เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เปิดใจทั้งน้ำตา แจงเนรคุณ! มองพ่อเหมือนขอทาน (คลิป)
หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด คลิปดารา คลิปบันเทิงวาไรตี้ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เปิดใจทั้งน้ำตา แจงเนรคุณ! มองพ่อเหมือนขอทาน (คลิป)
ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม สำหรับ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ผู้แต่งเพลงฮิตติดหู อย่าง เลิกคุยทั้งอำเภอ เพื่อเธอคนเดียว ที่ตอนนี้มียอดวิวเกือบ 300 ล้านวิว แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็มีเรื่องที่ต้องปวดหัว เพราะพี่สาวของพ่อออกมาโพสต์แฉในทำนองที่ว่าสาวเจนนี่เนรคุณ
ล่าสุด เจนนี่ และลิลลี่ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
ตอนนี้สภาพจิตใจเราเป็นยังไงบ้าง?
เจนนี่ : ก็ยังแย่อยู่ แต่เมื่อกี้ดูคลิปที่คุณพ่อเพิ่งโพสต์ก็รู้สึกดีขึ้นแต่ก็ยังคงแย่เพราะว่าข่าวมันออกไปแล้ว
เมื่อคืนเห็นว่าร้องไห้ทั้งคืน?
เจนนี่ : ใช่ค่ะ เป็นอะไรที่แย่มาก เพราะว่าขึ้นเวทีแล้วต้องปาดน้ำตาแล้วแบบคนเยอะมากด้วยเมื่อคืนหนูแย่มากแต่ว่าหนูก็ผ่านไปได้ อาจจะไม่ดีเหมือนทุกคืนแต่ก็เต็มที่แล้วค่ะ
หลังจากที่น้องได้เห็นข่าวรู้สึกยังไง?
เจนนี่ : หนูไม่ได้เป็นคนเห็นคนแรก หนูถ่ายงานเสร็จขึ้นรถตู้ ที่ทุกคนมองหนูเหมือนเป็นอะไรกัน แล้วแม่นั่งร้องไห้คนในทีมแดนซ์เซอร์นั่งนิ่งกันหมด หนูก็คิดว่าแม่เจ็บแผล เพราะแม่เพิ่งผ่าตัดมา หนูก็ถามแม่เจ็บแผลหรอ แม่ก็เอามือมาลูบหัวเรา แม่บอกว่า แม่เคยบอกแล้วใช่มั้ย ให้เราถอนตัวมาตั้งแต่แรก แต่เราดื้อ คือเราอยากคุยกับพ่อตลอด ซึ่งแม่เป็นคนเตือนหนูเรื่องนี้ตลอด ไม่ใช่ว่าแม่เขาห้ามนะคะ แต่เขาจะมีเซ้นของเขา เตือนเราตลอดว่า ถอยบ้างก็ดีนะลูก
น้องกับคุณพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน คุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกันถูกไหมค่ะ?
เจนนี่ : ค่ะตั้งแต่หนูยังเล็ก
แล้วคุณแม่ห้ามมาตลอดว่าไม่อยากให้กลับไปคุยกับคุณพ่อ?
เจนนี่ : ใช่ค่ะ คือห้ามตั้งแต่ก่อนจะมีชื่อด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่หนูรักแม่นะคะ แต่หนูมองว่าเขาก็คือพ่อ หนูก็ใช้หลากหลายคำพูด เกลี้ยกล่อมแม่ ว่าหนูอยากตอบแทนพระคุณ หนูอยากคุยหนูอยากช่วย หนูรู้สึกดีด้วยซ้ำหนูโตมากับแม่มันทำให้หนูเข้มแข็งมาก
แล้วหนูไปตามหาคุณพ่อเหรอคะ?
เจนนี่ : ใช่ค่ะ 9 ขวบ ชวนคุณแม่ไปแล้วแม่ก็พาไปเจอที่ร้านเพื่อชีวิต แล้วก็ขอเบอร์ไว้แต่ว่าคุยกันไม่ถึงเดือนสองเดือนก็หายกันไปจนมาเจอกันอีกทีก็สองสามปีนี้
แล้วข่าวที่บอกคุณพ่อส่งเสียตลอดอันนี้จริงไหม?
เจนนี่ : อันนี้ไม่จริงค่ะ แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของพ่อด้วยเพราะว่าเขามีครอบครัวที่ต้องดูแล แต่พ่อไม่ได้ส่งเสียค่ะคือป้าคนนี้ให้ความเท็จทุกอย่าง คือถ้าอันไหนจริงหนูก็ยอมรับ เช่น พ่อส่งเสียหนูตลอด มันก็ไม่ใช่ เพราะหนูเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก แถมเลี้ยงน้องเลี้ยงแม่ด้วยซ้ำ แล้วที่เขาบอกว่าเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอ พ่อเป็นคนแต่งให้ ก็ไม่ใช่ ท่อแต่งก็จริงแต่แต่งเพลงอื่น เพราะหนูส่ง งานให้พ่อหลังจากที่เรารู้จักกัน คุณพ่อเป็นนักแต่งเพลง แล้วซิงเกินแรกในชีวิตของหนู ที่ชื่อว่าเลิกกินท่อมแล้วค่อยมารักกัน ก็ให้คุณพ่อเป็นคนแต่งให้ อ้อนวอนแม่ว่า ขอพ่อแต่งเพลงให้สักเพลง เพราะแม่บอกว่าพ่อเป็นนักแต่งเพลง
น้องลิลลี่ให้กำลังใจพี่สาวยังไงบ้าง?
ลิลลี่ : เมื่อวานหนูก็รู้ก่อนพี่ ก็เก็บอาการ แล้วแม่บอกว่า อยู่ข้างพี่เยอะๆ นะ ทีนี้ก็จับมือแล้วบอกว่า อยู่ข้างๆ ตลอดนะ พอขึ้นรถมาแม่ก็กอด แล้วแกบอกว่าอย่าร้อง
เจนนี่ : คือเมื่อวานเราถ่ายรายการแล้วพักเบรก แล้วลิลลี่ไปเข้าห้องน้ำแล้วก็ไปแอบเล่นโทรศัพท์ก็จะไปเห็นมาก่อนก็ว่าอยู่ทำไมเดินกลับมาแล้วไม่เหมือนเดิมเขาก็เก็บอาการ ตอนแรกเขาก็เดินมากอดมาจับมือเขาก็ให้กำลังใจ ไม่บอกหนู เขาก็คงรู้ว่า หนูคงจะเสียเซลล์ไปเลย
เจนนี่เป็นคนที่เคยบอกไว้ว่า ทำบุญกับพระกี่วัดก็ตาม ไม่เท่าทำกับบุพการี ของเรา?
เจนนี่ : ใช่ค่ะคำนี้แม่สอนหนูตลอด แล้วหนูก็จำขึ้นใจ แล้วหนูก็นำคำที่แม่สอน มาพูดกับแม่ในวันที่แม่ไม่ให้หนูติดต่อพ่อ หนูก็บอกแม่ว่า แม่เป็นคนเคยบอกเองว่าทำบุญกับพระก็ไม่เท่าทำบุญกับคนในบ้านก็คือพ่อกับแม่ ซึ่งตอนนี้กับแม่หนูเต็มที่แล้วหนูขอนิดหน่อยที่ให้หนูได้คุยกับพ่อได้อะไรกับพ่อก็แล้วแต่
พี่ขอเคลียร์ทีละประเด็นที่เขาบอกว่า หนูไม่สนิทกับพ่อมองพ่อเหมือนขอทาน อันนี้จริงไหม?
เจนนี่ : อันนี้ไม่จริงค่ะ ไม่สนิทยอมรับแต่ขอทานนี่ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่เคยมองพ่อเป็นขอทานในส่วนของเงินที่ให้ปกติก็ให้ ในส่วนการทำเพลงเราก็คุยกันว่าถ้าเพลงไหนลูกค้าจ้างมาหนูก็จะให้เป็นค่าเพลงไป อันนี้เป็นเพลงเกี่ยวกับสินค้าที่หนู ทำคลิปตลกๆ ของหนูหนูจะให้คุณพ่อช่วย เพราะว่าเป็นงานที่เขาทำได้เขาป่วยไม่สบาย เขาป่วยเกี่ยวกับตับอะไรอย่างนี้
น้องติดต่อคุณพ่อได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
เจนนี่ : 9 ขวบ แล้วก็หายไป 10 กว่าปี แล้วก็มาติดต่อกันอีกทีผ่านเฟซบุ๊ก ตอนนั้นเรามีชื่อเสียงแล้วแต่มีในระดับหนึ่งแต่ไม่ใช่เหมือนตอนนี้นะคะ เราก็เลยส่งเพลงให้พ่อเพราะมันเป็นทางเดียวที่ คุยกับพ่อได้โดยที่แม่ก็ไม่ค่อยห้าม เพราะว่ามันเรื่องงาน ก็พยายามเอาเรื่องงานมาคุย แต่ก็มีคุยเรื่องอื่นบ้างแต่หนูก็ไม่ได้ซึ้ง เหมือนคุยกับแม่ เพราะเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันไม่เหมือนกัน
แล้วช่วงระยะเวลาที่กลับมาติดต่อกันอีกรอบการติดต่อมันมีปัญหาอะไรบ้างไหมหรือว่าราบรื่นดี?
เจนนี่ : จริงๆเรื่องนี้หนูไม่จำเป็นต้องมาพูด แต่หนูขออนุญาตพูดในการปกป้องตัวเองคือทุกครั้ง ที่เราคุยกันเรื่องเงินมันไม่ลงตัว มันไม่ต้องเจาะลึกว่าทำไมแต่มันไม่ลงตัวมันจะมีความรู้สึกเฮ้อกันทั้งคู่ จนถึงเมื่อวานที่มันน่าจะสุดๆ แล้ว ก็เลยออกมาแบบนั้น
3 วัน ก่อนที่จะทะเลาะกับพ่อเกิดอะไรขึ้น?
เจนนี่ : ก็คือหนูให้คุณพ่อแต่งเพลงให้ลูกค้าแล้วหนูก็เพิ่งโอนค่าเพลงไปให้คุณพ่อ 3000 บาทแล้วหลังจากนั้นสองวันกว่าพ่อก็โทรมาอีกโทรมาประมาณสี่สายแต่หนูไม่รับเพราะหนูรู้ว่าเดี๋ยวจะต้องคุยเรื่องอะไร แล้ววันนั้นเป็นวันที่แม่เพิ่งผ่าตัดเสร็จ แล้วหนูเป็นห่วงแม่มาก แม่ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล ก็มีก้อนเนื้ออะไรก็ไม่รู้อยู่ในตัวแม่เราก็เป็นห่วงกันทั้งบ้าน ถ่ายเอ็มวีให้ลูกค้าก็ต้องถ่าย เป็นห่วงแม่ก็เป็นห่วง ทีนี้พอก็โทรมาจนหนูต้องรับ พอคุยไปคุยมาก็เป็นอย่างที่คิดก็คือเข้าเรื่องเดิมสเต็ปเดิมหนูก็ยิงตรงเลยว่าพูดเรื่องอื่นบ้างได้ไหมคะเพราะว่าหนูเสียความรู้สึก คือหนูต้องพูดตรงๆ ไม่งั้นก็จะเป็นอย่างนี้ แต่ความตรงของหนูในวันนั้นมันเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ณ ตอนนั้นน้องอาจจะเหนื่อย?
เจนนี่ : หนูเหนื่อยมาก แม่ผ่าตัดมีก้อนเนื้อสี่ก้อนในตัว แล้วหมอกำลังตรวจอยู่ ไม่ได้การันตีว่าแม่จะเป็นร้ายแรง หรือเป็นเบาแต่เราเป็นห่วง แล้วหนูถ่ายงานตั้งแต่ 6 โมงเช้าเสร็จ 6 โมงเย็นแล้วมาเจออะไรแบบนี้มันก็แย่ แล้วที่สำคัญสามวันที่แล้วเพิ่งให้ไป
น้องคิดไหมว่าสิ่งที่น้องพูดกระทบกระทั่งกันในโทรศัพท์เลยทำให้เกิดเหตุการณ์โพสต์แฉ?
เจนนี่ : คิดค่ะ นี่ความคิดของหนู เพราะหนูยังไม่ได้คุยกับพ่อ พ่ออาจจะไประบายความเครียดกับคุณป้า คนนั้น แล้วคุณป้าคนนั้นก็เลยจัดหนักขนาดนี้ แต่สิ่งที่หนูมั่นใจคือตอนที่หนูให้คุณป้าคนนั้นน่าจะไม่รู้ แต่วันที่หนูไม่ให้เขารู้
รู้จักกับคุณป้าคนนี้ด้วยไหม?
เจนนี่ : ไม่ค่ะแล้วหนูก็โกรธมากๆ หนูเสียใจที่สุดเลยไม่มีใครทำกับหนูแบบนี้
เขาเป็นญาติของคุณพ่อ?
เจนนี่ : คุณแม่บอกว่าเป็นพี่ของพ่อซึ่งหนูไม่รู้จักมาก่อน วันที่หนูเห็นเขาโพสต์หนูถามตัวเองก่อนว่า พ่อเกี่ยวหรือเปล่า แล้วหนูก็นั่งรออยู่ว่าเมื่อไหร่พ่อจะออกมาโพสต์ปกป้อง เมื่อไหร่พอจะพูด สุดท้ายพ่อก็ไม่พูด นั่นก็ทำให้เรามั่นใจว่า โอเคน่าจะมาจากพ่อด้วยส่วนหนึ่ง
แต่ ณ ตอนนี้พ่อได้โพสต์แล้ว?
เจนนี่ : โพสต์แล้ว ซึ่งหนูก็ดีขึ้นแต่ก็ยังคงเสียใจเพราะว่าหนูไม่อยากมีข่าวแบบนี้ ซึ่งคุณพ่อบอกว่าขอโทษหนู แต่เขาก็มีการเข้าข้างคุณป้า เพราะเขาเป็นพี่สาว ซึ่งหนูไม่โกรธพ่อ พ่อจะขอตังค์เลิกกับแม่จะอะไรก็แล้วแต่หนูไม่เคยโกรธพ่อ แล้วหนูก็ยินดีที่จะคุยกับพ่อแต่หนูไม่ขออภัยให้กับคุณป้า
คุณพ่อเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังขั้นรุนแรง?
เจนนี่ : คือหนูรู้มาตั้งนานแล้วว่าเมื่อก่อนพ่อเป็นคนติดเหล้ามาก แล้วก็ไม่รู้ตอนนี้ยังติดอยู่หรือเปล่าเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งเอาจริงๆ เหตุผลนี้ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ก่อนจะโอนเงินทุกครั้งหนูจะต้องคิด หนูให้พ่อได้แต่ต้องอยู่ในขอบเขต และต้องพอดีในแต่ละเดือน ไม่ใช่วันนี้ให้แล้วสองวันมาอีกเรื่องสามวันมาอีกเรื่อง ซึ่งตอนนี้หนูเหนื่อยมาก ถ้าทุกคนได้เห็นหนูทำงานไม่หยุดหนูแทบไม่มีเวลากินข้าวเลยด้วยซ้ำแล้วพอมีเรื่องแบบนี้มันมาบั่นทอนจิตใจเรื่อยๆ มันก็เลยจำเป็นที่จะต้องมีคำพูดที่ตรงๆ ออกไป ซึ่งคำพูดตรงของหนูถามคุณพ่อได้เลยหนูไม่เคยขึ้นเสียงหรือหยาบแต่หนูจำเป็นต้องพูดว่าหนูเหนื่อยนะคะพ่อต้องหยุดอย่างนั้นหยุดเรื่องโน้นเรื่องนี้หนูคุยมาตลอด
เห็นว่าคุณพ่อเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังแล้วก็ไปอยู่โรงพยาบาลเป็นปี มีคนบอกว่าหนูไม่เคยไปเยี่ยมเลย?
เจนนี่ : ค่ะหนูไม่ได้ไปเยี่ยมแต่หนูจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ แต่ไม่มีใครรู้เพราะหนูไม่เคยโพสต์ หนูไม่ต้องมานั่งโพสต์ว่าหนูโอนตังค์ให้พ่อแล้วนะคะ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่หนูให้ความสำคัญก็คือแม่ ต่อให้วันนี้หนูเป็นหัวหน้าครอบครัวหนูหาเงินหางานจริงๆ แต่คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวจริงๆคือแม่ แม่จะเป็นคนที่ตัดสินใจทุกอย่าง บางครั้งการที่หนูจะโอนเงินให้คุณพ่อหนูก็ต้องแอบแม่บ้างขอแม่ตรงๆ บ้างก็แล้วแต่สลับกันไป
แล้วเรื่องงานบวช เห็นว่าตัวเจนนี่เองไม่พอใจที่ไม่ได้ไปงานบวชของคุณพ่อ?
เจนนี่ : ก็คืออย่างที่ทุกคนรู้ว่าคิวหนูช่วงหลังนี้มันแน่นมากแล้วพ่อบอกล่วงหน้านิดเดียว เป็นช่วงที่หนูไปเดินสายแถวกรุงเทพฯ อีสาน ก็เลยตัดสินใจจัดงานบวชนี้ให้พ่อซึ่งวันนั้นคำพูดที่หนูได้ยินหนูโคตรดีใจเลยพ่อบอกว่ามันเหมือนทำให้แกได้เกิดใหม่เลย แล้วมันเป็นเงินที่ลูกสาวให้บวชหนูรู้สึกว่าภูมิใจหนูไม่เคยทำอะไรอย่างนี้
หรือการที่คนมาต่อว่าเราว่าเราไม่ไปงานบวช เขาไม่ทราบหรือเปล่า ว่าเงินทั้งหมดในการจัดงานเป็นเงินของน้องเจนนี่?
เจนนี่ : ก็ใช่ค่ะหนูคิดว่าคุณพ่อน่าจะไม่เคยเล่าเรื่องแบบนี้ให้ทุกคนฟัง แต่อาจจะเป็นเพราะถ้ารู้ว่าหนูโอนเงินให้ก็อาจจะมีคนนั้นขอ คนนี้ทวงค่าติด ก็แล้วแต่เขาให้ไปแล้วคือให้เอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ท่าน
น้อยใจไหม?
เจนนี่ : ไม่น้อยใจค่ะ แต่จะมาน้อยใจก็ช่วงหลังที่ ทำไมไม่เข้าใจหนูบ้าง ให้ 10 ครั้ง กับไม่ให้ครั้งเดียว มันเป็นแค่ครั้งเดียวที่เราไม่ให้บางทีมันก็ต้องมีบ้างหรือเปล่า เราจะให้ได้ยังไงทุกครั้ง
งานบวชที่จัดไปตอนนั้นเท่าไหร่?
เจนนี่ : คุณพ่อขอแค่ข้าวหม้อแกงหม้อ แล้วก็ขอผ้าไตรอะไรอย่างนี้ พ่อขอมา 5000 บาท แต่หนูให้ไป 20,000 บาท เพราะหนูหวังว่าในระหว่างที่พ่อบวชภาระของจะเยอะลูกๆ ใหม่ของพ่อมี 4-5 คน เขาก็ต้องเดือดร้อนกัน ก็ให้ไป 20,000 บาทแล้วแต่จะไปทำอะไรกัน
แล้วตอนเข้าโรงพยาบาลจ่ายไปทั้งหมดเท่าไหร่?
เจนนี่ : คือเข้าโรงพยาบาลหนูไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ล่าสุดที่หนูคุยกันคือ พ่อบอกว่าจะไปโรงพยาบาลจะขอเงินเพราะหนูโอนเสร็จกลายเป็นว่าพ่อไม่ได้ไปโรงพยาบาล แล้วมาบอกว่าตังค์ที่ให้ไปเอาไปจ่ายค่าเทอมน้องคนเล็กแล้ว แล้วมันเป็นเรื่องที่ทำให้หนูกับพ่อต้องทะเลาะกัน คือหนูให้พ่อไปหาหมอ ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากให้น้องแต่หนูให้พ่อ
แล้วรายได้ของเราสองคนเท่าไหร่ แล้วค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
เจนนี่ : ถ้าเป็นค่าคอนเสิร์ต ภาคกลางก็จะอยู่ที่ 120000 บาท หนูมีลูกน้อง 30 คน นักดนตรี 8 คน แดนซ์เซอร์ 6 คน นักร้อง 4 เงินเดือนคนละ 3 หมื่น ยังไม่รวมค่าเดินทาง เลี้ยงข้าวทุกมื้อ เปิดโรงแรมให้ทุกห้อง แล้วทุกครั้งที่หนูจะไปกินอะไรกับแม่หนูไม่เคยทิ้งลูกน้อง ถ้าหนูไปกิน MK ลูกน้องก็กิน MK ส่วนลิลลี่จะมีเงินเดือน แต่หนูจะเป็นคนที่รับทุกงาน
หลายคนอยากรู้ให้เงินเดือนพ่อเท่าไหร่?
เจนนี่ : อันนี้เอาตรงๆ ให้เดือนละ 5000 บาท 5000 บาทบางคนก็รู้สึกว่าทำไมให้พ่อน้อยจัง?
เจนนี่ : คือเอาจริงๆหนูอยู่กับแม่มาพ่อจะมาเอาเท่าแม่มันไม่ได้แล้วหนูก็บอกว่า 5000 บาทน่าจะสมเหตุสมผลแล้ว มันอาจจะน้อยไปสำหรับทุกคนแต่หนูเป็นคนที่หนูรู้ดีว่าแต่ละบาทกว่าจะได้มามันเหนื่อยมาก แล้วการที่ 5000 บาทนี้มันไม่ได้เสมอไป บางทีสองสามวันมีมาอีกเรื่องสองเรื่องสามเรื่องก็ให้กันไปอีกเพราะมีค่าแต่งเพลงเดือนนึงสี่เพลงเพลงละ 5000 เดือนหนึ่งก็ 20,000 บาท บางทีสองสามวันมีมาอีกเรื่องสองเรื่องสามเรื่องก็ให้กันไปอีกเพราะมีค่าแต่งเพลงเดือนนึง 4 เพลง เพลงละ 5000 เดือนหนึ่งก็ 20,000 บาท แต่หนูก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งชี้แจง แต่หยุดให้แล้วเพราะวันนั้นทะเลาะกันเรื่องเงิน แล้วคุณพ่อบอกว่าถ้าพ่อแย่มากหนูไม่ต้องติดต่อพ่อมาแล้ว
ได้ยินคำนี้จากพ่อมาประมาณ 5-6 ครั้ง แต่ครั้งนี้หนูรู้สึกหนูก็เลยบอกโอเคค่ะหนูไม่ทักไปกวนคุณพ่อก็ได้ คือพ่อหนูให้ก็จะมีคำพูดเล็กๆน้อยๆของคุณพ่อที่สอดแทรกเช่นพ่อคะพ่อต้องดูแลตัวเองด้วยนะบางทีน้องน้องก็ต้องช่วยพ่อมันจะดูเหมือนไปก้าวก่ายก็เลยกลายเป็นทะเลาะกันแล้วหยุดให้ไปสองเดือนจนล่าสุดพ่อโพสต์ว่า ไม่มีเงินแล้วรับงานแต่งเพลง เราเห็นก็อดใจไม่ไหวอุตส่าห์ทักไปอีกพ่อเอางานไหมคะมีงานมาให้แต่งแต่อันนั้นน่ะโอนตังค์ไปให้ก่อนเพราะรู้ว่าวันนั้นไม่มีตังค์ ก็อยากช่วยแต่ไม่อยากให้กลับไปสไตล์เดิม แต่สุดท้ายก็ไม่ลงตัว เพราะว่าสองวันถัดมาก็โทรมาอีกแล้ว
ให้พ่อเดือนละ 5000 บาทให้แม่เดือนละเท่าไหร่?
เจนนี่ : 200,000 บาทค่ะ วันที่เราสามคนไม่มีข้าวกินวันนั้นเราไม่มีพ่อนะคะวันที่เราหนีหนี้นอกระบบ วันที่หนูต้องดร็อปเรียนเลี้ยงน้อง วันนั้นหนูไม่มีป้าไม่มีพ่ออะไรทั้งนั้นไม่มีใครเห็นหนูด้วยซ้ำ หนูให้แม่เดือนละ 200,000 บาท มันยังน้อยไป ถ้าวันที่พ่อทิ้งไปแล้วแม่ทิ้งหนูด้วยหนูจะมีชีวิตอยู่มาถึงทุกวันนี้ไหม
วันที่หนีหนี้นอกระบบมันโหดขนาดไหนสำหรับครอบครัวเรา?
เจนนี่ : แม่จะฆ่าตัวตายหลายครั้งมาก มีหนูที่ให้กำลังใจแล้วให้กำลังใจอีก หนูดร็อปเรียน หนูทำงานคืน 4-5 ร้าน เพื่อเอาเงินมาให้ลิลลี่ได้เรียน วินาทีนั้นไม่เห็นมีใครมายื่นมาเรียกร้องอะไร เรียกร้องกับใครก็ไม่ได้ แต่ทำไมวันนี้ทุกคนมารุมทำร้ายหนู หนูไม่อยากพูดมากเพราะหนูรู้ว่ามันจะทำร้ายพ่อ ทุกคนไม่ต้องไปโกรธพ่อเพราะเขาก็มีเหตุผล เขาเงินไม่พอ แต่ที่หนูต้องพูดเพราะหนูต้องปกป้องตัวเองเพราะป้าคนนั้นเขาบอกว่าหนูเนรคุณ ทั้งๆ ที่หนูไม่เคยเนรคุณเลย
ตอนนั้นแม่อยากจะฆ่าตัวตายเพราะอะไร?
เจนนี่ : มันมีเจ้าหนี้ขู่จะฆ่า คือเราไปไหนไปกัน 10 กว่าปีไม่เคยยิ้ม แม่ต้องโกหกทุกคนโกหกชื่อโกหกอะไรมากมายไม่มีที่อยู่เพื่อนหนีหนี้ แล้ววันที่หนูมีวันนี้ได้ทำไมทุกคนไม่ยินดีกับหนู มันไม่ใช่แค่ป้าคนนั้นแต่มันมีญาติพ่อคนอื่นที่เมื่อคืนเขาโพสต์รูปหนูกันหมดเลย สิ่งเดียวที่หนูขอหนูรอก็คือรอให้พ่อออกมาปกป้องเพราะว่าพ่อรู้ดีที่สุดว่าหนูทำดีหรือยังถ้ามันยังไม่ดีพอก็ขอโทษพอแต่ถ้ามันดีแล้วก็ช่วยออกมาปกป้องหน่อยว่าหนูไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูดไม่ได้เนรคุณ
ตั้งแต่เกิดเรื่องได้คุยกับพ่อหรือยัง?
เจนนี่ : หนูไม่กล้าทักหรือโทรไป เพราะหนูไม่รู้ว่าพ่อเค้าคิดอะไรอยู่ หนูไม่รู้ว่าโพสต์นั้นพ่อเป็นคนให้ป้าโพสต์หรือว่าป้าโพสต์เองคือหนูว่าคนที่ควรจะต้องทักตอนนี้คือพ่อต้องทักหนูมาเหมือนทุกๆครั้งที่เขาทักมา
พ่อยังไม่ได้โพสต์อะไรเลยหรอ?
เจนนี่ : เขาเพิ่งโพสต์เมื่อกี้ก่อนเข้ารายการ เขาบอกว่าขอโทษหนู แล้วอยากให้ทุกคนให้อภัยคุณป้าคือหนูให้อภัยไม่ได้ หนูโคตรเจ็บคนที่บอกว่าหนูเนรคุณหนูเจ็บมากเพราะหนูเป็นคนที่ซีเรียสกับเรื่องนี้มาก ไม่ว่าหนูจะมีข้าวกินหรือไม่มีแม่หนูต้องได้กินหนูไม่เคยเนรคุณคนที่เคยให้ข้าวให้น้ำหนู หนูก็กลับไปตอบแทนบุญคุณทุกคน แล้วพ่อหนูทำไมหนูถึงทำไม่ได้แต่บางทีมันน้อยไปสำหรับคนบางกลุ่ม ซึ่งที่พ่อขอคือพ่อขอให้จบ เพราะว่าล่าสุดตั้งแต่มีโพสต์หนูก็แจ้งความในส่วนของคุณป้าคนนั้น เพราะว่าเขาให้การเท็จ แต่พ่อขอให้จบหนูก็จบตามที่ท่านขอ แต่จะไม่ขอคุยกับป้าคนนั้น
เรื่องค่าแต่งเพลงตกลงมันยังไง?
เจนนี่ : ไม่เคยเบี้ยวค่ะแล้วก็จะโอนไปก่อนด้วยซ้ำแต่ว่าเหมือนล่าสุดคุณพ่อจะขอเบิกล่วงหน้าซึ่งหนูมองว่ามันยังไม่ถึงเวลาก็อยากให้รอสักพักแต่มันก็เป็นเรื่องเสียก่อน
ใจลึกๆ คิดไหมว่าพอจะเอาเงินไปกินเหล้า?
เจนนี่ : ไม่รู้เหมือนกันค่ะ คือให้ไปแล้วเอาไปทำอะไรก็ได้ ให้แล้วคือให้ ถามว่ากลัวไหมก็กลัวค่ะ เพราะว่าตอนที่ไปเยี่ยมแฟนใหม่ของคุณพ่อก็เคยไปเปรยๆ ว่าพ่อดื้อ ยังคงแอบกิน แอบโน้น แอบนี้ ซึ่งบางครั้งที่เราโอนไปที่ท่านไม่บอกเราก็ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมถึงไม่บอกคนรอบข้างก็อาจจะมีหลากหลายเหตุผล
ถ้าถามนะตอนนี้เจนนี่ยังโกรธพ่ออยู่ไหม?
เจนนี่ : โกรธ แต่น้อยใจน้อยใจแป๊บนึงเดี๋ยวก็หายปกติเราก็น้อยใจกันอย่างนี้มานานอยู่แล้วแล้วก็หายกันได้แต่ว่ารอบนี้มันมีบุคคลอื่นเข้ามามันก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
ชมคลิป
VVV
VV
VVVVVV
VV
V
VV
V
VVVVV
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น