ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


โดนจับตามองไม่น้อย สำหรับกรณีปัญหาในครอบครัวของ ต่าย ชุติมา และสามีนักการเมือง ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หลังทั้งคู่ได้เลิกรากันไปแล้ว และมีการตกลงเรื่องการเลี้ยงดูลูก น้องพิพิม ไว้ด้วย แต่หลายคนก็มองว่าเหมือนฝ่ายหญิงยื้อเวลา ขอสิทธิ์เลี้ยงลูกไปคนเดียว เพราะอยากได้เงินค่าเลี้ยงดูจากฝ่ายชายนั้น

ล่าสุดต่าย ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ในรายการ Club Friday Show ทางช่อง GMM25 โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ตนเป็นฝ่ายเลือกให้ความสัมพันธ์ในครั้งนี้จบลง ซึ่งในมุมมองของตนแล้วก็คิดว่า เขาน่าจะเห็นว่าตนมีความบกพร่องในเรื่องความเป็นภรรยา ความเป็นแม่ที่อาจจะไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งตนก็เคยพูดว่า ผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์หรือภรรยาที่เพอร์เฟกต์ มันไม่ได้มีในโลก เรามาลองคุยกันไหม เขาก็พูดว่า ให้ตนลองพัฒนาขึ้นไหม

ต่าย ยังเปิดเผยถึงเรื่องที่หลายคนมองว่าเธออยากได้สิทธิ์การเลี้ยงดูลูกเองเพราะอยากได้เงินว่า ตนมีการซัพพอร์ตเรื่องเงินของลูกอยู่แล้ว ส่วนเงินที่เขาให้มา ก็ใช้ไปกับเรื่องของลูกทั้งหมด มันไม่ถึงตนอยู่แล้ว เด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินในการเติบโต ตนไม่ได้เอาลูกไว้เพื่อเรียกเงิน มันไม่เคยมีอยู่ในสมองเลย ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมีข่าวลืออะไรออกมาตนก็ปล่อยผ่าน ซึ่งมันเป็นเรื่องไม่จริง ตนจึงอยากปล่อยผ่านไป ไม่อยากเอาออกมาพูด ไม่อยากแก้ตัว แต่ด้วยความที่มันเริ่มกระทบหน้าที่การงาน ตนจึงต้องออกมาพูด เพราะก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าไม่สงสารลูกเหรอ ที่แม่ออกมาพูดแบบนี้ ซึ่งตนก็อยากถามกลับว่า แล้วไม่สงสารลูกตนเหรอ ที่โตมาต้องมาเห็นข่าวแบบนั้นซึ่งมันเป็นข่าวเท็จ ตนจึงมองว่าสู้ให้ลูกโตมาฟังที่แม่พูดดีกว่า



ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


โดยได้ชี้แจงว่า ตั้งแต่ลูกเกิดจนถึงตอนนี้ ที่จบความสัมพันธ์กันไปแล้วตนใช้เงินของตัวเองในการเลี้ยงลูกมาโดยตลอด แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่เป็นเงินส่วนตัวของตน โดยสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกในตอนนี้ยังเป็น 50-50 ซึ่งตอนนี้ลูกได้เข้าโรงเรียนไปแล้ว ตนก็ไม่อยากให้กระทบกับกิจวัตรประจำวันของเขา ก็ได้พาลูกมาเลี้ยงเองในวันศุกร์-จันทร์ หลายคนอาจจะมองว่ามันแฮปปี้ที่ไม่ต้องตื่นเช้าไปส่งลูก ให้ทางนั้นดูแล แต่ตนมองว่า การที่ลูกต้องมาอยู่แบบนี้อาจจะทำให้เขาเกิดความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ลูกเป็นโรคหลายบุคลิกได้ แต่ตนก็ได้มีการปรึกษากุมารแพทย์และจิตแพทย์เด็กตลอด ซึ่งทางแพทย์ก็ได้บอกว่าเด็กควรมีผู้ปกครองและบ้านที่เป็นหลักในการเลี้ยงดูต้องมากกว่าอีกฝั่งหนึ่ง ไม่งั้นเด็กจะงง เพราะแต่ละบ้านสอนไม่เหมือนกัน อาจจะทำให้เขาโตมาแล้วไม่มีตัวตนเป็นของตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เพราะขนาดบ้านที่เขาอยู่กันพร้อมหน้า คุณพ่อสอนอีกอย่าง คุณแม่สอนอีกอย่าง เด็กก็ยังออกมาดื้อ เพราะเด็กไม่รู้จะฟังใคร ทีนี้เขาก็จะเริ่มฟังตัวเอง ฟังเพื่อนมากกว่า ยิ่งมาแยกบ้านแบบนี้ก็จะยิ่งมีผลกระทบจิตใจกันไปอีก ตนไม่ได้หมายความว่าเราจะแยกลูกออกมาดูคนเดียวทุกวัน เพราะเด็กคนหนึ่งก็ต้องการมีทั้งพ่อและแม่ เพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์ แต่ผู้ปกครองหลัก ๆ ต้องเป็นใครคนใดคนหนึ่งจริง ๆ จึงอยากให้คนกลางเป็นคนตัดสินว่าใครเหมาะกับเขา เราอยากให้พ่อและแม่ทำหน้าที่ดูแลในสิ่งที่ตัวเองถนัด ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีกับลูกมากกว่า


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก




ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา  หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก


เครดิต : IG tye_chutima , รายการ Club Friday Show 


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์