"ส่วนตัวคิดว่าสังคมอ่ะเปิดแล้วแต่ยังไม่หมด มีคนบางกลุ่มยังรับไม่ได้คนที่ยังรับไม่ได้ไม่ค่อยออกมาพูด คอมเม้นท์หรอกส่วนมากมีพวกบ้าๆ บอๆ หยาบกร้าน"
อึดอัดชีวิตไม่มีความสุขรึเปล่าอยากระบาย?
"ฟีดแบคถึงแขมีบ้างด่าแขได้แต่อย่าด่าผัวแข ด่าผัวปุ๊บเขียนกลับทันที มีแบบบอกฝรั่งบินมา ยอยักษ์ อีกะเทยที่เมืองไทยเราก็เข้าดูหน้าเป็นไงมีเห็นรูปวีดีโอคอลกับลูกสาว เราเลยแคปรูปนั้นเข้าไปก็ดึงสติเขานิดหน่อย นี่เหรอความคิดของคนเป็นพ่อ สักพักนางก็หายไป บางเม้นท์ก็เขียนหยาบคายเหยียดเพศมากๆ ก็มี"
เซ็งไหมมีมาด้านแบบนี้?
"ไม่เลยเป็นส่วนน้อยมากแต่เรามองว่าแทนที่จะมานั่งด่าแอนตี้จะให้ฆ่ากะเทยให้หมดโลกก็คงทำไม่ได้ เราก็เตรียมตัวพร้อมรับเด็กก็คือเด็ก ลูกหลานเราอธิบายแล้วเข้าใจแต่ลูกหลานคนอื่นเราไม่รู้ก็ให้เตรียมตัวพร้อมรับกับมันดีกว่าเพื่อให้เจนเนอเรชั่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นมารับได้ดีกว่าว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว"
แฟนว่าไงบ้าง?
"เขาเข้าใจถ้าแขยังอยู่สวีเดนก็คงไม่ได้มาทำงานในวงการ ก็เป็นคนที่ไม่ได้รับความสนใจเป็นอะไรที่เราก็ปลง ไม่ลำบากใจเลยคอมเม้นท์ส่วนใหญ่เพศที่ 3 เหยียดเพศมากเราก็ส่งรูปไปก็คือรูปที่เราช่วยคนเป็นลมเราคิดว่าทุกคนเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราไม่ได้มาแบ่งเพศ สังคมจะมองเพศที่ 3 นะดูคดีฆ่าข่มขืนดีกว่า"
แฟนว่าไงเจอฟีดแบคแรงๆ?
"นางคงอ่านไม่รู้เรื่องเขียนภาษาไทย ก็คงไม่ได้รับฟีดแบคอะไร ในไอจีก็มีแต่คนตามไปดู อ๋อ นี่แฟนตามไปฟอลโล่ว ฟีดแบคดีๆเยอะมาก พี่ๆ เพื่อนในวงการยินดีเยอะ ส่วนคนอุ้ย!อิจฉา อย่าคิดแบบนั้นให้มองว่ากว่าจะรักกันมาได้ 10 ปีเนี่ยมันนานนะ ถ้าไปอ่านดูในรายการตอนที่เราออกก็จะรู้ว่าไม่ง่ายเลยผ่านอะไรๆ มา10ปีเนี่ย"
ผ่านอะไรบ้าง?
"ขอบอกเลยไม่เคยใช้คำว่าแฟนเก่า เพราะนางเป็นแฟนคนแรก(หัวเราะ)และคนเดียว ดูสวยอ่ะ(หัวเระ) อายุ 20 ด้วยเป็นวัยรุ่นด้วยเราก็ทั้งฟัดทั้งเหวี่ยงเรื่องอารมณ์ที่ 1เลย ข้าวของถือมีด น้ำยาล้างจานก็กินมาแล้ว"
ฆ่าตัวตาย?
"ไม่ได้ฆ่าตัวตายหรอก จริงเป็นความคิดของเด็กตอนนั้นเราไม่รู้เรื่อง เราต้องการประชด แอ็ฟเฟ็กซ์ไม่อะไรมากรถพยาบาลก็มารับ ให้กินขนมปังพอมาคิดได้ก็ไม่คุ้มที่เราประชด ได้คำตอบคือเราต้องการเอาชนะให้คนอีกคนเจ็บ แต่ผลคือเราทำร้ายร่างกายตัวเอง เห็นเขาก็ตกใจ เห้ย ขนาดนี้เลยเหรอก็ร้องไห้ ตอนนั้นแหละเรารู้สึกไม่โอเค ครั้งนี้คือแรงที่สุดแล้วไม่โอเค สงสารเขาเรารักเขามาก ก็ขอบคุณในความอดทนของเขา"
เขากลับสวีเดนไปแล้วใช่ไหม?
"เขาบินมากับเพื่อนที่ไทยแต่ด้วยงานเราทำทุกวัน นอนพักที่โรงแรมเพื่อนมาด้วย 2 คน จะได้ไม่เหงาเราก็ตื่นเช้ากินข้าวไปทำงานกลับมาไปต่ออีก ก็ดีเขาจะได้เห็นชีวิตการทำงานของเรา นั้นก็น้ำตาซึม พูดตรงๆ ก็อุ้ย แฟนเป็นดารา พนักงานโรงแรมขอถ่ายรูป คือเขาไม่เคยเห็นรับรู้ส่วนนี้พอมาเห็น น้ำตาคลอยืนยิ้ม แฟนสวย(หัวเราะ) เขาบอกเขาภูมิใจที่ชีวิตเราเปลี่ยนไป อยู่ๆ คนเจ้าอารมณ์คนนึงก็ทำงานในจุดที่มีความรับผิดชอบสูงมาก บางทีวันนึงทำ2-3งานต้องอดทนสูงมาก เขาเห็นเรามีความรับผิดชอบ ที่สำคัญคอมเม้นท์ต่างคนพูดถึงเราแง่ลบเพราะเราเป็นคนที่รู้จักคนมาสามารถพูดถึงว่าเราได้ แต่เราสามารถอดทนอยู่ได้ความคิดด้านลบนี้ได้ เขาแฮปปี้ เราทำงานเยอะเขาไม่รู้สึกน้อยใจนะมีแต่เรายกเลิกงานแล้วนะ เขาจะว่าไม่ได้นะเธอต้องไปทำงานอะไรอย่างนี้ เคยพาไปงานอีเว้นท์ครั้งนึงด้วยวันนั้นก็ไป เขาก็ยืนดูยิ้ม มองน้ำตาคลอสเต็ปเดิมค่ะเมียสวย(หัวเราะ) ตอนนี้เขากลับไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มา 19-27 วันสุดท้ายไม่ได้ไปส่งด้วยติดงาน"
ก่อนหน้าไม่ได้เจอนานเท่าไหร่?
"ปีครึ่ง มาปีที่แล้วเนี่ย ถามว่าทำไมไม่ได้เจอเป็นปี ก็เอ็นจอยมีละคร เป็นปีที่เราจะได้เข้าวงการเต็มตัวก็บอกขอเต็มที่กับงานก่อนแล้วกัน เลยบอกเขาว่าช่วงนี้คุณอยากไปไหนคุณเต็มที่กับเพื่อนไปเลย กอบโกยไปเลยเราขอทำงานก่อน ตอนนี้เปลี่ยนการเจอแล้วแต่ขอเป็นประเทศไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ประเทศไทยเพราะมาตรงนี้งานยุ่งมีเวลาอยู่ด้วยกันได้ไม่เต็มที่ เดี๋ยวเขาจะไป บาหลีรึไม่ก็สิงคโปร์กับเพื่อน"