นุ่น ดารัณ ควงสาวหล่อเปิดใจเรื่องรัก - เปิดปากลูกชาย ถึงรักใหม่ของแม่
เป็นคุณแม่ที่ยังสวยแซ่บ สตรอง ซะจริงจริ๊ง สำหรับ นักแสดงสาว นุ่น ดารัณ ที่ล่าสุด เจาตัวก็ได้ควงหวานใจ พร้อมลูกชาย มาเปิดใจครั้งแรก ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ถึงประเด็นความรักในครั้งนี้ เผยเคยห่างกันไปนานถึง 8 ปี เพราะอะไร ? พร้อมเปิดปากลูกชายกับรักครั้งนี้ของแม่ !!
นุ่น : เรื่องนั้นเรายังไม่ได้คุยไปถึงขั้นนั้น
เคยเลิกกันไปแล้วถึง 8 ปี ?
นุ่น : จะใช้คำว่าเลิกมันก็ไม่ได้ใช้คำนั้นได้เต็ม ๆ ที่เราอยู่กันมาเกือบ 5 ปี ตั้งแต่เด็ก ๆ ยังเล็ก ๆ หลังจากพี่หย่าขาดจากสามี เรารู้จักกันมาก่อน เป็นกัลยาณมิตรกันมา เราคุยกันได้ทุกเรื่อง
เป็นเพื่อนสมัยเรียนหรือเปล่า ?
นุ่น : จริง ๆ เป็นรุ่นน้อง ไม่ได้เจอที่มหาวิทยาลัย เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน รู้จักตอนเขาเรียนจบ เราทำงานแล้ว รู้จักตอนทำงานละครเวที น้องมาทำงานละครเวทีอยู่ในทีมนั้น พอเจอกันก็คิดว่าเด็กนิเทศฯ เหมือนกันคุยกันรู้เรื่อง หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างใช้ชีวิต แต่เวลาที่เจอกัน คุยกัน มันลื่นไหลไปหมด แม้กระทั่งเวลาที่มีปัญหาก็นึกถึงเขาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องของงานหรือปัญหาเรื่องของแฟน แม้กระทั่งตอนแต่งงานแล้ว พอมีปัญหาสิ่งเดียวที่อยากได้คือกำลังใจ เขาคือกำลังใจที่ดี เราเชื่อว่าเขาทำมาจากความรัก แต่ ณ วันนั้นเราไม่ได้รู้สึกว่าเขารักเราแบบเป็นแฟน รู้สึกเขาชื่นชมและประทับใจเรา เขาจริงใจ มันเป็นคำว่ากัลยาณมิตรจริง ๆ
บี : ใช่ มันไม่ได้เป็นความรักแบบนั้น ไม่ได้คิดจะไปครอบครองเขา
แล้วมันเปลี่ยนตอนไหน ?
บี : น่าจะเป็นตอนที่เขาไม่ได้อยู่กับสามีเขาแล้ว นั่นคือเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตเขา เราอยู่ในทุกปัญหาของเขา เราทราบทุกเรื่อง เขาค่อนข้างหนักมาก แล้วจังหวะเราก็เข้าไปช่วยดูแลลูก
นุ่น : มันเป็นจังหวะที่ว่าเราต้องการคนเข้ามาช่วยประคับประคองพอดี เขาเป็นคนที่เราไว้วางใจอยู่แล้ว เรื่องลูกเราคิดเสมอ หลังจากเราเลิกกับสามี เราไม่เคยคิดจะมีพ่อมาทดแทนให้ลูก เพราะเราไม่ได้ต้องการตรงนั้น เราไปได้ เราแบกได้ แต่อันนี้คือกำลังใจของเรา มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนจับพลัดจับผลู สองคนมันโฟกัสลูก เขาอะเต็มที่อยู่แล้ว เขารักเราด้วยความจริงใจ เขาดูแลลูกเราดีมาก
ตอนนั้นลูกอายุเท่าไร ?
นุ่น : ตอนที่เลิกกับสามี น้องมุก 3 ขวบ น้องไม้ 5 ขวบ
ในงานแต่งพี่บีก็อยู่ที่นั่น จัดงานออร์แกไนซ์ให้ ?
นุ่น : ใช่ค่ะ เขาเป็นคนปล่อยตัวให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดิน
บี : คนรอบข้างคิดว่าเราจะเฮิร์ตมากเปล่า เรารู้สึกว่าเขาแฮปปี้ เราก็แฮปปี้
หลังจากพี่นุ่นเลิกกับสามี นานไหมกว่าที่จะได้มาคบกันจริง ๆ ?
นุ่น : ไม่นาน ก็อย่างที่บอกว่ามันจับพลัดจับผลูเป็นช่วงเวลาที่ต้องช่วยเหลือดูแลกันแล้ว
คบกันกี่ปี ?
นุ่น : 5 ปี แล้วก็เลิกกันไป ก็แยกกันไป มันเหมือนกับว่าเวลาอยู่ด้วยกันไม่ว่าเรื่องลูกหรือเรื่องอะไรก็ตาม เขาก็มีงาน เราก็มีงาน ธุรกิจส่วนตัวเขา เราก็มีงานของเราต้องจัดการเยอะแยะมากมาย ลูกก็ต้องรับผิดชอบ มันก็มีภาวะอารมณ์ต่าง ๆ พอวันหนึ่งแล้วมันหงุดหงิดใส่กัน อยู่ด้วยกันแล้วเครียดจังเลย เราก็เลยหาทางเลือกใหม่ว่าหรือเราต้องเลิกกัน จริง ๆ มันน่าจะเป็นเรื่องลิขิตมากกว่าให้เราออกไปเดินทาง ไปเรียนรู้กันคนละวิชา แต่อันนั้นเราไม่รู้ตัว รู้แต่ว่าพอแล้ว
ระยะเวลาเท่าไรถึงจะกลับมาเจอกัน ?
นุ่น : 8 ปี เด็กเปลี่ยนจากวัยเล็กเป็นวัยรุ่นเลย
แล้วต่างคนต่างมีคบคนอื่นไหมช่วง 8 ปี ?
บี : มันก็ผ่านเข้ามาบ้าง แต่เราไม่ได้มีใครที่คิดว่าจะคบกัน
จริง ๆ แล้วพี่บีรอพี่นุ่นหรือเปล่า ?
บี : ในสถานการณ์และสถานภาพคือเถียงไม่ได้เลย แต่พอใครถามก็บอกว่าไม่ได้รอ เราก็ใช้ชีวิตของเราได้
มีความหวังไหมว่าสักวันหนึ่งจะได้กลับมา ?
บี : ไม่เลยจริง ๆ ตอนที่เจอเขาใหม่ ๆ ยังบอกเลยว่า ถ้ามันเป็นเรื่องคาดหวังก็คงดีใจระดับหนึ่ง พอไม่ได้คาดหวังมันมากกว่านั้น ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะได้กลับมาเจอกัน
ช่วงที่เลิกกันมีติดต่อกันบ้างไหม ยังเป็นเพื่อนกันไหม ?
นุ่น : ไม่เลย ตัวเราเป็นคนเดินหน้าแล้วไม่ถอยหลัง
บี : มันเหมือนพอระยะมันค่อย ๆ ห่างมันก็ยิ่งห่าง
นุ่น : บังเอิญมาก ๆ ไปอัดเสียงสปอตวิทยุ พออัดเสียงเสร็จเดินออกจากห้องแล้วเจอโซฟาอยู่ข้าง ๆ มีความรู้สึกว่ามีใครนั่งอยู่ เขาก็เรียกชื่อเรา เราก็เสียงคุ้น เราตกใจที่เห็นคุณแม่เขา ไม่ได้เห็นเขาเลย ตาเราโฟกัสที่คุณแม่ที่นั่งโซฟา ตัวเขานั่งอยู่ เราก็นึกว่าคุณแม่ใครสักคนหนึ่ง เพราะเราห่างกันมาก จนกระทั่งเขาบอกว่าแม่บี เราก็หันไปมองหน้าเขา บีจริง ๆ ด้วย รู้สึกว่าดีใจมากที่ได้เจอ ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ
วิ่งเข้าไปกอดกันเลยไหม ?
นุ่น : วิ่งเข้าไปไหว้แม่ก่อน แล้วก็บอกว่าเซลฟี่กันไหม แอดไลน์กันไหม
แล้วฝั่งพี่บีรู้สึกยังไง ?
บี : ตอนแรกตกใจเพราะเราเห็นเขาก่อน หนีไม่ออก แต่ดีใจมากมันเหมือนหัวใจมันพองโต อยากใช้เวลาที่นั่งอยู่ตรงนี้ให้มีค่ามากที่สุด
นุ่น : ในส่วนของเรา เราประหลาดใจนะว่าทำไมรู้สึกดีใจจังเลย เพราะอย่างที่บอกเราไม่คิดว่าจะย้อนกลับไปหาใด ๆ ทั้งสิ้น บังเอิญว่าเราได้กอดกัน มันเป็นการกอดที่เราดีใจจังเลยที่ได้เจอ มันเป็นการกอดที่มีภาพต่าง ๆ เข้ามา เหมือนกับเราไม่ต้องคุยอะไรกันเยอะเลย เราบอกความรู้สึกทั้งหมดด้วยการกอดกัน มันเป็นการกอดที่มันเป็นความรู้สึกดีที่ได้นั่งคุย
นุ่น : ใครเข้ามาในชีวิตจะบอกลูกเสมอ จริง ๆ ลูกจะเป็นคนช่วยเลือกนะ ลูกโตพอที่จะเป็นวัยที่เรียนรู้เรื่องรักได้แล้ว
น้องไม้เป็นอย่างไรบ้างพอเห็นแม่มีแฟนเป็นพี่บี จำได้ไหม ?
ไม้ : ผมจำได้เลย ความรู้สึกก็คุ้น ๆ เหมือนเดิมเลย เขาก็เคยดูแลเราตั้งแต่เด็ก ๆ กลับมาตอนแรกก็เกร็ง ๆ นิดหนึ่ง เหมือนเคยทะเลาะกับคุณแม่ไปช่วงหนึ่ง แต่เห็นคุณแม่มีความสุขก็โอเค
พี่นุ่นกับพี่บีหลังจากที่เจอกันวันนั้นตัดสินใจนานไหมที่จะคบกันอีกรอบ ?
นุ่น : มันแทบจะไม่ต้องคิดอะไร อย่างที่บอกว่าการกอดวันนั้นมันบอกหลายความรู้สึกมาก ว่าจริง ๆ แล้วเรารักเขา แล้วเขาก็รักเรา
จากวันนั้นถึงวันนี้นานเท่าไรแล้ว ?
นุ่น : หน่วยเป็นเดือน แต่ถ้าถามว่าเราเจอกันแล้วรู้สึกดีต่อกัน เป็นกัลยาณมิตรตั้งแต่เมื่อไร คือ 23 ปี มันคงไม่ต้องอธิบายเป็นคำพูด
เห็นคุณแม่มีความสุขแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
ไม้ : ดีครับ เพราะที่ผ่านมาเห็นคุณแม่เครียด ๆ น้าบีก็เข้ามาผ่อนความเครียดคุณแม่ลง
กับน้องๆ จูนติดได้เลยไหม ?
บี : ตอนแรกประหม่านิดหนึ่ง เพราะเขาโต ภาพสุดท้ายเราเขาตัวเล็ก ๆ แต่สิ่งที่น่ารักของเขาก็คือแค่เขาเรียกว่าน้าบี เราก็แฮปปี้มาก ๆ แล้ว ตอนแรกก็ถามพี่นุ่นว่า ถามลูกให้หน่อยว่าเขาโอเคไหม
นุ่น : เขาจะกังวลมาก เขาจะบอกว่าคุยเถอะ เราบอกว่าไม่ต้องคุยหรอก เพราะถ้าพี่บอกว่าเรากอดแล้วเราอ่านได้ ลูกพี่กอดแล้วอ่านได้เหมือนกัน เขาก็บอกให้คุยเพราะเขาไม่มั่นใจ เพราะเขาหายไปนานมาก
น้องไม้มีอะไรจะบอกพี่บีกับคุณแม่ไหม ?
ไม้ : ก็ขอบคุณมากครับที่น้าบีกลับมาหาคุณแม่ ขอให้คุณแม่ไม่เครียด