
เปิดใจ “ถั่วแระ เชิญยิ้ม” เผยเหตุแยกกันอยู่กับภรรยา กว่า 3ปี รับทำใจลูกสาวไม่คิดกลับไทย

พักหลัง ๆ มานี้แฟน ๆ ไม่ค่อยได้เห็นผลงานของตลกชื่อดังอย่าง ถั่วแระ เชิญยิ้ม สักเท่าไร ซึ่งก็มีข่าวเมาท์ออกมาว่า ถั่วแระหมดไฟ เบื่อวงการแล้ว ล่าสุด ถั่วแระ เชิญยิ้ม ได้ควงภรรยา คุณตุ่น มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 พร้อมเคลียร์ข่าวเมาท์แยกกันอยู่กับภรรยา
ช่วงนี้ห่างหายไปไหน ?
ถั่วแระ : อยู่บ้านครับ
งานในวงการบันเทิง ?
ถั่วแระ : งานในวงการก็มันอยู่ที่ผู้จัดนะครับ ความจริงแล้วใจเรายังสู้อยู่นะครับ ไม่ใช่ว่าเราหนีหายไปไหน เพียงแต่ว่าด้วยระบบเศรษฐกิจ ด้วยเรื่องราวการแสดง ไม่ว่าจะเป็นหนัง ละคร หรืออะไรอาจจะเอาวัยรุ่น แล้วเราก็อายุมากขึ้น
คิดว่าน้าถั่วรวยแล้วก็เลยไม่รับงาน ?
ถั่วแระ : หูย...ใครจะมารวยช่วงวิกฤตแบบนี้ ไม่มีใครรวยหรอกครับ
พูดถึงงานในวงการ น้าถั่วห่างหายไปนานยัง ?
ถั่วแระ : นานมาก น่าจะ 3 ปีได้ หลังจากที่เฮง เฮง เฮง จบปุ๊บ ละคร หนัง ก็เริ่มห่างออก ๆ
รายได้หลักของน้าถั่วตอนนี้มาจากไหน ?
ถั่วแระ : ก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวบ้าง แล้วก็ฟรีแลนซ์บ้างอะไรบ้าง ก็พอจะจุนเจือตัวเราได้

แต่มันมีข่าวออกมาว่าน้าถั่วไม่มีใจ ไม่มีไฟแล้วในการทำงาน ?
ถั่วแระ : ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ คือเอาอะไรมาเกษียณกับมนุษย์ที่ไม่ใช่เงินเดือน มนุษย์ไม่มีเงินเดือนเนี่ยมันไม่มีคำว่าเกษียณหรอกครับ ยังไงเราก็ต้องสู้ ทำงานให้ได้ เพราะฉะนั้นไม่ได้ท้อ ไม่ได้ถอยไปไหน แล้วบอกไว้ก่อน เมื่อไหร่ที่จ้าง เมื่อไรที่ต้องการ ถั่วแระไปได้ ไปทุกงาน ไม่ได้เลือกงานครับ เป็นตัวอะไรก็ได้ ไปครับ ขอให้จ้างเถอะครับ
แสดงว่าพร้อมเสมอกับการทำงานในวงการ ?
ถั่วแระ : พร้อมครับ
ถ้าคนนอกมองคือร้านก๋วยเตี๋ยวก็ขายดิบขายดี ?
ถั่วแระ : อาจจะด้วยระบบแบบนี้ เป็นนายกสมาคมศิลปินตลก มีฐานะการงาน เป็นจิตอาสา แล้วก็มีธุรกิจส่วนตัวอะไรประมาณนี้ ความจริงมันต้องแยกกันนะ ต้องแยกเป็นส่วน ๆ ว่าตัวผมทำอะไร รับงานได้ไหม ไม่ใช่เหมารวมว่ารวยแล้ว งานเยอะอยู่แล้ว ไม่ใช่ครับ

มีบางคนส่งมาถามหรือว่าติดปาร์ตี้ ?
ถั่วแระ : ปาร์ตี้อะไร ไม่ค่อยมีงานรื่นเริง มีแต่งานจิตอาสาโดยตลอดเลย เป็นคนที่มีใจจิตอาสานะ ช่วงนี้ก็ยังทำอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ก็รับเป็นนายกสมาคมเชียร์ไทย โดยเจ้าคุณอลงกตมอบตำแหน่งให้เป็นนายก แล้วยังมีเรื่องราวของจิตอาสาอีกเยอะมากที่จะต้องทำ
แล้วความสัมพันธ์ของน้าตุ่นกับน้าถั่วเป็นยังไงบ้าง ?
น้าตุ่น : แยกบ้านกันอยู่ ถ้าเราอยู่ด้วยกันมันต้องมีปัญหาแน่ ๆ เลย เพราะว่าเขาจะกลับไม่เป็นเวลา ถ้าเกิดอยู่บ้านเดียวกันก็จะมีคำถามว่า ไปไหน ทำไมเพิ่งกลับ
แล้วใครเริ่มก่อน วันหนึ่งฉันอยากจะแยกบ้านอยู่ ใครเป็นคนเริ่มประโยคก่อน ?
น้าตุ่น : เขา เพราะว่าเรามีบ้านอยู่ด้วยกันใช่ไหม ทีนี้บ้านตรงข้ามจะขายเราก็เลยซื้อเพื่อที่จะให้ลูกเราอยู่ พอสร้างเสร็จ ซ่อมเสร็จไม่มีใครอยู่ ก็หาโอกาสจากขยับไปอยู่ห้องลูกสาวในบ้านหลังเดียวกันกับเรา ไม่ถึง 5-7 วัน ขยับไปเรื่อย ๆ ก็ไปอยู่บ้านหลังนู้นเลย
ทำไมน้าถั่วตัดสินใจพูด ก็รู้อยู่ว่าสามี-ภรรยา เวลาอยู่ด้วยกัน ถ้าหนึ่งวันไม่คุยกัน สองวันไม่คุยกัน สามวันไปย้ายห้องนอน สี่วันย้ายบ้านแล้ว ?
น้าถั่ว : เป็นพี่ พี่จะย้ายไหม หลานเต็มบ้าน
น้าตุ่น : คือมันจะเป็นเด็กที่เราอุปการะ คือลูกของพนักงาน เราต้องเลี้ยงลูกพนักงานด้วย
น้าถั่ว : นอนกับเขา แล้วเราควรไปนอนด้วยไหม คือสรุปอย่างนี้ดีกว่าเดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ความจริงเราไม่ได้เตียงหัก เราไม่ได้อะไรกันเลย เราสามารถที่จะปกครองครอบครัวของเราได้อย่างดีที่สุด

น้าถั่ว : ไม่เกี่ยวหรอกครับ ด้วยวัยมากกว่า พอใกล้แล้วบอกว่าเป็นตะคริว แต่เราก็ห่างกันไม่ได้ เราเคยสัญญาและสาบานกันว่าจะจับมือกันแน่น ๆ ไปนาน ๆ เรายังอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่เราจะอยู่ในผ้าห่มผืนนั้นตลอด แล้วเราจะจับมือกันเดินไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะมีอะไรกันก็แล้วแต่ นี่คือคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ เพราะฉะนั้นผมจะโกรธหรือเตียงหักได้ยังไง มันไม่มีอะไร เพียงแต่ว่า
ต่างคนต่างทำมาหากิน
น้าตุ่น : ไม่อยากจะใกล้กันแล้ว
คบกันมา 40 ปี น้าถั่วมีนอกลู่นอกทางบ้างไหม ?
น้าถั่ว : ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่มีแผลกลางหลังหรอกครับ มันเป็นลิ้นกับฟัน บางทีเราเป็นนักแสดง บางทีทั้งคนดู นักร้อง นักแสดง บางทีมันก็เกินเลยก็มีบ้าง เขาก็ไม่เคยจะบ่นอะไรทั้งนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าผมผิดอะไร แต่มันก็ไม่แน่นอนหรอกครับ
เราใช้คำนี้ได้ไหม เราแยกกันอยู่เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ?
น้าตุ่น : ใช่
น้าถั่ว : ตั้งแต่รัก แต่งงานกันมา 40 กว่าปี ไม่เคยตบ ไม่เคยตี ไม่เคยดุ ไม่เคยด่า

ลูกที่เรียนอยู่อเมริกาเป็นยังไงบ้าง ?
น้าถั่ว : ก็เรียนจบแล้ว ตอนนี้กำลังหางานทำอยู่ ยังไม่กลับมา
เห็นน้าถั่วบอกว่าลูกสาวปล่อยให้ทำอะไรเองตั้งแต่เล็ก ๆ ?
น้าถั่ว : ใช่ ให้เขาช่วยเหลือดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะอาบน้ำ กินข้าว ใส่ถุงเท้า รองเท้า ให้เขาแยกห้องตั้งแต่อนุบาล
แยกห้องตั้งแต่อนุบาล พ่อแม่ทำใจได้เหรอ ?
น้าถั่ว : มันต้องทำ ตอนนั้นเราก็เปิดร้านอาหาร ช่วยกันดูแล มันไม่มีเวลา เราก็มุ่งแต่ตลก กว่าจะกลับก็เที่ยงคืน ตี 1
น้าตุ่น : ลูกสาวก็ไปอยู่ต่างประเทศประมาณ 5 ปี ก็ไปเรียน จบโทมา 3 ปีแล้ว พอเขาจบเสร็จก็กลับมาฉลองที่กรุงเทพฯ แล้วก็กลับไปอเมริกาต่อ
ทำไมเขาไม่อยู่ที่นี่ ?
น้าตุ่น : เขาไม่อยากอยู่ เขาอยากค้นหาตัวเองอยู่ที่เมืองนอก

คุณพ่อคุณแม่เสียใจไหม ?
น้าตุ่น : ตอนแรกสัญญากันว่าจะกลับมา แล้วนี่เขาไม่กลับก็ไม่รู้จะพูดยังไง
เห็นว่าช่วงที่ลูกใกล้จะเรียนจบ ช่วงนั้นมีค่าใช้จ่ายด้วย ?
น้าถั่ว : ใช่ครับ
ช่วงนั้นงานในวงการของน้าถั่วก็เริ่มน้อยลงด้วย กระทบไหม ?
น้าถั่ว : ก็โยนให้แม่เขาหมด
น้าตุ่น : ตอนนั้นเราก็บูมเรื่องก๋วยเตี๋ยวก็เลยมีเงินก้อนหนึ่ง เขาก็มาบอกว่าเขาจะไปเรียนเมืองนอก

ถ้าตอนนี้ลูกสาวบอกจะไม่กลับไทยแล้ว น้าถั่วกับน้าตุ่นโอเคไหม ?
น้าตุ่น : ก็ต้องโอเค มันห้ามกันไม่ได้อยู่แล้ว เขาอยากจะไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว
แล้วคุยกันบ่อยไหม ?
น้าตุ่น : ไม่ค่อยบ่อย ใช้โทร. คุย บางทีก็เป็นเดือน บางทีเดือนละครั้ง บางทีสองเดือน บางทีคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องเลิกคุยกัน
น้าถั่ว : ทุกวันนี้เขาก็มาบอกว่าทุกวันจันทร์หนูจะโทร. หาพ่อ เวลาประมาณนี้ พ่อรับสายหนูด้วยนะ เราก็บอกว่าได้เลย มีอะไรก็โทร. มาหาพ่อได้ทุกเวลาไม่ต้องนัดแนะพ่อเลย ถ้าพ่อรู้ว่าหนูโทร. มา เดี๋ยวพ่อก็จะโทร. กลับ



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday