เปิดใจ “อาร์ม เดอะวอยซ์” นอยด์ สาวพ่นเหล้าใส่หน้า คนทำฉะขอโทษแล้ว ทำไมประจาน

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.62 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "mook minrayporn somnongkham" โพสต์คลิปวิดีโอ ความยาว 1.15 นาที โดยเป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มนักร้องทำการแสดงปกติ ระหว่างนั้นถูกผู้หญิงคนหนึ่งที่มาเที่ยว อมเหล้ามาพ่นใส่หน้านักร้องนำ ในขณะที่ยังมีการโชว์อยู่บนเวที ทำให้วงต้องหยุดโชว์ ในขณะที่ทุกคนในร้านกำลังสนุกสนานนั้น

ล่าสุด วันที่ 25 มิ.ย. 62 นายอนุสรณ์ ประสิทธิ์ หรือ อาร์ม the voice ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุ 21 มิ.ย. 62 ตนเล่นดนตรีที่สถานบันเทิงย่านสนามเป้า จนกระทั่งใกล้จะจบโชว์ มีผู้หญิงเข้ามาพ่นเหล้าใส่หน้าตน ตนจึงรีบหันหลังไปเช็ดหน้าพร้อมตั้งสติ ขณะนั้นตนได้ยินผู้หญิงคนดังกล่าวพูดขึ้นมาว่า "ยังไม่เมา ไปดีกว่าเดี๋ยวโดนกระทืบ" แล้วก็เดินออกไป ยอมรับว่าตอนนั้นสติของตนไม่อยู่กับตัว และไม่สามารถโชว์ต่อได้ จึงตัดสินใจพูดปิดโชว์ จากนั้นก็เดินลงจากเวทีกลับบ้าน ทั้งนี้ สาเหตุที่เกิดขึ้น ผู้หญิงอาจจะความเมา และอยากที่จะโชว์เพื่อน

นายอนุสรณ์ ประสิทธิ์ หรือ อาร์ม the voice ผู้เสียหา

หลังเกิดเหตุพี่สาวตนได้ทักไปหาทางคู่กรณี คู่กรณีบอกแค่ว่า "ขอโทษทีนะคะ พอดีเมาไม่ได้สติ" จนกระทั่งคลิปได้มีการเผยแพร่ออกไป คู่กรณีได้ส่งข้อความมาขอโทษอีกครั้ง และบอกเหตุผลว่า ทำไปเพราะความเมา ทำขำ ๆ สนุก ๆ เท่านั้น แต่ตนไม่ขำด้วย เพราะตั้งแต่ตนทำการแสดงร้องเพลงประมาณ 10 ปีได้ ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ ตนรู้สึกแย่มาก เปรียบเสมือนมีคนถ่มน้ำลายใส่หน้า แต่เป็นเหล้า และเขาก็เป็นผู้หญิง ไม่ควรกระทำเช่นนี้ หลังจากเกิดเรื่องก็ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.พญาไท แต่ไม่ได้ดำเนินทางคดี

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าจะเลิกร้องเพลง แล้วเอาตัวเองออกมาจากตรงนี้ เพราะรู้สึกแย่มาก ที่ไม่ให้เกียรตินักร้องศิลปิน ทั้งนี้ ตนให้อภัย เพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำไปเป็นเพราะความเมา แต่ก็อยากให้เคสนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ต่อสังคม ให้รู้ลิมิต มีสติ อย่าทำความเดือนร้อนให้ใคร

แชตการสนทนากับผู้ก่อเหตุ

     น.ส.ฝน (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนยอมรับผิด และสำนึกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษผู้เสียหายแล้ว พี่สาวผู้เสียหายได้ส่งข้อความมาถามเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนรู้สึกผิดมาก ไม่อยากพูดถึง และละอายใจ แต่ด้วยความที่เป็นภาษาพิมพ์คุยกัน ก็จะไม่รู้ว่าอารมณ์คนที่พิมพ์ว่าเป็นอย่างไร อาจจะทำให้เขาเข้าใจว่าทางตนไม่รู้สึกก็ได้ โดยการสนทนาในครั้งนั้นก็เงียบหายไป ตนจึงคิดว่าทางเขาคงยกโทษให้ตนแล้ว และเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขายังคงโกรธอยู่

ทั้งนี้ ตนคิดว่าขอโทษพี่สาวและเรื่องจะจบ กระทั่งเพื่อนผู้เสียหายได้ทักข้อความมาต่อว่าตน ทั้งนี้ ตนไม่ได้ตั้งใจ ด้วยอารมณ์สนุกและเมามาก คิดว่าการทำเช่นนั้นอาจจะเป็นเรื่องสนุก ๆ ไม่ได้คิดว่าจะมีผลกระทบต่อจิตใจเขาเช่นนี้