แพท ณปภา แพ้ทางหนุ่มตี๋ รับเป็นสายแอ๊ว ไม่รู้ เบนซ์ เรซซิ่ง มีสาวคุย?

“เรารู้สึกเราจะไม่ได้เจอเขาครึ่งวันเลย อยู่กันมาสองปีครึ่ง เราไม่เคยห่างกัน แล้วไม่มีวี่แววจะร้องไห้หรือเรียกหา ระหว่างวัน ครูจะมีการรายงาน ซึ่งลูกเราก็เอ็นจอยกับการเรียนดีมาก ครูให้ทำอะไรทำหมด ภาพที่แพทเห็นคือครูจะต้องคอยจับนางให้อยู่ในแถว เพราะนางจะอยู่ในแถวไม่ได้ สมมุติเป็นแถวโค้งนางจะไปอยู่ตรงของของแถวโค้งแล้วก็เต้น”

“เราตั้งใจให้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว วันแรกของลูก มันเป็นภาพที่น่ารัก สุดท้ายแล้วแพทกับพี่เบนซ์เราก็ยังคุยกันอยู่ แต่สถานะที่จะเป็นสามีภรรยามันได้เปลี่ยนเป็นเพื่อน เป็นคุณพ่อ คุณแม่”

“เขาเรียกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว คือเขามีอะไรก็จะเรียกแม่ แม่ แม้แต่ในไลน์ เขาเรียกเราแม่ เราก็เรียกเขาพ่อพ่อ อย่างที่บอกถึงเราไม่ใช่ที่รัก สามี ภรรยา แต่เราก็ยังเป็นพ่อและแม่ให้กับเรซซิ่ง แล้วเราก็ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด”

“ไม่รู้เลย แพทไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลย เราสองคนไม่เคยคุยกันเรื่องอื่น เรื่องส่วนตัวเลย เรื่องส่วนตัวที่คุยคือ มีไปขี่รถ จะขายรถ เรื่องสัพเพเหระ โฟกัสส่วนใหญ่เรื่องลูก แต่เรื่องส่วนตัวเช่น ตอนนี้เธอมีใครรึยัง เราไม่เคยแตะกันเลย”

“แพทพูดแต่แรกอยู่แล้วว่า มีได้ ถ้าเขามีมันก็ยิ่งชัดเจน กับเราด้วย กับคนในสังคมด้วย ถ้าจริงจังหรือตั้งใจแล้วเราอยากให้รู้กันสามคนด้วย เพราะว่าแพทต้องบอกลูกด้วยว่ามันเป็นแบบนี้ ดีกว่าไปอยู่กับป๊าแล้วคนนั้นคือใคร ถึงวันนึงแพทก็ต้องคุยกับเขาว่าป๊า ม๊าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะเหตุอะไร เรายังทำหน้าที่อะไรกันอยู่ ณ วันนึงที่เขาถามเราต้องทำให้ได้ ถ้าวันนี้มีคนมาบอกเขามาบอกว่าคุยกับใคร แพทไม่ได้มีความรู้สึกแบบ นั่นใคร ทำไมอ่ะ แต่ที่เขาไม่บอกอาจจะแค่ยังไม่แน่ใจ หรือกำลังคุยอยู่ ถ้าถามแพท ไม่รู้เลย ส่วนทางฝั่งแพท ไม่มีค่ะ”

“พ่อหมีพักก่อน แพทว่าสเปกพ่อหมีไม่ใช่แพท แต่ถามว่าเขาสปกแพทมั้ย ในอนาคตไม่แน่นะ พอแพททำงานกับพี่โอ๊ตมากๆ เคมีต่างๆมันดูไปด้วยกันได้ แต่มันยังไม่ถึงขั้นพัฒนากันไปอย่างอื่น เรามองหน้ากันเรามีเซ้นส์กันอยู่แล้วว่ายังไปไม่ถึง แต่แพทไม่ได้หมายถึงอนาคตเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้หมด อนาคตใครจะไปรู้”

“แพทแพ้ทางหนุ่มตี๋อยู่แล้ว ดูได้จากสามีเก่าน้อง เราเป็นพวกขี้เล่น ไม่เอาจริงหรอก เรื่องเกิดที่หาดใหญ่กำลังจะบินกลับดอนเมือง ถึงเราจะไม่เปิดหัวใจแต่เรด้าเราดี เขายืนอยู่ในร้านขายของ หางตาเราก็เห็นแล้วว่าดี เลยทำเป็นหยิบของไม่ถึง เขาก็เลยพูดขึ้นมาว่า ช่วยหยิบให้มั้ยครับ แพทบอกไปเลยว่าพี่รอคำนี้อยู่ ช่วยหยิบให้พี่ที เขาอายุ 22 ปี เรา 33 ปี ห่างกัน 11 ปี ถามเลยว่าชื่อไร เขาชื่อต้าร์ แล้วก็ถามเขาว่าชอบคนแก่มั้ย เขาก็ตอบกลับมาว่า ผมก็ไม่ติดนะพี่”

“ไม่เคยเลย ไม่ตอบเอาสวยเลยนะ แพททำงานหนักมาก ไอ้นี่ก็วุ่นวายมาก พอเหมือนจะเหงาก็หลับ”

“คุย แพทเชื่อว่าแพทหายากกว่าเดิมอีก เพราะเราไม่ได้โสดเฉยๆ เราโสดลูกหนึ่ง มันจะเป็นการกรองแล้วว่าเขาต้องรับลูกเราให้ได้ แพทไม่เชื่ออย่าดีว่าจะมีใครจะรักเด็กคนนี้ได้เท่าพ่อแม่จริงๆ ถ้าเรายังไม่เจอคนนั้นก็ไม่รู้จะเปิดใจไปทำไม เพราะเรารักเขามาก เรากลัวคนที่เข้ามาไม่รักลูกเรา จะมารักแต่เราไม่ได้นะ”

“เอาจากใจจริงๆเลยคือช็อค แต่แพทต้องบอกตรงๆเลยว่า แพทกับแม่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก แพทไม่เคยเจอเขาทั้งหมด 33 ปี วันที่เสียเราแค่ช็อคว่าทำไมรู้สุดท้าย ทำไมไม่บอกเราก่อนเลยว่าป่วย ทั้งที่เราก็คุยกันมาก่อนหน้านี้ แต่แม่ไม่เคยพูดเลยว่าแม่ป่วย แต่จริงๆแกป่วยมาสองปี ช่วงหลังที่ติดต่อกันแกแทบจะเดินไม่ไหว แพทพยายามบอกว่าอยากไปหา แกก็เหมือนไม่ค่อยสะดวก ตา ยาย บอกว่าน่าจะเป็นเพราะว่าแกคงไม่อยากให้เห็นเขาในสภาพนั้น ก็เลยได้แค่คุย แม่ก็ส่งรูปมาให้แต่ก็ดูไม่รู้ว่าแม่ป่วยเพราะเป็นรูปเก่าสมัยสาวๆ ไปรู้วันสุดท้าย คุณตาโทรมาบอกว่าให้มาดูใจ เรายิ่งช็อคเข้าไปใหญ่ เพราะแพทไม่รู้จักครอบครัวฝั่งแม่เลย เขาเลยบอกชื่อ ที่อยู่ ให้เอาข้อมูลตรงนี้ไปถามพ่อ พ่อก็บอกว่าใช่”

“จริงๆแพทบอกแม่ไปในวันที่แม่อยู่ในโลงแล้วว่าแม่จงภูมิใจว่าลูกแม่ทั้งสองคนเก่งมากๆ ถึงแม้เราจะไม่ได้เจอกัน 33 ปี แต่อย่างน้อยวันสุดท้ายของชีวิตเขา เขานึกถึงเรา แล้วให้แพทได้ทำหน้าที่ลูกครั้งสุดท้ายคือดีที่สุดแล้ว พอได้นั่งคุยกับครอบครัวของแม่ คุณตา คุณยายก็บอกว่าแม่ไม่เคยลืม แต่เขามีความเกรงใจทางครอบครัวของพ่อ อาจจะมีความรู้สึกในใจ เพราะเขาไม่ได้เลี้ยงเรา เขาไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับลูกคนนี้ยังไง”

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.35-14.35น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama