ปนัดดา เรืองวุฒิ อัพเดตอาหารป่วยโรคไทรอยด์ เผยเคยถูกนักธุรกิจ เสนอให้เป็นบ้านน้อย
อัปเดตอาการป่วยหน่อย?
ปนัดดา : "โรคนี้ดูไม่ค่อยรู้กันเท่าไหร่ อาการจะไม่ค่อยเห็นชัดเจน แต่ว่ามันจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ซึ่งจุดนี้พวกเราคนในวงการกังวลมาก เรื่องน้ำหนักตัวเป็นถังเลย ขึ้นมาเป็น 10 กิโลฯ เลย มันไม่ใช่แค่น้ำหนักขึ้นนะคะแต่มันเหมือนน้ำท่วมขังอยู่ในร่างกาย หน้าบวม ตัวบวม ทุกอย่างเปลี่ยนคัพ เปลี่ยนไซส์ไปหมด คือมันเป็นไฮโปไทรอยด์ หรือที่เขาเรียกว่า ไทรอยด์ต่ำ"
ปนัดดา : "ตอนเริ่มต้นรักษาเขาจะพิจารณาก่อนว่ามันเป็นแบบที่รักษาได้ไหมหรือว่าเป็นแบบที่จะต้องทานยาไปตลอดชีวิตอย่างนัดเป็นแบบที่ไม่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์แล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องเติมไปตลอดชีวิต ทานยาไปตลอดชีวิตเลย"
ทำไมพี่ถึงอยากไปทำใหม่?
ปนัดดา : "ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าทำไมจมูกเราเชิดขึ้นเรื่อยๆ โหงวเฮ้งไม่ดี เก็บเงินไม่อยู่ เราก็เลยอยากเปลี่ยน แล้วทีนี้พอไปปรึกษาหมอ หมอก็แบบ ทำได้ เราอยากให้มีตัวช่วยดึงจมูกลงมานิดนึง แล้วด้วยความที่ผ่าตัดแบบเปิดที่เมืองไทย เพราะว่าของพี่นัดมันต้องแก้ เพราะพี่เคยทำมานานมากแล้ว มีฟิลเลอร์ด้วย แล้วด้วยความที่จมูกเราเนื้อมันน้อย พอทำก็ทำมากไม่ได้ เราอยากมีติ่งก็เลยไปเติมฟิลเลอร์ ด้วยความที่เราก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรมันถูกกับร่างกายของเราหรือไม่ถูกกับร่างกายของเรา แต่มันเป็นฟิลเลอร์ที่มี อย.ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แต่จะถูกกับร่างกายของเราหรือเปล่าไม่รู้ พอฉีดเข้าไปปุ๊บมันก็สวยอยู่พักหนึ่งมันก็สลายไปจมูกเราก็กลับมาเหมือนเดิม"
เห็นว่าจมูกเก่าสร้างปัญหาด้านสุขภาพ?
ปนัดดา : "ใช่ อย่างที่บอกไม่รู้มันถูกกับร่างกายเราหรือเปล่า บางทีเราเป็นไซนัส เป็นภูมิแพ้ เป็นอะไร มันก็สามารถระคายเคืองเกิดการติดเชื้ออยู่ข้างในได้ มาทราบอีกทีตอนเขาผ่าตัดเปิดจมูกที่จะเลาะเอาของเก่าออกนี่แหละ คุณหมอถ่ายรูปเก็บเอาไว้ คุณหมอบอกว้าว แต่เราไม่กล้าดูเดี๋ยวทานข้าวไม่ลง คือจมูกข้างในมันอักเสบแล้ว เป็นหนองอยู่ข้างใน มันอักเสบจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วร่างกายมันแบบมันมีอะไรแปลกปลอมมานะ ซึ่งเราก็ไม่รู้ตัวหรอกว่ามันอักเสบ แต่ครั้งนี้เราไปอัปซีรีส์ใหม่ที่โคเรีย"
ปนัดดา : "เรายังใช้ซิมเดิมอยู่ ไม่ได้ใช้แบบดูโอ้ซิม สมัยนี้มีแต่อะไรที่สวยๆ งามๆ ผู้ชายก็เป็นเรื่องที่สวยงาม"
เห็นว่าทอมมาขายขนมจีบเต็มไปหมดเลย?
ปนัดดา : "เรื่อยๆ ทางเราก็ไม่เข้าใจ ปกติเขาจะชอบผู้หญิงน่ารักๆ แล้วทำไมมาชอบรถถังแบบนี้"
แต่เรื่องที่หลายคนยังไม่รู้ คือพี่มีนักธุรกิจใหญ่ อาจจะมีอิทธิพลทางการเมืองเข้ามาขายขนมจีบ?
ปนัดดา : "มันนานมากแล้ว ตอนนั้นโควต้าสาวๆ ยังไม่หมด เขาก็มาเรื่อยๆ ทางเราก็เกรงใจ ฝากเนื้อ ฝากตัวเป็นหลานแล้วกัน เขาโตกว่าเราเยอะ เรานับถือ แล้วเราเจอกันในงานเลี้ยง สมัยนั้นเขาเข้ามาทางผู้ใหญ่ที่รู้จักกันแล้วก็ชวนไปงานเรื่อยๆ"
แล้วเขามาบอกยังไง เราถึงรู้ว่าเขาจีบ?
ปนัดดา : "ยังไม่มีแฟนใช่ไหม พอเวลาผ่านไปมีครอบครัวหรือยัง ไม่มีค่ะ มีแฟนหรือเปล่า ไม่มีค่ะ ก็ไม่มีจริงๆ ไม่รู้จะตอบยังไง ส่วนทางเขาเลิกแล้ว"
แล้วทำไมพี่ไม่เซย์เยสไป?
ปนัดดา : ทางเรามันไม่ใช่ทาง ด้วยความที่เรานับถือ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะไปคั่วกลิ้งกับคนที่นับถือได้ยังไง
เขาตามจีบเรา 5 ปีเสียดายไหม?
ปนัดดา : "มันมาเรื่อยๆ แต่เขาก็มีศักยภาพของเขา ศักยภาพในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเราคนเดียว คือมันก็มีคนที่พยายามเข้าหาเขาเรื่อยๆ ทางเราก็นับถือ"
9 ปีกว่า ไร้หนุ่มๆ มาจีบเลยเหรอ?
ปนัดดา : "มันก็มี แต่เพียงแค่มันยังไม่คลิก"