"ทางโรงงานเจ้าของปุ๋ยมานำเสนอให้เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราก็รับปากไป แล้วเค้าก็มาบอกว่า ถ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์มันได้น้อย เดี๋ยวทางบริษัทจะให้เราเป็นหุ้นส่วน 10% โดยไม่ต้องลงเงิน ใช้แต่ชื่อเสียง ทางเราก็มีหน้าที่เป็นพีอาร์ให้กับบริษัท ร้องเพลง แต่มันมีอีกบริษัทหนึ่งที่มีหน้าที่รับฝากขายปุ๋ย คือเค้าซื้อปุ๋ยจากบริษัทของเราไปเพื่อไปขายให้กับเกษตรกร ได้กู้ ได้ใช้ปุ๋ยในราคาที่ถูก พอเค้าซื้อปุ๋ยเราไป บริษัทนั้นก็ครบสัญญาปีหนึ่ง มีคืนเงินบ้าง ไม่คืนบ้าง เค้าก็ทำธุรกิจของเค้าไป เอาเงินไปให้เกษตรกรกู้ แล้วเค้าก็ไม่ได้คืนเงินขายฝากทางนี้ เค้าก็มาฟ้อง จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันมีมาตั้งแต่ปี 57 แล้ว มาฟ้องโดยการที่ว่าซื้อปุ๋ยมาจากของเรา แต่จริงๆ แล้วสัญญาขายฝากไม่เกี่ยวกับทางเราเลย"
"ที่เราโดนลากเอี่ยวไปกับคดี เพราะเค้าถือว่าเรามีชื่อเสียง ซื้อปุ๋ยมาเพราะเรา เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ พอเค้าเสียหาย เค้าก็ต้องฟ้องเรา เพราะเราเป็นคนที่ทำให้เค้าเชื่อถือ มาซื้อปุ๋ยของเรา แต่จริงๆ แล้วมาขายฝากบริษัทนั้น ก็มีสัญญาถูกต้องทุกอย่าง ถามว่ารู้มั้ยว่าอีกบริษัทเค้ามีการรับขายฝาก เราก็รู้นะ แต่เราบอกไปแล้วว่าเราไม่ยุ่งนะ แต่เราขายปุ๋ยจริงๆ"
"ตอนที่เราไปขึ้นศาลกัน ตอนนั้นเราไม่คิดไง เราคิดแค่ว่าไม่ต้องกลัว เราไม่ผิด เพราะเราอยู่ในบริษัทขายปุ๋ย แล้วที่เค้าฟ้องนั่นคือบริษัทที่รับฝากขายปุ๋ย เป็นสัญญาขายฝากของอีกบริษัทหนึ่ง แต่มุมมองของศาลเค้ามองว่าเป็นการเชื่อมโยงกัน จริงๆ แล้วบริษัทของเราไม่ผิดเลย อาจจะผิดตรงนี้ พรบ.ขายปุ๋ยไม่ให้ขายตรง น่าจะผิดตรงนั้น"