ล่าสุดหนุ่ม น็อต วรฤทธิ์ ควงภรรยาสาว แจน นพลักษณ์ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ SHOW ทางช่อง ONE 31 ที่มี หนิง ปณิตา, เป๊กกี้ ศรีธัญญา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร
น็อต วรฤทธิ์ เผยความรู้สึก ปมคนเมาท์เรื่องเพศคุณพ่อ ชลิต เฟื่องอารมย์! (คลิป)
น็อต : เอาจริงๆนะไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะว่าเราก็เติบโตมากับเขาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้แล้วเราก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรของเขาเลย สิ่งที่เราเห็นสิ่งที่เราใกล้ชิด มันก็เป็นแบบที่เราเห็นมาตลอด แต่สิ่งที่คนอื่นไปพูดกันเนี่ย เขาพูดจากสิ่งที่เขาเห็นเพียงเล็กน้อยในเสี้ยวชีวิต แล้วก็เอาไปพูดเพื่อความสนุกปากของตัวเอง ไม่เห็นประโยชน์ของการพูดออกมาเลยว่า มันได้อะไรกับใครเลยบ้าง ตอนเด็กๆเคยโกรธนะ แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เราก็เฉยๆ ใครจะว่าอะไรก็ว่าไป เพราะว่าเรารู้อยู่แก่ใจว่า คนที่อยู่ใกล้ๆเรา เขาเป็นยังไง แต่สุดท้ายแล้วพอเวลามันผ่านไป ใครจะพูดอะไรมันไม่สำคัญ มันสำคัญตรงสิ่งที่เราเห็นและอยู่กับมัน มันเป็นอะไรมากกว่า ทุกคนก็มีความสุขกันดีปกติ
น็อต : คนนั้นยิ่งไม่สนใจอะไรใหญ่เลยครับ ใครจะพูดอะไรก็พูดไป คือสิ่งที่เรารู้ตัวว่าเราเป็นอะไร เรารู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่ ใครจะพูดอะไรมันก็ไม่สำคัญ ถ้าเรามั่นคงกับสิ่งที่เราทำ ไม่ต้องแคร์ใครเพราะคนอื่นไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตเราเลย
อยากบอกอะไรกับคนที่ ชอบพูดถึงเรื่องของพ่อเราบ้าง?
น็อต : ผมว่ายุคสมัยนี้มันเปลี่ยนไปเยอะแล้วนะ คนสามารถที่จะแสดงออกทางความคิดได้ง่ายขึ้น ผ่านโลกโซเชียลต่างๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมาแล้วคุณก็เขียนอะไรโดยที่ไม่ยั้งคิด มันเกิดจากการที่ว่าคุณรู้สึกภูมิใจ ที่คุณได้เหยียบคนอื่นขึ้นมา แล้วทำให้ตัวคุณเองรู้สึกดีใจ แต่คุณไม่ได้คิดว่า สิ่งที่คุณเขียนไป มันกระทบจิตใจใคร หรือทำร้ายใครบ้าง คืออยากให้ใช้สติกันเยอะๆ อย่าสักแต่ว่าทำเอามันส์ ทำเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดูดีกว่าคนอื่น ผมว่าอันนี้มันทำร้ายคนอื่นทางอ้อมโดยที่คุณไม่รู้ตัว แล้วมันก็ส่งผล ใครหลายๆคนที่จิตใจไม่เข้มแข็งพอ แล้วโดนคำตรงนั้นไป หรือคำต่อว่า นินทาโดยที่คุณไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ คุณเห็นเขาแค่ไม่เกิน 10 วินาทีแล้วคุณตัดสินเขาเลย มันถือว่าคุณเอาเปรียบเขาเกินไปนะ มันไม่ดีเลยครับ
แจน : เกือบ 6 เดือนแล้วค่ะ อาการแพ้ท้องก็ไม่ค่อยมีเลยค่ะ คือไม่มีอาการอะไรเลย
น็อต : เข้าเดือนที่ 6 ครับ
ตอนนี้ทราบเพศหรือยัง?
แจน: เป็นผู้หญิงค่ะ
น็อต : ใช่ครับ จริงๆอยากได้ผู้ชายนะ เพราะรู้สึกว่าเด็กผู้ชายมันไม่ต้องห่วงอะไรเยอะ พอเป็นเด็กผู้หญิงเราก็ห่วงเพราะว่าในสังคมสมัยนี้มันน่ากลัว
"น็อต" ดูแลภรรยายังไงบ้าง?
น็อต : จริงๆแล้วเราเป็นคนอยากมีลูกนะพอเขาท้องเราก็ดีใจ ก็ดูแลปกติทั่วไปครับ อยากกินอะไรก็พาไปกินเท่านั้นเอง คือไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะเราไม่ใช่เป็นคนแบบว่า ต้องทำอะไรที่มันพิเศษอะไรแบบนี้ครับ
แจน : ก็ใจจริงๆแจนอยากคลอดธรรมชาติ แต่ว่าไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอเขาก็ให้คำแนะนำว่าเดี๋ยวพอใกล้ๆค่อยมาดูอีกที เพราะว่าเราไม่รู้ว่าลักษณะของเด็กเขาจะอยู่ยังไง แล้วเขาก็จะต้องดูสรีระของคุณแม่ด้วย ว่าจะคลอดธรรมชาติได้ไหมอะไรแบบนี้ค่ะ
เมื่อน้องคลอดออกมา เตรียมตัวกันไว้ยังไงบ้าง?
น็อต : ก็ไม่ได้เตรียมอะไรเลยครับ เพราะว่าพวกของเด็กก็มีของพี่แนนอยู่แล้ว ก็ใช้ต่อเลย ไม่ต้องเสียตังค์ เพราะเดี๋ยวนี้ของเด็กมีตั้งเยอะที่สามารถใช้ต่อกันได้ ก็ใช้ของพี่แนนต่อเลยครับ ส่วนเราจะเตรียมสถานที่มากกว่า ที่บ้านเราก็ทำห้องใหม่ จะเป็นห้องที่เด็กๆ คือลูกพี่แนนแล้วก็ลูกเราจะมีพื้นที่ที่เป็นของเขาโดยเฉพาะ ให้เขาได้เล่นแล้วก็ไม่มีอะไรที่มันเป็นอันตรายอะไรแบบนี้
แจน : ก็จะเลี้ยงเองค่ะ แล้วก็อาจจะมีแม่บ้านที่บ้านช่วยบ้าง
แจน : ตอนนั้นแจนมีแฟนอยู่แล้ว แล้วก็เหมือนกับว่าเราปลื้ม พูดตรงๆก็คือบ้าดารา วันนั้นไปนั่งร้านกาแฟแล้วก็เจอพี่น็อตเดินเข้ามา เราก็สะกิดเพื่อน ที่จริงอยากถ่ายรูปแต่เราไม่กล้าขอ ก็เลยเอาเพื่อเป็น background แล้วเราก็ถ่ายรูปเขาอะไรอย่างนี้ แล้วก็แท็กไปหาพี่น็อตในไอจี
น็อต : ผมก็เห็น อ่านแล้วก็กด Follow กลับ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะแบบเพิ่งเล่น ig แล้วก็คบกับอีกคนนึงอยู่ด้วย แล้วเราก็เห็นเขาขายของ ก็มีของอันนึงที่อยากได้ ก็เลยสั่งซื้อ ก็เลยได้รู้จักกัน แต่เราก็เห็นเขามีแฟน ก็ไม่ยุ่งนะ ตอนหลังก็สนิทกันมากขึ้นเวลาที่ผมไปทำงานเชียงใหม่ ผมก็ชวนเขากับแฟนมาเที่ยวด้วย สักพักเขาก็เลิกกับแฟน เราก็งงเหมือนกัน แล้วเราก็ได้คุยปรึกษากัน แล้วตอนนั้นเราก็เป็นโสดพอดี ว่างทั้งคู่ ตอนนั้นเราคุยกันเยอะมาก แล้วก็รู้สึกว่าหรือว่าเราคิดอะไรกับคนนี้ ก็ตัดสินใจถามไปเลยเพราะเราก็คุยกันมานานแล้ว เราจะเอายังไงกันต่อดี จะลองคบกันดูไหม พอเขาตอบตกลงผมก็ตัดทุกคนที่คุยทิ้งหมดเลย
แจน : ตอนคบกันแรกๆโดยนิสัยผู้หญิงก็คือจะอยากรู้ ก็เคยเอามือถือเข้ามาดู เราเห็นก็รู้สึกหงุดหงิด พี่เขาก็บอกว่าดูแล้วไม่สบายใจจะดูทำไม มันไม่มีอะไร พี่ไม่ได้คิดอะไร เราก็คิดได้ มันก็จริงนะ เราจะไปเอาของเขามาดู แล้วทำให้เราไม่สบายใจทำไม แจนก็เลยวางไม่ดูอีกเลยค่ะ
น็อต : คือพอตัดสินใจคบกันแล้วเนี่ย เราพาเขาไปในทุกที่ที่เราไป ไม่มีครั้งไหนที่ไม่พาไปเลยนะ
เพราะอะไรถึงตัดสินใจเลือกคนนี้แต่งงาน?
น็อต : คือคุยแล้วมันสบายใจ เขาเป็นคนตรงไปตรงมา ชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ เวลามีปัญหาอะไรก็จะคุยกันเลยตรงๆ เราก็จะบอกเหตุผลของเราว่าเป็นแบบนี้นะ เข้าใจไหม ถ้าเข้าใจก็จบ แต่ถ้าไม่เข้าใจเราก็ขอโทษ ใครผิดคนนั้นก็ขอโทษแค่นั้นเอง ตรงไปตรงมา ชัดเจน นี่ก็เป็นเหตุผลว่าคนนี้น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วสำหรับเราแล้ว
น็อต : คือผมเอาแม่ไปคุยที่บ้านเลย เพราะแจนต้องย้ายงาน แล้วต้องมาอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งปกติเขาจะอยู่ที่เชียงใหม่ เราก็มองว่าถ้าอยู่กรุงเทพฯให้เขาอยู่คนเดียวมันก็ลำบาก แล้วเราก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็น Final ของชีวิตเราแล้ว เราก็เลยพาแม่ขึ้นไปคุยที่เชียงใหม่เลย ว่าถ้าแจนย้ายงานมาอยู่กรุงเทพฯขอให้มาอยู่ที่บ้านนะ ให้แม่รับประกันว่าจะดูแลลูกสาวคนนี้อย่างดี แล้วก็บอกว่าหลังจากตรงนี้กี่เดือน กี่ปี จะจัดงานแต่งงาน มีการกำหนดเวลาที่ชัดเจน พอใกล้เวลาจะแต่งงานก็พาคุณแม่คุณพ่อไปเพื่อขออีกครั้งหนึ่ง