เปิดปากครั้งแรก “เมญ่า นนธวรรณ” หลังแยกทางกับสามี เผยสถานะ แม้ยังอยู่บ้านเดียวกัน (คลิป)
ตอนนี้ชีวิตเป็นยังไง ?
เมญ่า : "ตอนนี้ชีวิตโอเคค่ะ แฮปปี้ขึ้น"
เกิดอะไรขึ้นวันที่โพสต์คนไทยตกใจกันทั้งประเทศ ?
เมญ่า : "เหมือนเป็นช่วงเวลาที่เราคิดและวิเคาะห์แล้วว่าอยู่ตรงนี้เรามีความสุขกว่า"
ตกลงสถานะตอนนี้คือ ?
เมญ่า : "สถานะคือยังไม่ได้หย่า ลดสถานะจากสามี ภรรยามาเป็นเพื่อนกัน ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน ยังอยู่ด้วยกันสามารถดูแลลูกเหมือนเดิมได้ แค่เราไม่สามารถรักกันในฐานะคนรักเท่านั้นเอง"
ขยายความคำว่าแยกกันอยู่ให้ฟังหน่อย ?
เมญ่า : "จริงๆ ไม่เชิงแยกกันอยู่"
พ่อของน้องเบฬินว่ายังไงบ้าง ?
เมญ่า : "เขาก็ไม่อยากที่จะให้เป็นแบบนี้ ในความรู้สึกเขา เขาก็ยังรักเราอยู่ คิดว่าสามารถที่ยังจะแก้ไขให้เป็นแบบเดิมได้อยู่ แต่สำหรับเราอยู่ตรงนั้นเราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ไม่ได้ทำให้เราสบายใจพอที่จะอยู่ตรงจุดนั้น เราก็เลยเลือกที่จะคุยกับเขาถามเค้าว่าถ้าเราต้องการอย่างนี้เขาโอเคมั้ย"
ตอนนี้เมญ่าอยู่ไทยหรือสเปน ?
เมญ่า : "ตอนนี้เพิ่งกลับมาไทย เขาก็กลับมาไทยทำงานอยู่ เค้ากลับมา 1 เดือน แล้วเดี๋ยวเขากลับไป"
กลับมาเมืองไทยอยู่ด้วยกันมั้ย ?
เมญ่า : "ตอนนี้พ่อเค้าอยู่โรงแรม เมญ่าอยู่กับลูกที่บางนา ในเมืองสะดวกกับเค้าเวลาทำงานมากกว่า"
เมญ่าเป็นคนเริ่มไอเดียนี้ เป็นคนบอกเค้า เขาช็อกมั้ย ?
เมญ่า : "ช็อกค่ะ เขาช็อกตั้งแต่ไม่ใส่แหวนแล้ว ถอดนานแล้ว"
แสดงว่าการที่เราไม่ใส่แหวนปัญหาก็ค่อนข้างหนัก ?
เมญ่า : "ใช่ค่ะ เพราะตั้งแต่แต่งงานไม่เคยถอดแหวนเลย เรารู้สึกว่าการใส่แหวนเป็นการรักษาสัญญาซึ่งกันและกัน ในเมื่อวันหนึ่งเรารู้สึกว่าคุณไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเราตั้งแต่ก่อนแต่งงานจนวันแต่งงานแล้ว มันก็ไม่จำเป็นต้องใส่แหวนนี้ต่อไป"
ไม่รักษาสัญญาเรื่องอะไร ?
เมญ่า : "ไม่อยากเข้าลึกถึงราละเอียดแต่มันเป็นความรู้สึกของคนที่ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตคู่กับคนคนหนึ่ง แล้วก็มีการวางแผนที่ดีแล้ว แล้วก็รู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร เขาแฮปปี้กับอะไรไม่แฮปปี้กับอะไร"
แยกกันอยู่หมายความว่าต่างตนต่างที่จะมีคนใหม่ได้มั้ย ?
เมญ่า : "ต้องอยู่ในการตกลงในระดับต่อไป แต่ตอนนี้ไม่ได้เริ่มคุยถึงขั้นนั้น แค่เรายังโฟกัสกันอยู่แค่สองคน แต่ตอนนี้แค่เราถอยมาดูควาสัมพันธ์ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนรักแค่นั้นเอง"
แสดงว่าอนาคตก็มีสองทางคือ อยู่หรือแยกกันไปมีคนใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ?
เมญ่า : "ถูกต้องค่ะ"
ตอนนี้ก็คืออยู่ในระยะเวลาตัดสินใจแบบร้อยเปอร์เซ็นอีกรอบ ?
เมญ่า : "ใช่ค่ะ"
พอมีปัญหาแบบนี้รู้สึกมั้ยว่ามันยากขึ้นในการตัดสินใจเพราะเรามีลูก ?
เมญ่า : "ถามว่ามีส่วนมั้ยก็มีส่วนที่ยากขึ้น เพราะเราก็ไม่ได้ตัวคนเดียว แต่ในมุมของเมญ่าที่ใช้ชีวิตมาตั้งแต่เด็กเราเห็นผู้หญิงรอบตัวแล้วแม้แต่กระทั่งครอบครัวเราเองต้องอยู่เพื่อทนให้มีคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์แต่จริงๆแล้วการที่เค้าอยู่แล้วอดทนมันมีอะไรหลายๆอย่างที่มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี มีหลายๆอย่างที่อาจมากระทบกับความรู้สึกของลูกโดยที่เค้าไม่รู้ตัวนั่นคือสิ่งที่เค้าพยายามจะทำให้ครอบครัวเป็นไปอยางที่สมควรจะเป็น แต่เค้าอาจจะเผลอหลุดหลายๆอย่างออกมาทำให้เด็กซึมซับว่าจริงๆแล้วพ่อ แม่ ไม่ได้อยู่เพื่อให้เค้ามีความสุข เพราะที่เป็นอยู่พ่อแม่อาจจะทะเลาะกัน ไม่รักกัน อาจจะทำอะไรไม่ดีแล้วทำให้ลูกเห็น สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ลูกเป็นคนมีคุณภาพในอนาคต"
การตัดสินใจครั้งนี้เอาลูกเป็นที่ตั้ง อยากให้คุณภาพชีวิตของลูกมีคุณภาพที่ดี?
เมญ่า : "ถูกต้องค่ะ"
วัฒนธรรมกับอายุของเราที่ต่างกันมีส่วนเกี่ยวข้องมั้ย ?
เมญ่า : "ไม่มีส่วนเลย เพราะว่าเราใช้เวลาคบกันมาซักพักนึง เมญ่าไม่มองว่าวัฒนธรรมที่แตกต่างจะมีผลมาก เราค่อนข้างที่จะไปทางเดียวกับเขา แล้วก็มีความคิดเดียวกันที่จะเลี้ยงลูกไปในทางนี้เหมือนกัน กับอายุที่ต่างกันก็ไม่มีปัญหา เพราะเราก็ค่อนข้างโตกว่าอายุในความคิด การที่เราคบกับเขาเป็นเหมือนบาลานซ์ชีวิตของเราให้ไปในทางเดียวกันได้"
ตั้งแต่ประกาศแยกทางกับสามี มีคนเข้ามาจีบหรือยัง ?
เมญ่า : "ถามว่ามีมั้ย เราก็ไม่ได้ขี้เหร่มาก ก็มีคนเข้ามาทักบ้าง แต่เราก็ยังไม่ได้เปิดใจอะไรให้ใคร เราก็ยังโฟกัสซ่อมบำรุงครอบครัวเราอยู่"
แสดงว่าสถานะตอนนี้ ต่อให้มันเป็นอย่างนี้มันก็ยังมีความรู้สึกเราก็ยังอยากซ่อมบำรุง ?
เมญ่า : "ตัวเขาค่ะ ตัวเขาพยายามซ่อมบำรุงอยู่ตอนนี้"
แต่ดูเหมือนเมญ่าจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ?
เมญ่า : "ปัญหาที่เกิดขึ้นมันอยู่ที่เขา ที่เมญ่าเลือกออกมาเพราะเค้าทำหน้าที่สามีได้ไม่ดีพอ เพราะว่าเขาไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้ดีพอ ฉะนั้นการที่เขาจะกลับมาในชีวิตเราเขาก็ต้องพิสูจน์ เหมือนเขาเคยเป็นโลกทั้งใบของเรา พอวันนึงแล้วตัวเขาเองเป็นคนทำร้ายโลกทั้งใบใบนั้น"
แล้วทุกวันนี้เขาพิสูจน์ตัวเองยังไงบ้าง ?
เมญ่า : "เห็นความพัฒนาขึ้นแต่ยังไม่ได้ดีพอที่จะกลับมรักเขาได้แบบเดิมในแบบที่เราเคยให้เขา"
เราทิฐิไปมั้ย ?
เมญ่า : "ไม่ค่ะ หนูเป็นคนง่ายที่สุดในบรรดาผู้หญิงบนโลก ไม่ทะเลาะเรื่องไร้สาระ คู่เราไม่ทะเลาะกันเลย ทะลกันน้อยมาก ด้วยเหตุผล แล้วเมื่อไหร่ที่เมญ่าหลุดอะไรออกไปเมญ่ขอโทษ บ้านเราไม่มีการใช้กำลัง บ้านเราไม่มีการด่าหยาบคาย เพราะรู้สึกว่าการที่เราสองคนทะเลาะกันควรคุยด้วยเหตุผล ต้องมีสติพอ จะไม่เอาเวลาที่เราปี๊ดอยู่แล้วเราไปคุยกับเขา เราตกผลึกเป็นเดือนๆ สติเราพอมั้ย เราคุยกับเขาแล้วเขาจะมีข้ออ้างอะไรมั้ย"
แสดงว่าตอนนี้นอนคนละบ้าน ?
เมญ่า : "ไม่ค่ะ ตอนที่อยู่ต่างประเทศก็นอนเตียงเดียวกันนะ เค้าบอกว่าเค้าไม่ขอแยกเตียงนอน เค้ายังแฮปปี้ที่จะนอนเตียงเดียวกับเรา"
ไม่ใจอ่อนบ้างเหรอ ใกล้ชิดกันมาก ?
เมญ่า : "ไม่ค่ะ บางทีก็คิดนะว่าอย่างที่เขาเรียกว่าห่างกันเหรอในเมื่อห่างกันแต่นี้เอง แต่เราก็ไม่มีจูบ ไม่มีกอดอะไรเลย"
ทำวันนี้เจอกันอาทิตย์ละกี่วัน ?
เมญ่า : "แล้วแต่ค่ะ เขากลับมาเมืองไทยทำงานหนักมาก ก็จะเป็นช่วงที่ว่างจากการทำงานก็จำถามเขาว่าอยากเจอลูกมั้ย เขาก็เจอ"
พอกลับมาเมืองไทยเขารู้อยู่แล้วเมญ่าเป็นคนดังในประเทศไทย ต้องมีคนมอง มีคนสัมภาษณ์ ได้ตกลงกันมั้ยว่าเราจะพูดยังไง ?
เมญ่า : "ได้คุยค่ะ เหตุผลที่หนูต้องประกาศเพราะหนูต้องการความชัดเจนให้คนเห็น เพราะว่าในขณะที่เราอยู่เมืองไทยทำงานคนก็จะถามว่ามีปัญหากับครอบครัวหรือเปล่า เลิกกับสามีจริงมั้ย หลายๆคำถามทำให่เรากดดันมั้ย เรากดดันนะ ในขณะที่เราก็ไม่รู้จะทำอะไรให้ชัดเจน ก็เลยต้องประกาศให้ชัดเจนในจุดที่ว่าอย่าถามอะไรเรามากเลย เพราะตอนนี้เราเป็นแบบนี้นะ แล้วเราก็ผ่านความทุกข์กันมาพอสมควร มาถึงจึดนี้เราชัดเจนในจุดที่ว่าเราต้องการลดสถานะในความสัมพันธ์นะ แต่ยังไม่ได้หย่ากัน ซึ่งตอนที่ประกาศออกไปคนส่วนใหญ่คิดว่าเราหย่ากันแล้ว เลิกกันแล้ว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้ว ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่"
ยังรักเขาอยู่มั้ย ?
เมญ่า : "รักมั้ยเหรอ เราใช้เวลากันมาค่อนข้างพอสมควรแล้วเรามีสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตเราก็เพราะเขา รักมั้ย ก็ยังต้องมีรักแต่มันไม่เท่าเดิมเท่านั้นเอง"
แล้วเขายังรักเราอยู่มั้ย ?
เมญ่า : "รักค่ะ เราเห็นชัดเลยว่าเขารัก เขาพูดเสมอว่ายังรักเราอยู่ แต่ทำไมเรารักเขาไม่ได้"
นอนเฉยๆ จริงเหรอ
เมญ่า : "ไม่มี นอนจริงๆ"
ตัวสามีเองเขาก็ต้องมีพยายามบ้างแหละ?
เมญ่า : "วันสุดท้ายก่อนกลับมีจูบกัน เป็นจูบแรกที่ไปถึงเป็นเดือนเลย มาจูบแรกวันนั้น เขาคงคิดอะไรได้หลายอย่างว่าอาจจะเป็นวันสุดท้ายแล้วมั้ง แล้วเขาก็ขอโทษว่าที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้"
แสดงว่าไม่คิดจะกลับไปสเปนอีก ?
เมญ่า : "กลับค่ะ ลูกต้องใช้เวลาอยู่กับพ่อ เพราะเรายังเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ การที่เมญ่ากลับมาเมืองไทยแล้วมางานในสิ่งที่เมญ่าคิดถึงแล้วก็รัก มันอาจจะต้องใช้คำว่างานเป็นหลักแทนที่จะเป็นเค้า เพราะเมื่อก่อนเมญ่าให้เค้าเป็นหลัก"
เป็นเพราะน้องหมาหรือเปล่า เพราะเขารักน้องหมามาก?
เมญ่า : "ไม่เกี่ยวค่ะ ถ้างั้นคงไม่แต่ง"
สิ่งที่จะทำให้ผู้หญิงตัดสินใจได้ขนาดนี้มันก็ไม่พ้นบุคคลที่สาม ?
เมญ่า : "เราจะไม่พูดถึงจุดนั้น"
ช่วงแรกที่แยกกันอยู่ถึงขั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับเลย ต้องพึ่งยานอนหลับมั้ย มันดีขึ้นมั้ย ?
เมญ่า : "ถ้าพูดตรงๆ ก็พึ่ง ก็แค่ได้หลับ ความทุกข์ของผู้หญิงเมื่อต้องเจอกับความทุกข์มากๆ เราก็ต้องจมดิ่งตรงนั้นซักพักจนกว่าเราจะคิดได้ เมญ่าโชคดีอยู่อย่างที่เราไม่แตะแอลกอฮอลล์อยู่แล้ว การที่เราไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอลล์เพื่อลืมความทุกข์หรือเลื่อนความทุกข์ไปเรื่อยๆ ทำให้เราใช้เวลากับความทุกข์ตรงนี้สั้นกว่าคนอื่น เรามีสติเร็วกว่าคนอื่น ทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น"
ก่อนหน้านี้เราให้โอกาสเขามั้ย ?
เมญ่า : "ให้โอกาสค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เป็นปัญหาหลักใหญ่ๆ แล้วเราก็คุยกับเขาแล้วว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าย้อนไปครั้งแรกคือตอนที่ก่อนที่จะถ่ายรายการ (คุยแซ่บShow) ที่เจอลูกตอน 19 วัน"
คนมองว่าเมญ่าเป็นผู้หญิงเพอร์เฟค คิดมั้ยว่าการใช้ชีวิตคู่เรามีจุดผิดพลาดตรงไหน ในมุมของเราเอง ?
เมญ่า : "ในมุมของเราเอง จากวินาที่แรกที่เราเป็นแฟนเขา จนมาเป็นภรรยาเขา จนมาเป็นคนนรักของเขา เชื่อว่าไม่มีอะไรที่พลาดเลย เพราะตั้งใจที่จะสร้างครอบครัวกับเขา ก็รู้ว่าอะไรที่เขาชอบ เอาใจเขาใจเรามาใส่กันตลอด ทำครอบครัวของเราให้เป็นครอบครัวที่เคยคาดหวังเอาไว้ เมญ่าคิดว่าเมญ่าจะทำอะไรพลาดที่จะเสียครอบครัวของเราไป เราก็ถามเขาว่าที่เราอยู่เราเคยทำอะไรพลาดหรือเปล่า เราทำหน้าที่เราไม่ดีพอหรือเปล่า เค้าก็บอกว่าไม่มีเลย"
คุณแม่ให้กำลังใจยังไงบ้าง ? แม่รู้คนแรกๆเลยมั้ย ?
เมญ่า : "รู้คนแรกๆ เลย ครอบครัวรู้เป็นคนแรกๆ เลย แล้วก็เพื่อนสนิท ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ฟังเราให้กำลังใจ ในช่วงเวลาที่ทุกข์มากๆ เก็บไว้คนเดียวมันก็ยาก คนรอบข้างให้กำลังใจและคอยแนะนำ มันทำให้เรามีตัวเลือกในความคิดหลายๆอย่าง และทำให้เราตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง"
แม่เป็นคนสมัยเก่าเขาบอกมั้ยว่ให้อยู่ๆไปเถอะ ?
เมญ่า : "บอกค่ะ เค้าบอกว่าให้อยู่เพื่อลูก หนูก็บอกว่าการที่อยู่เพื่อลูกทำให้ลูกทรมาน"
ถ้าลูกโตขึ้นอีกหน่อยจะเล่าให้ฟังมั้ย ?
เมญ่า : "ไม่ใช่เรื่องที่จะเล่าให้เด็กฟัง เรื่องปัญหาพ่อแม่นะ ถ้าเค้าถามก็ตอบกว้างๆ ไม่ละเอียดอะไรมาก ไม่ใช่เรื่องที่ลูกจะมารับฟังอะไรแบบนี้"
ถ้าสามีดูอยู่อยากจะบอกอะไรกับเขา ?
เมญ่า : "ล่าสุดเราก็คุยกับเค้าเรียบร้อยแล้ว เราเสียใจที่มันต้องมาอยู่ในจุดนี้ เราก็ทำเต็มที่แล้ว ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นโลกทั้งใบและเป็นสิ่งที่เรารักมากที่สุด พอมันเป็นแบบนี้มันค่อนข้างที่จะรักษาความรักของเราไปด้วยกัน เค้าเองก็เสียใจ การที่จะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมถ้ามันเป็นไปได้มันก็คงจะดี แต่ว่าเขาคงอาจจะต้องใช้เวลาซักพักนึงเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่คนๆ นึงที่รักได้ขนาดนี้จะรู้สึกหมดใจได้ขนาดนี้"
ตอนนี้ยังอยู่ในสถานะที่รอเขาอยู่มั้ย ?
เมญ่า : "ไม่เรียกว่ารอมั้ย เรียกว่าอยู่อย่างมีความสุขมั้ย ตอนนี้มีความสุข ใช้เวลาเต็มที่กับการที่จะมีความสุขและได้เลี้ยงลูกอย่างมีความสุขมากกว่า เมญ่าต้องการเลี้ยงเบฬินให้เป็นเด็กที่มีคุณภาพ การที่จะเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพคุณแม่ต้องมีความสุข ถ้าเรามีแต่ความเครียด ความกดดัน เมญ่าเชื่อว่าสิ่งที่เรามีมันต้องแอบเผลอออกไปจากที่เราเลี้ยงลูกแน่นอน"
อยากจะให้กำลังใจผู้หญิงทั่วประเทศไทยที่ต้องเจอสถานะกดดันในเรื่องครอบครัว ?
เมญ่า : "ผู้หญิงทุกคนไม่มีใครอยากให้ครอบครัวที่เรารู้สึกว่าเราต้องอดทน หรืออยู่ในจุดที่ทรมาน แต่เมื่อวันนึงเราต้องเจอ เมญ่าไม่อยากให้ใช้คำว่าอดทนกับความรัก เพราะความรักคือสิ่งที่สวยงาม ต่างคนต่างช่วยกันสนับสนุนทางของแต่ละคนไปในทางที่ดี ทำให้ความรักของแต่ละคนแข็งแรง มองใจเค้าใจเรา นั่นคือความรักที่สมบูรณ์ ไม่ใช่ความอดทนเพื่อให้ครอบครัวไปกันได้"