ครั้งแรกที่เกิดเรื่องขึ้น รู้สึกยังไงบ้าง? ยิ่งยง : หลังจากฟังคำตัดสิน ก็รู้สึกช็อกไปเลยครับ พอคำตัดสินเสร็จเรียบร้อยเราก็ไปนั่งอยู่ข้างล่าง น้องๆ สองคนก็ถามว่า โกรธผมไหม? ผมก็บอกว่า "ไม่ พี่ไม่ได้โกรธน้อง หรือว่าโกรธใครทั้งนั้น เราแค่โกรธตัวเอง" แล้วอีกอย่างนึงที่เครียดมาก เหมือนกับเราไปหาหมอ ไปตรวจเช็กร่างกายแล้วหมอบอกว่ารอสักครู่นะ เดี๋ยวจะเช็กให้ แล้วหมอบอกเป็นมะเร็ง ความรู้สึกมันเหมือนเป็นแบบนั้นเลย เราก็เครียด ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป แต่ว่าหลังจากนั้นก็ได้รับการประกันตัวออกมา เราก็กลับมาคิด แล้วก็พยายามอยู่กับมันให้ได้ ถ้าเกิดว่าเราเอาความทุกข์เข้ามาอยู่ในใจ เราก็จะทำอะไรไม่ได้ มันจะเครียดตลอดเวลา ทำงานก็ไม่ได้ ถ่ายละครก็ไม่ได้ ช่างมันเถอะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป คือต้องปล่อยวางครับ
เคยคิดไหมว่าตัวเองจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้?
ยิ่งยง : ไม่เคยคิดเลยครับ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาเจอมรสุมชีวิตในเรื่องการโกง คือจากเด็กคนหนึ่งที่มาอยู่กรุงเทพฯ หวังที่จะเป็นศิลปิน ได้เป็นศิลปินดัง แต่อยู่ๆ เรื่องราวก็มาพลิก แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณศาลนะครับ ที่ได้เมตตาให้โอกาสเรา ลดโทษให้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับเราในวันนี้ แล้วก็ขอโทษพี่น้องแฟนเพลงที่ทำให้เครียดไปด้วย แล้วก็ขอบคุณด้วยที่อยู่เคียงข้างกันมา
ทิพย์ : จริงๆ เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากพี่นะ เพราะพี่เป็นผู้จัดการ เป็นคนรับงานเข้ามา พี่เป็นคนวางงานให้เขา คือคุณยิ่งยงจะมีหน้าที่แค่ร้องเพลง แล้วก็พูดเรื่องปุ๋ยดียังไง แค่นั้นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างพี่จะเป็นคนทำตลอด อยากจะบอกว่า พี่ยิ่งยงบริสุทธิ์ คนไม่ดีคือพี่เอง แต่คือพี่ก็ทำเพื่อครอบครัวนะ แล้วก็นำสิ่งไม่ดีเข้ามาในครอบครัว