แคทรียา อิงลิช โต้ เสี่ยท็อป อย่ามโน ลั่น! ไม่ได้เป็นเมียหลวง หรือเมียน้อยใคร
เคยมีให้ผู้ใหญ่มาขอ?
"มาขอถึงบ้านเลยค่ะ ไม่เคยเจอด้วย ตอนเขาพาคุณพ่อมา มีแม่บ้านอยู่ที่บ้าน คุณพ่อเขาถามว่าคุณแคทรู้จักลูกชายผมมั้ย ก็บอกว่าไม่รู้จัก ไม่เคยเจอ เขาบอกว่าเนี่ย บอกจะแต่งงานกับคุณแคท สรุปคุณพ่อก็ด่าลูก แล้วกลับบ้านเลย แบบนี้ก็มี บางคนก็เหมือนทำเป็นรู้จักเราดี แต่ไม่ได้รู้จัก น้อยคนมากที่จะได้ใกล้ชิดแคท รู้จักแคทจริงๆ บางคนจะแบล็กเมล์แคท ก็ตามสบาย เพราะไม่ได้รู้จักจริงๆ"
เอาสินสอดมาวางเลยมั้ย ที่บอกว่ามาขอแต่งงาน?
"เขาบอกว่าเขาไปวัด ไปดูฤกษ์จะแต่งงานกันวันไหน เราเจอกันที่วัดนี้ จังหวัดนี้ เวลานี้ เราก็งง โน ก็แปลกๆ สีสันของชีวิต"
มีผู้หญิงมาจีบด้วย ไม่ใช่สาวหล่อนะ มีลูกมีผัวมีครอบครัวมาจีบคุณแคท?
"ไม่ใช่คนเดียวด้วยนะ มีสองสามคน ก็งงๆ เหมือนกัน ยิ่งขึ่ฮาเล่ย์ปุ๊บก็ยิ่งเข้ามาถามว่าเคยคบผู้หญิงมั้ย เราก็บอกว่าไม่เค ไม่ใช่แนว"
ไม่เปิดใจหน่อยเหรอ?
"หื้อออ ไม่ใช่แนว ณ ปัจจุบันยังค่ะ อนาคตไม่แน่ ว้าย (หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ อยู่ของแคทแบบนี้แหละค่ะ"
กรณีเสี่ยท็อปเนี่ย เราอยากบอกประชาชนยังไง ?
"ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยเห็นหน้า อย่างที่บอกแคทก็ตามข่าวสงสารผู้หญิงที่โดนหลอก ถามว่าในสังคมเรา ไม่ใช่แค่เมืองไทย ในต่างประเทศก็มี คนประเภทนี้มีเยอะ หญิงชายต้องระวังตัวอย่าเชื่อใจคนง่ายๆ ต้องดูคนนานๆ ต้องถามที่มาที่ไปเขา ต้องศึกษาให้ดีก่อน"
ในชีวิตเคยโดนผู้ชายหลอกมั้ย?
"ไม่ ยิ่งทำเป็นโอ้อวดจะไม่ชอบเลย มีเข้ามาแต่ไม่ชอบ ยิ่งอวดยิ่งไม่ชอบเลย ถอยไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับฉน ชีวิตเราเจอคนประเภทนี้เยอะแล้วในสังคม ไม่ได้รู้จักแล้วแบบโอ้ ว้าว อลังการ เรารู้สึกแล้วไง ฉันก็เลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เงินทองให้พ่อแม่ ส่งตัวเองกับน้องเรียนจนจบ แคทไม่ได้ขอใครให้มาเลี้ยง ยิ่งมาอวดขับรถหรู ตังค์เยอะ ยิ่งรู้สึกแล้วไง ถ้าจิตใจคุณไม่ดีงาม"
คุณไม่เคยเจอไฮโซมาจีบเหรอ?
"มีบ้างแต่นานแล้ว แคทเป็นคนโลกส่นตัวสูงด้วย เป็นคนกำแพงสูงพอสควร ไม่ให้ใครเข้ามาง่ายๆ บอกเลยว่ายากมาก มันเจอมาตลอดชีวิต อยู่ในสังคมแบบนี้ตั้งแต่ 13 เจอคนเยอะมาก หลากหลายแนวมาก ทำให้เราทันคนด้วย อาจคุณแม่ด้วยที่คอยกลั่นกรอง ช่วยดู จนเราก็ไม่อยากบอกว่าเราฉลาดเอง แต่เราทัน ใครเข้ามาเราระวังตัว เซฟตัวเองมากๆ จะมายังไง แคทจะคิดในใจว่าจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นคนดีจริงๆ ก็เลยยังไม่มีคู่ไงคะ คือระวังตัว เราเจ็บมาเยอะพอสมควร มันเป็นการเรียนรู้ ทำให้ฉลาดมากขึ้น รู้อะไรมากขึ้น"
"มาก ทุ่มมากเจ็บมาก "
ล่าสุดบอกว่าคุณตกอับต้องไปหาซีนหาข่าวให้ตัวเองในงานแต่งคนอื่นที่คุณไม่ได้สนิทกัน?
"งงมาก ปกติแคทเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบไปที่ที่มีคนเยอะ งานแต่งงานแทบจะไม่ไปเลยค่ะ"
ล่าสุดคุณไปงานแต่งแมน-ใบเตย คนบอกสนิทกันได้ยังไง ไม่เคยเห็นมีรูปกับบ่าวสาว?
"ไม่เกี่ยวเลย กับแมนก็มีบ่อย เราอยู่ชมรมเดียวกัน ชมรมฮาเล่ย์ เวลาเจอแมน ก็เจอเตยมาด้วย จะมีร้านเป็นของชมรม เป็นคลับของชมรม บางทีเตยก็จะมาเวลาเขาว่างไม่ไปเล่นคอนเสิร์ต เขาก็จะมาทานข้าว ตอนแรกคิดในใจว่าไม่อยากไป เพราะอย่างที่บอกไม่ชอบอยู่กับคนเยอะแมนอยู่กองเดียวกัน เล่นสามีสีทองด้วยกัน เตยก็มาที่กองถ่ายเอาการ์ดมาให้เอง ก็เลยว้าย ไปก็ได้ ตอนแรกบอกแมนขี้เกียจแต่งตัว จะยังไงดี พี่ขี่ฮาเล่ย์ใส่ชุดนี้เขางานเลยได้มั้ย คืออย่างที่บอกไม่ค่อยไปงานแต่งงาน ชุดที่ได้ก็ตอนเที่ยงวันนั้นและไปงานเย็นวันนั้นเลย ตอนแรกคิดว่าจะหาชุดไม่ได้ แต่คิดในใจเขาเอาการ์ดมาให้ถึงกองถ่าย ก็ไปให้น้องแล้วกัน น้องก็น่ารัก รู้จักแมนมา 3-4 ปีแล้วไม่ได้เพิ่งรู้จัก ค่ายก็ไม่เกี่ยวกันเลย เป็นเพื่อนกันได้หมด มันไร้สาระ"
หงุดหงิดมั้ย?
"รู้สึกเบื่อ แคทไม่ชอบถ่ายรูป พวกโซเชียล ไอจี เฟซก็ไม่ได้เล่น ไอจีกว่าจะลง ถ่ายรูปเดือนที่แล้วยังไม่ได้ลง เป็นคนไม่ค่อยโซเขียล แต่ด้วยหน้าที่การงานบางทีก็ต้องลง วันนั้นกว่าจะได้เจอเจ้าบ่าวเจ้าสาว เจอตรงแบ็กดร็อป พอถ่ายรูปเสร็จก็ไม่รบกวนแล้ว เพราะเขาต้องรับแขกเยอะ มีเพื่อนดาราไปเยอะมาก คนไปกันเต็มเลย เราก็เห็นแล้วแหละว่าคนอื่นถ่ายรูปกับเพื่อนดาราศิลปินด้วยกัน แต่แคทไม่มี เป็นคนไม่ชอบขอถ่ายรูปใคร นอกจากน้องหอมนาน (เจณิส-เจณิสตา พรหมผดุงชีพ เล่นละครเรื่องสามีสีทองด้วยกัน) คนขำใหญ่ว่าเมียน้อยเมียหลวงมาเจอกันในงาน เจอนัท มีเรีย เจอหลายคน แต่ไม่ได้ถ่ายรูป ยืนกินข้าวดูงาน"
มีคนว่าคุณงานหดหาย?
"มีละครอยู่ 5 เรื่อง เพราะฉะนั้นมันไม่ได้หาย ถามว่าทำไมรับละครถี่ ชีวิตแคทก็แบบนี้แหละค่ะ จะมีช่วงที่ขึ้นและช่วงที่ลง ช่วงที่ลงคือช่วงที่เราได้พัก พอเราได้พักเราก็โอเค พร้อมกลับมาทำงาน พอทำงานอยู่ดีๆ เข้ามาเยอะมาก ละครสามีสีทองก็จบแล้ว กำลังจะอวสานอาทิตย์หน้า เปิดกล้องเรื่องใหม่อาทิตย์หน้า พ.ย. อีกเรื่องนึง ม.ค. อีกเรื่องนึง ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงขาลงของแคทหรอก ขาขึ้นด้วย อยู่ดีๆ งานเข้ามาพร้อมกันหมดเลย งานอีเวนต์ งานจ้าง เยอะเลย ต้องแชร์เวลากับละคร"
"ไม่เป็นเมียหลวงค่ะ จะเป็นเมียคนเดียว เราไม่ยอมค่ะ เขาต้องให้เกียรติเราเหมือนกัน ต้องมีเราคนเดียวถ้าจับได้ก็จบเลย เลิกเลย จะไม่ทะเลาะด้วย จบ ไม่มีการไปตบตีเมียน้อย เปลืองพลัง ไปเพื่อ! อาจด้วยความที่เราผ่านอะไรในชีวิตมาเยอะ ทำให้เรานิ่ง จะเป็นคนไม่ชอบโหวกเหวกโวยวายหรือแก้แค้น ไม่ ชีวิตเรามีชีวิตเดียว เราทำของเราให้ดีที่สุด ถ้าไม่ดีพอสำหรับคนนั้น เขายังไปหาที่อื่นอีกก็จบ เราหาคนที่พอใจกับเรา"
ไม่ยอมเป็นเมียหลวงแน่นอน?
"ไม่ เมียน้อยเมียหลวงไม่เอาทั้งสิ้น ผู้ชายมาขอโอกาสก็ไม่เอา ไม่ยอม รู้สึกว่าคุณทำได้ครั้งนึง ฉันให้อภัยคุณ ไม่รู้คุณจะทำอีกหรือเปล่า ฉันต้องเจ็บอีกคร้งนึงเหรอ ไม่เอา"
เมื่อไหร่จะมีแฟน แต่งงาน?
"ไม่รู้ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น"
มองหาอะไรอยู่?
"โยงกบสามีสีทอง เราอยู่ในจุดที่เรามีความสุขที่สุด นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าอยู่กับใครแล้วมีความทุกข์ อย่าอยู่เลย ถ้าแคทอยู่กับใครสักคนแล้วแคทรู้สึกว่าเขาเข้าใจเรา และเขาทำให้เรารู้สึกไว้ใจเขาได้จริงๆ เข้าใจอารมณ์ของเรา ความรู้สึก ความคิดของเรา สามารถจูนกันได้ทุกเรื่อง ไม่สบายใจเรื่องอะไรคุยได้ โอเพ่นซึ่งกันและกัน ถ้าเจอคนแบบนั้นได้ก็จบ และต้องไม่เจ้าชู้นะ"
เจอสามวันแล้วแต่งเป็นไปได้มั้ย?
"ไม่ ต้องศึกษา บางทีรู้จักปีนึง คบปีนึง เขาก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว หรือสองสามเดือนไม่เหมือนเดิม อยากได้คนเสมอต้นเสมอปลาย อยากได้แบบนั้น"
ที่บอกว่าเจ็บมาเยอะคืออกหักเหรอ?
"ใช่ ส่วนใหญ่ผู้ชายจะเปลี่ยน จากที่เขาพูดว่าให้ร้อย แต่พอคบจะลดลงมาเรื่อยๆ แต่ผู้หญิงจากศูนย์ขึ้นไปถึงร้อย แต่ของแคทอย่างที่รู้ เรารักใครเราทุ่ม เสมอต้นเสมอปลาย ดูแลเขาเอาใจใส่ทุกอย่าง จนบางครั้งก็รู้สึกเหมือนกันว่าบางทีผู้ชายรู้สึกเราดูแลเยอะเกินไปกลายเป็นน่ารำคาญ เขาก็เริ่มถอย เริ่มห่างออกไป จริงๆ ความเปลี่ยนแปลงของเขาจะทำให้เรารู้สึกนอยด์ว่าเมื่อก่อนโทรหาเรา ดูแลเราอยู่ดีๆ ใส่ใจเราอยู่เรื่อยๆ แล้วอยู่ดีๆสิ่งที่เคยให้มา ค่อยๆ ลดลงไปเรื่ยๆ เราไม่ได้เยอะ เราแค่อยากได้สิ่งที่คุณเคยให้ ซึ่งมันไม่เหมือนเดิมแล้ว ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเอ๊ะ เขามีคนอื่น มีเอ๊ะหลายๆ เรื่อง เราทำอะไรผิด หรือรักเราน้อยลง ก็ทำให้เรามีคำถามเยอะ เราเป็นคนที่อยากชัดเจน อยากเคลียร์ ที่ถามไม่ได้หาเรื่อง อยากรู้ว่าเพราะอะไร พออธิบายก็โอเค จบ รู้เรื่อง แต่พอมีความไม่เสมอต้นไม่เสมอปลาย ไม่เหมือนเดิม นิสัยเริ่มเปลี่ยน อารมณ์เริ่มเปลี่ยนเลยทำให้เรารู้สึกว่าเราอยู่คนเดียวดีกว่ามั้ย มีความสุขมากกว่ามั้ย"
จะฝากไข่กับเขาบ้างมั้ย?
"ไม่ได้คิดนะ แต่แม่เคยพูดว่าไม่ฝากไข่บ้างเหรอลูก เผื่อ ก็เออเนอะ น่าจะ แต่ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้เลย ต้องดู ต้องศึกษาว่าต้องทำยังไง มีเกณฑ์อายุหรือเปล่าว่าเท่าไหร่ถึงจะทำได้ เดี๋ยวก็ค่อยว่ากัน"
คุณผ่านโรคซึมเศร้ามากี่ปีแล้ว?
"ถามว่าหายมั้ยก็ไม่หาย มีกลับมาบ้าง ไม่ใช่กินยาแล้วหาย เป็นอารมณ์ที่เพอเราเฟลหลายๆ อย่าง เราดาวน์หลายๆ อย่าง มนดร็อปมากกว่าคนปกติ"
คิดฆ่าตายหรือเปล่า?
"เคยคิดแว๊บนึง แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีความรู้สึกว่าแค่คิดก็ผิดแล้ว เรามีแม่ มีน้อง มีภาระ เราก็สู้อะไรมาเยอะ เราเจออะไรมาเยอะ ทุกคนคิดว่แคทคุณหนู ทุกอย่างดี แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ คนเข้าใจอะไรผิดเยอ อาจด้วยรูปต่างๆ ที่เราลง เป็นภาพภายนอกที่คนได้เห็นเท่านั้น อย่างที่บอกน้อยคนที่จะได้รู้จักตัวตนแคทจริงๆ ที่แคทออกมายอมรับเรื่องโรคซึมเศร้าเพราะสมัยนี้ ด้วยสังคม สิ่งแวดล้อม ทำให้คนอารมณ์ลงเยอะมาก เรื่องข่าวเราเสพเราไม่รู้ตัว มันดึงจิตเราลงไปเยอะมาก ตอนนั้นแคทเล่นละคร แคทลงไปกับมันเยอะมาก อินมากซะจนกลับบ้านกรี๊ดร้องไห้ เอาหัวโขกเตียง ทำอะไรไม่ถูก มันปล่อยอารมณ์ออกมาไม่ได้ซะที เหมือนทำร้ายตัวเอง แต่ไม่ถึงกับเอามีดมา ไม่ขนาดนั้น เหมือนมันอึดอัดยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก เอาหัวโขกเตียงเลย ไม่รู้จะปลดปล่อยอารมณ์ยังไง จนไปหาจิตแพทย์ มันไม่ใช่โรคบ้า อย่าเข้าใจผิด มันเป็นโรคที่อันตรายมาก บางคนไม่รู้ตัวด้วยว่าเป็น คนที่รู้ตัวก็อาจรักษาไม่ถูก"
คนรอบข้างมองว่าเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ?
"ไม่ใช่ค่ะ อาจมีส่วนอยากให้สนใจช่วยฉันด้วย หาวิธีไหนก็ได้ช่วยฉันหน่อย เหมือนเราจมน้ำ เราต้องการห่วงยาง เชือกหรือให้ใครยื่นมือมาช่วยหน่อย ต้องการแค่นั้น"
ต้องหาหมออยู่มั้ย?
"เกือบๆ อยู่เหมือนกัน"
อีกเรื่องบทน่ากลัวมาก ไม่กลัวเหรอ?
"ยอมรับว่ากลัว เพิ่งได้อ่านทจริงๆ เมื่อสองสามวันที่แล้ว พออ่านแล้วแบบ เอาแล้ว ฉนต้องไปหาหมอแน่ๆ เลย แค่อ่านก็ต้องวาง เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่าน มันเครียด ไมเกรน อึดอัดเลย ก็เลยคิดว่าฉันรับนี่มันถูกหรือเปล่า ก็เอาเป็นว่าเราปลดปล่อยกับคาแรคเตอร์นี้แล้วกัน ถ้าไม่ได้ก็กลับไปหาหมอ มันอยู่ที่จิตใจของเราจรงๆ ที่แคทดีขึ้นเป็นเพราะตัวแคทเองด้วย ถ้าเราเข้มแข็งพอ ดึงจิตดึงสติกลับมาด้วยตัวเราเองได้ มันยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว บางคนบอกว่าไม่เป็นไรนะ ทำใจสบาย ๆ คำพวกนี้จริงๆ ไม่ได้ช่วย แค่นั่งข้างๆ อยู่เงียบๆ ให้รู้ว่ามีคนนั่งอยู่ข้างๆ จับมือ ก็โอเคแล้ว สังคมเราต้องศึกษาเรื่องโรคนี้จริงๆ จะได้รับมือได้ โรคนี้เข้าใจยากนะ บางทีก็เสียใจ เสียดายกับชีวิตคนบางคนที่เห็นข่าวว่าฆ่าตัวตาย รู้สึกอยากยื่นมือไปช่วยเขาจังเลย คิดทำแบบนี้กับตัวเองทำไม เพราะเราเคยดิ่งลงไปจุดนั้น แต่ไม่ถึงขนาดต้องลาโลก มันไม่ได้ มันถึงจุดนั้นไม่ได้ เพราะเรามีน้องชาย มีคุณแม่ คุณพ่อเสียชีวิตเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราต้องดูแลคนรอบข้างเราอีกหลายคน"
คนรอบข้างช่วยดูแลเรายังไง?
"เขาก็เป็นห่วง เพื่อนๆ 2002 ราตรีก็ถามว่าโอเคมั้ย นัดทานข้าวกัน คนเป็นโรคซึมเศร้าอยากอยู่คนเดียว โลกส่วนตัวสูง ไม่อยากออกไปปาร์ตี้ ไม่อยากสุงสิงกับใคร ไม่อยากเฮฮากับใคร จริงๆ แล้วควรออกไปเจอเพื่อน ห้ามอยู่คนเดียว ไม่ต้องปาร์ตี้ตลอด แค่ออกมานั่งกินข้าว จิบกาแฟ น้ำชา ได้ออกมาจากห้อง จากบ้าน เพื่อที่จะเปลี่ยนบรรยากาส ถ้าอยู่ในห้องอย่างเดียวจะยิ่งดร็อป จะยิ่งดาวน์ คิดฟุ้งซ่าน เราไปอ่านหนังสือในสวน ออกกำลังกายก็ได้ แค่วิ่งก็ยังรู้สึกว่าได้ปล่อย เหงื่อออกปุ๊บรู้สึกดีขึ้น เบาขึ้น อยากให้กำลังใจทุกคนที่อยู่ในภาวะนี้ ขอให้แข็งแกร่ง เข้มแข้ง อยู่ที่จิตใจเราคนเดียว ดึงมันออกมาให้ได้ มันยากมาก 10 ปีกว่าได้มั้งกว่าแคทจะกล้าพูดเรื่องนี้"
v