่งแพง ผู้ผลิตจะบอกว่าบันไดเลื่อน 2 ตัวควรมีระยะพักที่เท่าไหร่ สำหรับตัวกดบันไดเลื่อนนั้นจะอยู่ที่หัวท้าย ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ หากเปิดตลอดเวลาก็จะเกิดการสิ้นเปลือง ขึ้นอยู่กับการออกแบบ และเลือกใช้ ส่วนรถไฟฟ้านั้น จะมีหัว กลาง และท้าย


นายสุพัตถ์ จารุศร นายกสมาคมลิฟต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การออกแบบวางแนวบันไดเลื่อน ความปลอดภัยของอาคาร และจะต้องประเมินความเสี่ยงทางหลักวิศวกรรม และต้องมีกฎหมายบังคับว่าห้ามทำอะไร ความสูงของบันไดเลื่อน การออกแบบจะมีการคำนวณมอเตอร์ในการที่จะรับน้ำหนักคนอยู่แล้ว สำหรับความกว้างของบันไดเลื่อนจะมี 3 ขนาด คือ รุ่น 60 เซนติเมตร จะยืนได้ 1 คน ขนาด 80 เซนติเมตร ยืนได้คนครึ่ง และขนาด 100 เซนติเมตร ยืนได้ 2 คน ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน โดยทั่วไปจะเตือนว่าห้ามใส่กระโปรงยาวขึ้นบันไดเลื่อน

นายวสวัตติ์ กฤษศิริธีรภาคย์ อุปนายกคนที่ 1 สมาคมผู้ตรวจสอบและบริหารความปลอดภัยอาคาร กล่าวว่า ลิฟต์ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากจีน การเกิดอุบัติเหตุคำนึงได้ 3 เรื่อง คือ การสะเพร่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผู้ออกแบบวิศวกรรม ออกแบบไม่ถูกต้อง และการบำรุงรักษาไม่ดีพอ

"บันไดเลื่อนอยู่ที่สถาปนิกว่าจะออกแบบอย่างไร กรณีชิดผนังต้องห่าง 80 มิลลิเมตร ต้องมีป้ายเตือน ส่วนคานและราวบันไดควรห่างให้มากที่สุดถึงจะดี ขณะความสูงของบันไดเลื่อนต้องมีการป้องกันความปลอดภัยป้องกันการตกลงมา" นายวสวัตติ์กล่าว