ล่าสุด 21 มิถุนายน 2560 "เล็ก ไอศูรย์" ได้มาร่วมพูดคุยในช่วง ปล.ด้วยรักและคิดถึง กับรายการ APOP บันเทิง 34 ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อปีพ.ศ. 2525 ที่เข้าวงการบันเทิงมาได้ เพราะดวงพาไป ตอนนั้นมีโอกาสได้เจอกับ ใหม่ เจริญปุระ เขาเชิญเราไปเดินแบบการกุศล ค่าตัวไม่ได้ แต่เราก็ลองดู ทำให้มีโอกาสได้เล่นภาพยนตร์เรื่องแรก "ผัวชั่วคราว" ที่ภายหลังได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ทาสอารมณ์" เนื่องจากในสมัยนั้นชื่อหรือคำที่ดูหวือหวายังไม่เป็นที่ยอมรับ
หลังจากนั้นก็ได้มาลองชิมลางงานละครต่อ เรื่องแรกคือ "แววมยุรา" แต่ยังไม่เปรี้ยงเท่ากับเรื่อง "ขิงก็รา ข่าก็แรง" ที่ประกบคู่กับนางเอกมากฝีมือ "ต่อง สาวิตรี สามิภักดิ์" กระแสตอบรับดีมาก ตอนนั้นวิธีทำงานของเรา คือการอ่านบทแบบท่องจำ เพราะไม่ถนัดภาษาไทย เนื่องจากไปอยู่ต่างประเทศมานาน เวลาผู้กำกับสั่งให้เราเล่นฉากไหน เราก็จะท่องบทของฉากนั้นออกมาเลย ถือว่าตอนนั้นเส้นทางในการเป็นนักแสดงกำลังไปได้สวย
จากนั้นพิธีกรก็ได้ถามคุณเล็กต่อว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถือว่าเส้นทางในวงการกำลังไปได้สวย แต่ทำไมจู่ๆ ชีวิตถึงได้พลิกผันต้องเผชิญกับมรสุมมากมาย คุณเล็กเปิดใจว่า ช่วงที่หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิง ประมาณปีพ.ศ.2540 เป็นยุคฟองสบู่แตก เราเองมีธุรกิจถึง 7 อย่างด้วยกัน ตั้งแต่ร้านอาหาร ไปจนถึงนำเข้าและส่งออกสินค้ามากมาย แต่สุดท้ายทุกอย่างก็หายวับไปกับตา เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก เหมือนกำลังฝัน จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีหนี้ติดตัวกว่าร้อยล้านบาท ระบบหนี้ในตอนนั้นมีอยู่ 2 รูปแบบ คือแบบแพ่ง ปลอดภัย ไม่ติดคุก กับแบบอาญา ที่ต้องติดคุกแน่นอนหากไม่ชดใช้ ซึ่งมันมีหนี้อยู่ประมาณ 18 ล้านบาทที่เป็นหนี้อาญา ต้องใช้ให้หมดภายใน 3 ปี
ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ตัดสินใจถ่ายนู้ด และยอมรับตรงนี้เลยว่า การถ่ายนู้ดเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก ถ้าไม่ได้ถ่าย ก็คงไม่ได้กลับเข้ามาในวงการบันเทิงอีก และก็คงจะปลดหนี้ไม่หมด แต่การถ่ายแบบประเภทนี้มันก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะกระแสตอบรับจากคนทั่วไป ก็มีทั้งชอบและไม่ชอบ ตอนนั้นโดนคนโจมตีเยอะ เครียดจัด ถึงขั้นบินไปอยู่ที่เดนมาร์กกับคุณแม่เลย