“โจอี้ บอย” แง้มหัวใจ วัย 45 กับสเปคสาว เผยเหตุผลที่เล่นคอนเสิร์ต แต่งดรับเงิน
โจอี้ บอย : "เกือบทุกคืนนะ กลางวันนอนบ้างไปถ่ายรายการอะไรบ้าง ร้องเพลง เล่นคอนเสิร์ตมา 20 กว่าปี"
ใน 20 กว่าปีมีจุดที่เบื่อวงการบ้างไหม?
โจอี้ บอย : "ไม่เบื่อหรอก ทำไปเรื่อยๆ เราเล่นอะไรซ้ำๆ 20 กว่าปีนี่มันเกินครึ่งชีวิตไปแล้ว มันก็ต้องหาอะไรที่แปลกใหม่ให้มันสนุก เล่นคอนเสิร์ตงานเราไม่มีวันหยุด รับแล้วก็ต้องไป เคยหยุดยาวที่สุดเต็มที่ก็เดือนนึง ถ้างานเยอะมากๆ เป็นช่วงเทศกาลก็มี 4 งาน ติดกัน 5 วัน"
แล้วพี่เอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหนหมด?
โจอี้ บอย : "ที่แม่ครับ ปัจจุบันก็ขอเงินแม่ พี่ไม่มีอะไรต้องซื้อ พี่ไม่ค่อยช้อปปิ้ง"
ตอนที่ช่วงเทปผี ซีดีเถื่อนระบาด ตอนนั้นเฟลไหม?
โจอี้ บอย : "ในด้านธุรกิจ มันเกี่ยวกับเราจุดหนึ่งเหมือนกัน แต่หนักจริงๆ คงจะเป็นเรื่องของค่ายใหญ่ที่เขาลงทุน จริงๆ เราเป็นส่วนเล็กมากๆ ที่ได้รับผลกระทบ แต่ว่าในความรับผลกระทบจริงๆ คือจิตใจมากกว่า"
โจอี้ บอย : ไม่เคย การสนุกสนานของผมคือการออกมาเล่นคอนเสิร์ต รับพลังงานแลกพลังงาน แลกกันไปมากับคนดูมากกว่า
พี่เป็นนักกีฬาอาชีพ?
โจอี้ บอย : "อันนั้นเป็นความฝัน อยากจะทำ แต่ถ้าเป็นอาชีพเป็นไม่ได้ เป็นได้บางอย่างในเมืองไทย ในชีวิตเราอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ"
แต่ก็ได้เป็นทีมชาติพารามอเตอร์?
โจอี้ บอย : "ใช่ครับ ตอนนั้นลาออกจากแกรมมี่ ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ด้วยความที่ถึงจุดอยากเป็นนักกีฬา ผมก็ไปหากีฬาที่อายุผมตอนนั้น 30กว่า เล่นอะไรที่เราจะเอาตัวเองไปให้สุดให้ได้ ก็ไปเจอพารามอเตอร์ แล้วเริ่มฝึกกับมัน เล่นกับมันอยู่ 3 ปี ได้แชมป์ประเทศไทย แล้วปีที่4 ติดทีมชาติ ไปแข่งได้เหรียญทอง"
กีฬาแบบนี้ได้ตังไหม?
โจอี้ บอย : "มันเสียตังครับ เอาเป็นว่าการโปรโมทยังไม่มากพอที่สปอนเซอร์จะเข้ามาช่วยได้มาก"
แสดงว่าคนอย่างโจอี้บอย ถ้าอยากจะทำอะไรก็ต้องเอาให้สุด?
โจอี้ บอย : "ก็ตั้งใจที่สุด"
โจอี้ บอย : "อันนี้ตลก หมอก็บอกว่าเกิดมายังไม่เคยเจอ ผมว่ามันเกิดจากที่ผมหัดตี คือตอนที่ผมยิงธนู ผมก็ยิงจนแขนเขียวไปหมด ตีกอล์ฟก็เหมือนกัน อยากจะเก่งเร็ว ก็ตีไปเรื่อยๆ ตีผิด ไม้กอล์ฟก็หวดกับพื้น มันสะเทือนไปเรื่อยๆ จนมันก็เจ็บ ก็คิดว่ากล้ามเนื้อ ก็ไปออกรอบสนาม จำได้ว่าพอตีแล้วหายหลังไปโรงพยาบาล หมอเอกซเรย์ 3 ซี่แล้ว หักมาเดือนนึง ทนมาได้ยังไง"
พี่เคยมีจังหวะช่วงที่เฟลๆ ไม่อยากทำอะไรเลยบ้างไหม?
โจอี้ บอย : "มีเบื่อมากกว่า แบบทำอะไรดี ช่วงนี้ไม่มีอะไรทำเลย แต่เฟลเลยไม่มี ผมรู้สึกว่าคนเรามีสิทธิที่จะเฟลได้ คือเริ่มแล้วไม่ใช่ ไม่เก่ง มีอย่างอื่น คือคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อมุ่งไปจุดหมายเดียว เราทำไม่ได้ชีวิตพินาศมาก ไม่ๆ มันมีอีกหลายทางให้เลือกทำ"
เคยกลัวตายไหม?
โจอี้ บอย : "กลัวตายที่สุด เวลาพี่ทำอะไรพี่ทำอย่างมีสติ และมั่นใจว่าทำได้ พี่เป็นคนแบบหาหมอบ่อยมาก พี่ไม่อยากป่วย พี่ไม่อยากตาย พี่เป็นคนที่ตื่นมาถ้าอะไรผิดปกติจะต้องเช็กก่อน เพื่อไปทำสิ่งที่เรารักให้ได้"
คุณมาสายเฮลท์ตี้ได้ยังไง?
โจอี้ บอย : "ผมก็ยังปาร์ตี้อยู่ แต่ผมก็ชอบเล่นกีฬา อันดับแรกของเฮลท์ตี้คือ ผมต้องมีสภาพร่างกายที่ผมไปเล่นกีฬาได้ ฉะนั้นผมจะบาลานซ์ปาร์ตี้ คือมันมีจุดหมายที่เล่นกีฬาเป็นอันดับแรกก่อน แต่ก็ยังมีปาร์ตี้อยู่บ่อย มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ ผมก็ปาร์ตี้ เดือนนึง 3-4 ครั้ง"
โจอี้ บอย : "ติดกันเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นปี"
ทำยังไงให้คิดได้ว่าเลิกปาร์ตี้?
โจอี้ บอย : "มันไม่จำเป็นต้องเลิก ร่างกายจะบอกเราเอง สำหรับผมปาร์ตี้หรือเฮลตี้มันอยู่ที่ความสุข สุดท้ายแล้วเราทำอะไรที่สนุก แล้วมีความสุขกับมัน รับผลที่จะตามมากับมันได้ก็ทำเลย"
ทุกเช้าไหมที่ตื่นมาแล้วปั่นผักกิน?
โจอี้ บอย : "ใช่ ปั่นเองครับ รู้สึกว่าต้องรักษามันเพราะอยากจะปาร์ตี้ อยากจะเฮลตี้มันก็ต้องทำทุกอย่างให้มันอยู่ให้ได้"
พี่ไม่มีสาวปั่นให้เหรอ?
โจอี้ บอย : "มีเยอะแยะเลย"
ตอนนี้มีคนดูแลไหม?
โจอี้ บอย : "ไม่มี ตอนนี้โสด ถามว่ามีคุยไหม ก็มี แต่เราไม่มีเวลาไปโฟกัสกับเรื่องการมีคู่ครอง เราอายุขนาดนี้บางทีก็ลืมไปแล้ว"
โจอี้ บอย : "คือไม่เคยปิด ไม่เคยบอกตัวเองว่าอยากมี หรือไม่อยากมี อะไรเกิดขึ้นมาก็ตามนั้น พี่ชอบเด็ก พี่เล่นกับหลานพี่สนุกมาก แต่เมื่อวันที่ต้องมีมาพี่พร้อม คือรู้อย่างเดียวคือเตรียมตัวเองให้พร้อมมาก"
สเปคเป็นแบบไหน?
โจอี้ บอย : "ต้องเป็นคนที่ทำให้เราหัวปักหัวปำ คือเราพลาดมาเยอะ เราอายุขนาดนี้ เราผิดหวังกับเรื่องความรักมาเยอะ เราย้อนกลับไปคิดอันดับแรกเลยว่าคนที่จะทำให้เราหัวปัก หัวปำ เหมือนรัก 2-3 ครั้งแรกได้นั่นคือสิ่งที่ต้องการ นิสัย ใจคอเอาไว้ก่อน เอาแพชชั่นเป็นอันดับแรก ผมรู้สึกอย่างนั้น"
โสดมานานหรือยัง?
โจอี้ บอย : "1 ปีครับ"
ใครทิ้งใคร?
โจอี้ บอย : "อ่อ ไม่มีใครทิ้งใครครับ ก็คุยกันปกติ ธรรมดา โตแล้วไม่ทะเลาะ ไม่อะไรกันด้วย"
นอกเหนือจากหักอกเขา เคยอกหักไหม?
โจอี้ บอย : "อกหักบ่อย อกหักหนักที่สุดคือลืมเขาไปไม่ได้ คือข้ามยุคมาเลยนะ แบบเผลอๆ ยังไปเสิตกูเกิ้ลชื่อเขา แต่ไม่ได้เสียใจนะ แต่คิดถึงต่อเนื่องมา แต่ตอนนี้ไม่คิดถึงแล้ว"
โจอี้ บอย : "ไม่ๆ ก็ยังคิดอยู่ จริงๆ ก็ยังเล่นคอนเสิร์ตทั่วไป หากินเป็นอาชีพ แล้วเราแค่รู้สึกว่าเราเห็นคนคนหนึ่งคือพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ สิ่งที่เขาทำมันประทับใจเรา คือเห็นมานานแล้วนะ จนพอมีเหตุการณ์อุทกภัยครั้งที่ผ่านมาก็เลยรู้สึกว่าเราก็เคยไปช่วยน้ำท่วมอยู่ จนถึงจุดหนึ่งสิ่งที่เราถนัดแล้วน่าจะช่วยได้จริงๆ คืออะไร ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราเล่นคอนเสิร์ตหาเงินไปช่วยเขาน่าจะเป็นสิ่งที่เราถนัด เพราะเราเคยไปซื้อเรือยาง ลุย แล้วกลายเป็นผู้ประสบภัยเองด้วยความที่ไม่รู้เรื่อง รู้ราวกับเขา รู้สึกว่าไปเกะกะเขา ทำในสิ่งที่เราถนันแล้วช่วยเขาได้ ก็เลยตัดสินใจบอกเขาว่า เดี๋ยวเดือนนี้ทั้งเดือนถ้าเล่นคอนเสิร์ตจะเอาเงินไปช่วยเขาให้หมด แต่พอคิดไปแบบนั้นปุ๊บไปเล่นคอนเสิร์ตไปช่วยเขา คนที่แบกความรับผิดชอบก็น่าจะเป็นเจ้าของผับ ทัวร์ทั่วประเทศไปเลย ไปเปิดหมวกให้คนที่อยากมาทำบุญร่วมกับเรามีโอกาสทำ ก็เอาเงินทั้งหมดส่งต่อให้พี่บิณฑ์ ตอนนี้ไปมา 15 จังหวัดแล้วครับ เดี๋ยวกำลังจะเริ่มเฟดที่ 2"
เฟด1 ที่ผ่านมารวบรวมเงินได้เท่าไหร่?
โจอี้ บอย : "2 ล้านกว่าบาท"
ทำไมต้องทั่วประเทศ ทำไมไม่อยู่แค่กรุงเทพฯ ?
โจอี้ บอย : "อย่างที่บอกการไปเล่นคอนเสิร์ตมันคือความสนุกของผม ปกติผมเล่นในผับ เล่นในเฟสติวัล ผมอยากไปเล่นกลางตลาด เล่นในเวลาหัวค่ำ 6 โมงเย็น เจอคนที่ไม่เคยดู"
เท่ากับว่าพี่ต้องยกเลิกงานจ้างเพื่อมาเล่นคอนเสิร์ตในครั้งนี้?
โจอี้ บอย : "ใช่ก็จะมีงานบางอันที่ยกเลิกไม่ได้"