ดาว มยุรี อโหสิให้ผู้ชายทุกคน ผัวเก่า - ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง

"คนเดียวค่ะ เป็นผู้หญิง"

"เริ่มคบตั้งแต่ดาวยังไม่ได้เป็นนักร้องดัง ตั้งแต่อยู่คาเฟ่ เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวเหมือนกัน เริ่มจากไม่มีอะไรเหมือนกัน ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นคู่ชีวิตเราได้ อยู่กัน 26 ปีเลยนะ"

"ไปร้องเพลงในงานแต่งเขาด้วยนะคะ สตอรี่เรากับเขามันเยอะ ตอนนั้นเริ่มๆ เป็นดาวมยุรี แต่ก่อนหน้านั้นเจอเยอะ เขาคบเรา เขาบอกว่าเขาซื้อบ้าน เราก็อยากไปเห็นบ้านเขา เราไปเจอผู้หญิงคนแรกของเขาอยู่ในบ้าน นี่คือครั้งแรก คบกับเราไปๆ มาๆ เราไปบ้านพ่อแม่เขา รู้จักทุกคน พอเขาบอกว่าเขาซื้อบ้านใหม่ เราก็ขอไปเที่ยวบ้าน เขาก็ให้ไปนะ ก็มีผู้หญิงคนนึงเดินลงมาจากบ้าน เขาบอกว่าเขาเป็นเมีย"

"ไม่ค่ะ ดิฉันก็บอกว่าดิฉันก็เมียเหมือนกันค่ะ เพิ่งจดทะเบียนมาวันนี้ (หัวเราะ) ก็เล่นแบบนี้เลย แต่ตอนนั้นไม่ได้จดทะเบียน ตอนนั้นเราไม่ได้มีใจอะไรกับพ่อของลูกมาก"

 

"คบกันอยู่กินกันมาแต่ไม่ได้แต่งอะไร เรายังไม่มีชื่อเสียง รับร้องคาเฟ่ ยังไม่ได้จริงจังอัดเสียง แต่ตอนที่เราจะออกอัลบั้ม เขามาถามเราว่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ไหนสวย เขาบอกว่าลูกค้าจะแต่งงาน เราก็แนะนำไปเพราะเราเป็นเด็ก อยู่มาวันนึงพี่คนนึงมาที่เราร้องเพลง พี่หมูก็บอกเราว่ามีคนอยากได้นักร้องไปร้องเพลงงานแต่ง เขาบอกว่าเป็นงานแต่งลูกชายนี่ๆ เราหูผึ่ง ทำไมบริษัทเดียวกับคนของเรา พอเราถามชื่อหูผึ่งใหญ่เลย เราก็ใจเต้น เราก็นั่งตั้งสติ พยายามไม่ร้องไห้ ไม่แสดงอาการให้ใครเห็น"

"วิ่งเข้าห้องน้ำ ไปช็อกร้องไห้โฮ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยขอเราแต่งงาน เราก็นั่งโต๊ะ เขารับแขก แต่เขามาประกบเรา กลัวเราอาละวาดในงาน เข้ามาถามว่าเป็นไง สบายดีมั้ย แต่ตอบแบบไม่มองหน้าเลยนะ ไม่เป็นมิตรกับยูแล้ว เราขอกินบรั่นดีสองกรึ๊บ ร้องเพลงฆ่าฉันให้ตายเสียยังดีกว่า(หัวเราะ) แล้วเธอจะมาเหนี่ยวรั้งทำไมอีกเหรอ มีแต่เพลงช้ำๆ ซึ่งไม่ควรอยู่ในงานแต่ง"

 

"เรารักมาก และวันรุ่งขึ้นเขาก็มาหาเรา พอตีสี่ตีห้าเขามาหาเรา กอดกันร้องไห้ เขาบอกว่าเขาจำเป็น เราก็เชื่อเขาอยู่ประมาณปีกว่า เราเป็นเด็กเรารัก เราก็เชื่อ คบกันจนผ่านไปสองปี ออกอัลบั้มมีเมีย ก็มาเจออีกเหตุการณ์หนึ่ง"

 

"อดีตค่ะ เป็นนักร้องในวงการลูกทุ่ง คบไม่เกิน 2 ปีค่ะ"

 

"ด้วยความที่เขามีคนใหม่ที่พร้อมให้เขาทุกอย่าง ทั้งเรื่องฐานะเงินทอง"

"เจอ ยังทำงานร่วมกัน แต่ก่อนที่จะทำงานร่วมกันได้ อโหสิได้ ก็ใช้เวลาสองปีกว่า เพราะเจอสตอรี่ที่เขาทำเราเยอะเหมือนกัน เขาทำร้ายด้านจิตใจ เราเป็นคนที่เวลารักใคร จะทุ่มให้ทั้งใจ ไม่ระวังตัวเอง"

"20 ปี  ตอนนี้โอเคแล้ว ยังเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง มีอะไรยังคุยกันได้อยู่"

"ก็จริงนะ แต่ก่อนหน้านั้นเคยคิดจะคบเป็นแฟน แต่เราคุยกันแล้ว คบเป็นเพื่อนน่าจะดีกว่า"

"ค่ะ เคยลองที่จะคบกันเหมือนเป็นแฟน แต่คุยกันแล้ว คบกันแล้ว มันเหมาะกับการเป็นเพื่อน ก่อนหน้านั้นเราอยู่บริษัทเดียวกันไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่ เดินผ่านก็รู้ว่าเขาเป็นแฟนของใคร มาสนิทกันช่วงหลังๆ อายุเราเท่ากันด้วย เป็นผู้ใหญ่ คุยกันรู้เรื่อง"

"ทัชเขาเป็นคนของทุกคน เฟรนด์ลี่ นางจะเป็นคนที่ไปไหนก็โอเค นี่เพื่อน นี่แฟนคลับ ไม่มีช่องว่างสำหรับเราสองคน เราก็เลยบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า สถานะเป็นเพื่อนกันเอะ ดีกว่า ก็คบกันปีนึงหรือเปล่า แต่ช่วงปีก็ไม่ได้คบกันเป็นแฟนนะ เหมือนเพื่อนมากกว่า ไม่ปีไปไหนกันสอง นอกจากขับรถไปตีแบดกันเท่านั้น"

"เราไม่ได้ถึงขั้นนั้นไง เราเลยไม่รู้ (หัวเราะ) ก็เพื่อนจริงๆ คุยกันได้ทุกเรื่อง"

"เป็นคนแคนาดาค่ะ ตอนนั้นสถานะคือเพื่อนนะคะ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกันว่าอยากให้คบคนนี้ ตอนนั้นเราไม่มีใคร ก็คุยดู แต่เราไม่เก่งภาษาเลย นัดแล้วนัดเล่า เราว่างเขาไม่ว่าง หลายครั้งมาก อยู่ๆ พี่เขาบอกว่าจะพาไปเยี่ยมโทนี่ โทนี่อยู่ห้องไอซียูรพ.คามิลเลียน เขาตกตึก 6 ชั้นแต่เขารอดเพราะมีกอไผ่รับและอยู่ใกล้รพ. เราก็ตกใจ มาเยี่ยมเขา เจอครั้งแรกห้องไอซียู เขาก็งงว่าเราคือใคร คุยเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง เราก็สงสาร"

"น้อยกว่า เขาประมาณ 33-34 เราก็ 40 กว่า"

 

"ก็เป็นเพื่อนสนิทอยู่ ก็ดูแลเขาอยู่ 3-4 เดือนเขาก็บินกลับแคนาดา เคยถามเขาก่อนบินกลับว่าคิดยังไง เขาก็บอกว่าเป็นเพื่อน เราก็โอเค เพื่อนคือเพื่อน เขาก็ไลน์มาบ้าง บางทีวิดีโอคอลมาทักทาย เขาบอกว่าเขาสุขภาพดีแล้ว"

"เราดูแลเขาดีมาก เรารู้สึกสงสารผู้ชายคนนี้ ไม่เคยรู้ว่าประเพณีฝรั่ง คำว่าดาร์ลิ่ง ต้องยอมรับว่าเป็นแฟน นี่ไม่รู้เรื่องเลย ก็ไปเรียกเขาว่าดารลิ่ง(หัวเราะ) มีคนบอกว่าไม่ได้นะ ถ้าเรียกแบบนี้เขาต้องยอมรับเราก่อน ฝรั่งถ้ายังไม่คบเขาจะไม่ยอมรับคำนี้"

"เราชอบ เราสงสารเขา ทั้งที่ไม่รู้หรอกว่าชอบเราหรือเปลา ความสงสารมาก่อน แล้วเขาก็กลับมา 3 ปีไม่เคยเจอกันเลย นอกจากวิดีโอคอล เขาบอกว่าเขาทำงานเมืองไทย หวังว่าจะได้เจอกันและได้ทานข้าวกัน"

"มาแล้วค่ะ ได้เจอกันแล้ว เขาเป็นคนละคนเลย เราดีใจเห็นเขาก็กอดเขา"

"ก็ดีกว่าเมื่อก่อน แต่ก็ไม่รู้ ยังเป็นเพื่อนอยู่"

"25 ปี เราก็ยังไม่เชื่อมั่นว่าคุณมาคบเราเพราะอะไร จะสะเทือนเขามั้ย เขากำลังมีอนาคตที่ดี ตอนนั้นเราก็รู้สึกน้องเขานิสัยดี เทคแคร์ดี ไม่ได้แลกไลน์กัน ก็ไม่คิดว่าจะกลับมาคุยกับเด็ก ๆ เราลงรูปคู่กับเขาในเฟซ มีคนมาขอแท็ก ชื่อนี้ ผ่านไปวันสองวัน เขาก็ทักมาในอินบ็อกข้อความเฟซ ทักมาก็ทักไป และส่งรูปให้เขา"

"เขาบอกว่าเขานี่ๆ นะ เราโสดมั้ย สเปกเป็นยังไง อยู่กับใคร คือถามเยอะจนไปไม่ถูกเหมือนกัน"

 

"คุยค่ะ ยังไม่จริงจัง เริ่มๆ ให้กำลังใจกันมากกว่า"

"คุยได้ค่ะ"

 

"ยังๆ แค่เริ่มๆ จบรายการนี้อาจไปทานข้าวก็ได้ (หัวเราะ)"

"แล้วแต่เขาจะคิดค่ะ เรามีความสุขแล้ว คนนี้เข้ามาคุย คนนั้นเข้ามาคุยคนนั้นให้ความสำคัญ ใครจะว่าเรามโนก็เรื่องของเขา เราโดนมาหมดแล้ว เขาพูดอยู่แล้ว แต่จะดีจะชั่วเรารู้ตัวเองค่ะ สถานะการคุยคนนี้แค่ไหน คนนั้นแค่ไหน เราไม่ได้ทำตัวเองให้เสียหาย"