เปิดปาก จตุรงค์ เล่าเหตุผล ใบเฟิร์น เลิกแฟน ยินดีหากนิคกี้ เป็นลูกเขย (คลิป)
จตุรงค์ : เป็นวันที่เจอแม่แล้วสวมกวดกัน เค้ามีเพลงบิ้วท์ด้วย อารมณ์มันได้ เราถ่ายคลิปไปก็ร้องไห้ไป
น้องพีอายุเท่าไหร่แล้ว ?
จตุรงค์ : ทหารใหม่ 21 ตอนที่เล่นตลกประมาณ 4-5-6 ขวบ ประมาณนี้
ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าพี่รงค์ทอดทิ้งไม่ดูแลน้องพี ?
จตุรงค์ : ไม่ได้ทอดทิ้ง ชีวิตครอบครัวเค้าอยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด พ่อแม่เค้าวันที่น้องพีเริ่มมีชื่อเสียงเค้าก็ขอแยกตัวไป เราก็โอเค แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จก็แค่นั้นเอง
น้องพีเป็นลูกของใคร ?
จตุรงค์ : ลูกของน้องชาย ไม่แท้ ๆ พ่อมันกับตัวพีเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดพ่อมันเป็นลูกของน้าสาว น้าสาวคลอดพ่อมันแล้วก็เอามาให้แม่เราเลี้ยง ก็กลายเป็นคนในบ้านเรา
ตอนที่เอาน้องพีมาเล่นตลกเห็นแววอะไรของน้องพี ?
จตุรงค์ : ก็มันทำท่าตลก ชอบเต้นทำท่าตลก มันน่ารักก็เลยปั้นให้เป็นแนวตลก ช่วงนั้นก็มีทิปมีค่าตัวมีรางวัล พ่อแม่มันมีรายได้เยอะมากเลยนะ เรื่องเงินไม่ต้องห่วงเกิดมาในชีวิตลุงรงค์ไม่เคยโกงใคร ก็ยกให้เค้าไปหมด แต่พ่อแม่เค้าบริหารระบบการเงินไม่เป็น พอน้องพีหายไปก็มีข่าวว่าทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์ ขาดน้องพีแล้วลุงรงค์จะแย่ ลุงรงค์ก็อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งแก่ยิ่งงานเยอะ
ตอนนั้นเราวางแผนให้น้องพีไปถึงไหน ดาวรุ่งตลกเลยมั้ย ?
จตุรงค์ : ไม่วางแผนอะไรทั้งนั้นขอให้พ่อแม่เค้ามีรายได้เท่านั้นเอง ได้เงินมาให้พ่อแม่เค้าเก็บ แต่เรื่องของเรื่องมันบริหารไม่เป็น สุดท้ายตังค์มันก็หมดแล้วสุดท้ายเค้าก็กลับมาอยู่กับเรา
พอกลับมาไม่ให้น้องพีเล่นตลกแล้วเหรอ ?
จตุรงค์ : มันไม่ได้แล้ว มันไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วมันไม่มีคาเฟ่แล้วด้วย
แสดงว่าข่าวที่เม้าท์กันก่อนหน้านี้ว่าพี่รงค์ทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์ในการแบ่งค่าตัวไม่เป็นความจริง ?
จตุรงค์ : ไม่มีหรอก มันเป็นข่าวทั้งนั้นแหละแล้วแต่ใครจะพูด แล้วแต่ใครจะคิดอะไร
ขนาดตอนที่ให้น้องพีมีงานเยอะ ๆ ก็ยังโดนเม้าท์ว่าใช้แรงงานเด็ก ?
จตุรงค์ : ก็มีข่าวบ้างว่าเราเอาเด็กไปอดหลับ อดนอน แต่เราอยากจะบอกว่าอดหลับ อดนอน แต่แม่เขามีรายได้นะ เด็กเราก็บริหารอย่างดี เราให้นอนก่อนนะหัวค่ำ กลับไปได้นอน ได้เรียนหนังสือ เรื่องการเงินยกให้เขาหมดเลย เราไม่เคยไปยุ่ง
พอเขาบอกว่าเขาจะออกไปเอง ไปเติบโตเอง ลุงรงค์ตัดหางปล่อยวัดเลยไหม ?
จตุรงค์ : นั่นแหละ ตอนนั้นเรามีความรู้สึกว่ามันไม่น่าเลย แต่ว่าเราจะไปทำอะไรมันได้ พ่อ แม่มันก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มาพูดคำนี้เราก็แล้วแต่ แล้วออกจากบ้านเราไป อันดับแรกต้องไปหาเช่าบ้าน อยู่บ้านเราไม่เสียค่าอะไรทั้งนั้น พอออกไปต้องรับผิดชอบชีวิตทั้ง พ่อ แม่ ลูก
ไม่ได้ตัดหางปล่อยวัดใช่ไหม ?
จตุรงค์ : บ้านมันมีข่าวไปอยู่วัด บ้านมันอยู่ตรงข้ามวัด ไอพีไปหาหลวงพ่อ แล้วหลวงพ่อบอกน้องพีขึ้นมาช่วยพูดไมค์หน่อย ก็เลยเป็นข่าวว่าน้องพีไปอยู่วัด นี่เป็นเรื่องราวที่คนไม่เข้าใจเขาคิดมาต่างต่างนานา
จากวันนั้นถึงวันนี้ มีพูดคุยกันไหม ?
จตุรงค์ : ไม่พูดคุยหรอก พ่อแม่มันรู้อยู่แก่ใจว่ากลับมาหาพี่รงค์นะ มันเป็นเรื่องที่ผ่านมาผมพลาดไปแล้ว แล้วลุงจะพูดให้มันเสียใจทำไมล่ะ มันไปไม่ได้ไปได้ดีไง ปล่อยผ่านไป
เขากลับมาเราก็ให้กลับ ?
จตุรงค์ : ให้กลับ แล้วก็มีเงินเดือน มีรายได้ ทั้ง 3 คน พ่อ แม่ ลูก อยู่ในครัวลุงรงค์เลย
แล้วตอนนั้นที่เขาออกไป เขาไปทำอะไรกัน ?
จตุรงค์ : พ่อเขาก็ไปทำแอร์ พีก็เรียน แม่ก็เป็นแม่บ้าน
ถามเรื่องแม่หน่อย ?
จตุรงค์ : แม่เสียไปแล้ว แรก ๆ มันก็เฟล วันที่แกอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือน แล้ววันที่จะไป ไม่ไป เราก็ขับรถขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา ไปถึงปั๊บเป็นจังหวะที่หมอปั๊ม เราแบบปล่อยโฮ ไม่เคยปล่อยโฮอะไรขนาดนี้ แต่ด้วยเวลามันผ่านไป เราก็ทำใจได้ว่าถึงเวลาแล้วแกก็ต้องจากเราไปอยู่ดี สุดท้ายก็ทำใจได้
วินาทีที่อยู่กับแม่วินาทีสุดท้าย เล่าให้ฟังหน่อย ?
จตุรงค์ : วินาที่ที่สัญญาณติ๊ด ๆ ๆ ๆ คุณหมอก็บอกว่าแกจะไปแล้ว ก็จับมือแล้วน้ำตาก็ติ๋ง ๆ เหมือนในหนัง เสร็จเรียบร้อยก็ไป พอไปเสร็จก็ร้องไห้กอดแม่ สักพักหนึ่งสัญญาณมาอีก แม่ยังไม่ตาย เขาบอกว่าลมให้ใจค้างเก่า เราตกใจ เราไม่รู้คิดว่าแม่ยังไม่ตาย
ช่วงที่คุณย่าไม่สบาย เฟิร์นเป็นห่วงคุณย่ามาก แล้วรักคุณย่ามาก เฟิร์นรักครอบครัวมาก ?
จตุรงค์ : เลิกกับแฟนก็เพราะย่านี่แหละ เพราะมันไม่ไปไง พอไม่ไปเฟิร์นก็เลยโกรธ ย่าอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือนไม่มาเลย เฟิร์นก็เลยย้อนกลับไปดูเรื่องราวว่ามันเป็นคนอย่างนี้ เฮ้ย...มันไม่ใช่แล้ว อะไรอย่างนี้ แล้วจบตั้งแต่บัดนั้นถึงบัดนี้ ตั้งแต่แม่ตายอะ
หลายคนบอกว่าที่เขาไม่กล้าไป เพราะลุงรงค์ไม่ชอบเขา ?
จตุรงค์ : บ้า ก่อนหน้านี้ไปบ่อย แล้วเจอหน้ากันตลอด ลุงไม่ได้แสดงอะไรเลย แค่เวลาเจอหน้าแบบ มึง...อะไร จริง ๆ ลุงไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น ลุงเป็นคนบันเทิง ลุงไม่ได้เป็นคนดุนะ แต่บางครั้งคนกลัวเอง
เขาบอกว่าลุงรงค์ห่วงเฟิร์น ?
จตุรงค์ : ห่วงทั้งนั้นแหละ ไม่มีพ่อคนไหนไม่ห่วงลูกหรอก อยากให้ลูกดี ๆ ไม่อยากปล่อย แต่ตอนนี้ไม่ปล่อยไม่ได้แล้ว เพราะเขาอายุ 30 แล้ว
กับความรักครั้งนั้นเฟิร์นเสียใจไหม ?
จตุรงค์ : แรก ๆ มันคงเสียใจ เพราะดูสภาพมันแล้วคงเสียใจ บางทีเราให้กำลังใจมัน มันยังทะเลาะกับเราเลย
พี่เคยบอกว่าอยากให้เฟิร์นเป็นโสดตลอดชีวิต ?
จตุรงค์ : พูดเล่นมั้ง ตอนนี้อยากให้มีมากเลย มัน 30 แล้ว ถ้า 40 อัปมันจะเป็นยังไง มันก็ไม่ไหว เหี่ยว ๆ แล้วผู้ชายจะเอาเหรอ
ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นนิกกี้ ?
จตุรงค์ : นิกกี้มันเป็นการแสดง อย่าไปเชื่อมัน แต่นิกกี้ก็โอเค ก็เอา นิกกี้เป็นคนทะลึ่ง เฟิร์นเป็นคนทะลึ่ง เวลามันรวมตัวกันลูกออกมาจะกลายเป็นอะไร มันก็ทะลึ่งไปใหญ่
ตอนนี้มีสเปคลูกเขยในใจไหม ?
จตุรงค์ : ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย อะไรก็ได้ที่เฟิร์นชอบ ที่เฟิร์นโอเค แต่ก่อนลูกผมต้องมีแฟนเป็นคนดี แล้วต้องมีเงินด้วย แล้วก็ค่าสินสอด 2 ล้าน ลืมไปซะ วันนี้ลูกเขยเป็นอะไรก็ได้ ถ้าตลกก็ดี ถามว่าทำไมเปลี่ยนไป ก็เคยโดนด่าว่าอยากได้ลูกเขยรวย