น้องแนทดารา AV ตัวแม่ เปิดใจถึงผู้ชายคนที่ทำให้เสียน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย

"คำว่าแก้ผ้าในที่นี้ ต้องบอกว่าไม่ได้เพิ่งมาเกิดในยุคแนท มันเกิดมาในยุคดาราหลายคน ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงที่เราให้ความเคารพรัก แต่มันอาจไม่ได้มีข่าวกระฉ่อนเหมือนเรา เราก็เลยโอเค ถ้ามันเป็นยุคของเราก็ต้องยอมรับ สิ่งสำคัญคือแน๊ตทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของแนทเอง ถ้าเราทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรง แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ต้องแยกเป็นสองประด็น หนึ่งเรายอมรับในสิ่งที่เราทำผิด สองนี่คือเส้นทางอาชีพของเรา เราต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพเราด้วย แต่ตัวตนแนทจริงๆ เป็นคนง่ายๆ อยู่ง่ายๆ กินง่ายๆ แต่ไม่ได้เข้ากับใครก็ได้ เพราะเราโตมาในเส้นทางที่เราใช้ชีวิตคนเดียว ฉะนั้นจุดสำคัญของแนทคือโปรเทคตัวเองด้วย เพราะเราเชื่อว่าใครเข้ามาหาเรา คลุกคลีกับเรา เขาอาจไม่ได้รู้จักตัวตนเราที่แท้จริง คนภายนอกมอง อาจเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วยกับเราก็ได้"

"(หัวเราะ) ต้องบอกเลยว่าที่แนทเกิดมาได้ หนึ่งต้องบอกว่าน้าแอ๊ดมีพระคุณกับแนทมากค่ะ เพราะเขาส่งแนทประกวดมิสฮาเล่ย์ แล้วแนทก็ได้รับตำแหน่งมิสฮาเล่ย์มาในปีนั้น แข่งกับสาวๆ ที่พัทยาเยอะแยะมากมาย เราได้ตำแหน่งมาทั้งที่โนเนมมาก คนอื่นแต่งตัวเซ็กซี่ แนทอ้วนตุ้ยนุ้ย ใส่กางเกงยีนส์ เสื้อกล้ามธรรมดาไป"

"วงการนางแบบ พริตตี้ ไม่ได้อยู่แค่จุดเล็กๆ มันเยอะมาก เราดันรู้จักคนในวงของพริตตี้เยอะ คนที่ดูแลเรา สไตลิสต์เขาจะทำงานวงการนี้โดยตรง หูตาเราจะไว ก็จะมีคนเอาเรื่องมาบอกเราได้ แม้กระทั่งก่อนเป็นแฟนผู้ชาย แฟนทอมก็เหมือนกัน ได้กับเพื่อนนางแบบของแนท"

"ก็ไม่ยังไง ก็เฉย เพราะทราบอยู่แล้ว แต่มันถึงขั้นที่ว่าผู้หญิงโทร.มาเย้ยให้เราฟังเสียง ว่าอยู่ด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ซึ่งเหมือนเรามีกรรมเรื่องพวกนี้ ตั้งแต่รุ่นคนสมเจตน์ แฟนที่เป็นดารา เขาไปติดแม่หม้าย แม่หม้ายนี่ก็ร้ายค่ะโทรมาให้ได้ยินว่ากินข้าวด้วยกัน ตอนเด็กเราแรง เราตามเลยค่ะ" 

"ไม่ได้จัดการค่ะ เราเคยคุยกันแล้ว มีข้อตกลงกันตั้งแต่แรกแล้ว พอคุณผิดข้อตกลงที่แนทให้ แนทก็ไม่ตาม ไม่ถาม ไม่จี้ เพียงแต่เราเคยคุยกันว่าคุณจะกลับไม่กลับบอก จนเขาหายไปสองวันกลับมา ก็ถามเราว่ากินข้าวยัง ทำดีกับเรา เราก็ถามกลับไปว่าคุณเหนื่อยมั้ย แทนที่เราจะโกรธเราถามเหนื่อยมั้ย อยากพักผ่อนมั้ย ตอนนั้นใจแนทไปแล้ว ไม่อยู่ด้วยแล้ว แต่อยากทำดีให้เขาเห็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ไปเลย" 

"ไม่ได้มีข้อบกพร่องค่ะ เพียงแต่ว่านิสัยผู้ชายเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว และเราก็เป็นคนที่ยอม ไม่ใช่ว่าผู้ชายไม่ดี แต่บางทีผู้หญิงก็แรง พอรู้ว่าเราโอเพ่น ผู้หญิงก็อยากเป็นหนึ่งในจุดที่เราอยู่ และแนทไม่เคยคบแฟนที่ไม่มีตังค์(หัวเราะ)"

"ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องรวย แต่เขามีตังค์อยู่แล้ว ขับพอร์ช ขับอะไรมา พอเป็นแบบนี้ ผู้หญิงหลายคนก็พร้อมแตกหักกับเรา เขาพยายามทำทุกอย่าง แต่คุณไม่ต้องเลือก แน๊ตไปเอง แต่สุดท้ายผู้ชายก็ต้องทิ้งผู้หญิงคนนั้น มาเอาเรา แต่ใจเราไปตั้งแต่แรกแล้ว มันไม่อยู่แล้ว แนทยอมกลับมานะ แต่อยู่ไม่นานก็ไปอีก"

"เอาเป็นว่าเขาเป็นคนที่ทำให้แนทร้องไห้ครั้งสุดท้ายกับความรัก แต่นานเป็น 10 ปีแล้วค่ะ รักมาก เป็นคนสอนให้แน๊ตรู้เรื่องการวางตัวทางสังคม สอนแนทให้รู้จักคำว่าเจ็บแล้วต้องจำ และไม่ควรทุ่มเทความรักให้ใครมากขนาดนี้"

"ก็คนนี้แหละค่ะ ที่พาผัวฝรั่งมาให้แน๊ต (หัวเราะ) กับฝรั่งที่ไปกันไม่รอด ระยะเวลา และระยะทางมันไกลกันมาก พอไม่ได้เจอ ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ความผูกพันมันไม่มี มันเหมือนพ่อดูแลลูก หรือญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เป็นลุงที่เราต้องดูแล ทีนี้เรื่องเซ็กซ์มันก็รู้สึกไม่อยากยุ่งกับคนที่เราเคารพ ก่อนหน้านี้ที่มาถี่ๆ แต่กลายเป็นงานเขายุ่ง งานเราก็ยุ่ง ปีนึงกลับมาเจอกันครั้งเดียว ความผูกพันก็ไม่มีค่ะ"

"ถ้าเหนื่อยก็ไม่แซ่บค่ะ (หัวเราะ) คนเราไม่มีทางเซ็กซ์แซ่บตลอดเวลาได้แน่นอน ถ้าเราเหนื่อยๆ มาแฟนต้องการเรื่องเซ็กซ์ แนทก็นอนอย่างเดียวเหมือนกันนะคะ  แต่ถ้าบางทีอารมณ์เราได้ ยังไงก็แซ่บค่ะ บอกเลย ตีหัว ฟาดหาง ฟาดหางจระเข้ยังไงได้หมด ผู้ชายต้องยอมค่ะ (หัวเราะ) แต่ถ้าแนทเหนื่อยมากๆ ก็ไม่ไหว"

"ก็ไม่ได้สักบาทนะคะ (หัวเราะ) แต่ก็ว่าคนคิดแบบนี้ไม่ได้ เราทำอาชีพนางแบบ เขาก็มองว่าคนแบบเราไม่มีตังค์หรอก แต่งงานไปก็ต้องการจับผู้ชายรวยๆ แต่ไม่ใช่ แต่เราแค่มีคนที่อยู่ในระดับนั้นมาจีบเรามากกว่า เพราะสังคมแนทต้องบอกว่าถูกโยงมาตั้งแต่แฟนที่เป็นบินิเนส อสังหาริมทรัพย์ และแฟนฝรั่งที่อยู่ในวงการสถาปนิก มันพ่วงกันมาหมดค่ะ ส่วนใหญ่ก็มีตังค์ค่ะ"

"ตลาดบนคืออะไรคะ เขาคงมองแค่ปัจจัยภายนอก แต่แนทเรียนบริหารมา รู้จักเอาความรู้การศึกษาของการเรียนมาพัฒนาตัวเองมากกว่า ต้องทำยังไงให้เราสามารถทำงานต่อไปได้ในอาชีพนี้แนทไม่ได้บอกว่าจะทำงานยังไงให้อยู่ในอาชีพนี้ เหมือนธุรกิจ ต้องทำให้มันพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แนทก็ต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ"

"แนทไม่ได้บอกว่าคนทุกคนไม่มีศักดิ์ศรีนะคะ เมื่อไหร่คุณทำงานหาเงินมาได้ด้วยตัวเอง ไม่เดือดร้อนพ่อแม่ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน หรือแม้กระทั่งคุณสามารถนำเงินคุณไปใช้ประโยชน์ได้ถูกที่ถูกทาง นั่นคือคุณมีศักดิ์ศรีมากแต่เมื่อไหร่คุณยังต้องเดือดร้อนพ่อแม่ ขอเงินพ่อแม่ แล้วคุณมาดูถูกคนอื่น คุณต้องย้อนกลับไปดูว่าศักดิ์ศรีคุณมีพอแล้วหรือยังคะ"

"จะบอกว่าโลกโซเชียลกับโลกความเป็นจริง มันต่างกันมากนะคะ โซเชียลอาจดูโหดรายที่คนดูถูกเรา แต่พอเจอคนส่วนใหญ่ผู้ชายหรือผู้หญิงจะกรูมาหาเรา ขอถ่ายรูปเรา บอกว่าเป็นแฟนคลับ เอฟซี เราก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเคยด่าเราหรือเปล่าเพราะเราไมเคยใส่ใจโซเชียล แต่เราเจอเขาแล้วเขาเขินอาย ที่ได้อยู่ใกล้ๆ เรา"

"ใชค่ะ แนทไม่ดูขยะนอกบ้าน โดยเฉพาะคอมเมนต์ แนทถือว่าในบ้านเราคือสิ่งสำคัญ มีขยะหนึ่งชิ้นสองชิ้นยังเก็บกวาดได้มันไม่เหนื่อย แต่ถ้าแนทต้องไปเก็บขยะนอกบ้านเป็นร้อยเป็นพันชิ้น แนทเหนื่อย ฉะนั้นแนทเลือกปฏิบัติกับบ้านแนทดีกว่า"

"มีคนเอาชื่อมาให้เลือกค่ะ และแนทเลือก (หัวเราะ) คือโดยตรงแนทเป็นคนสองแง่สองง่าม เวลาอยู่กับผู้ชายชอบพูดเรื่องตลก ไม่ใช่เรียบร้อยคีฟลุคอินโนเซ้นส์ ไม่แนทจะมึงมาพาโวย พอเราไปคุยกับคนแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ บอกเป็นตัวเราให้เขาฟัง วันรุ่งขึ้นเขาไปเขียนเพลงให้แนท 1 ชม.ก็เสร็จเลย"

"จริงๆ มีเพลงหนูโดนพี่เฮ็ดกับคอแข็ง หนูเอาเนื้อคอแข็งมาสลับกับหนูโดนพี่เฮ็ด เพราะหนูชอบเนื้อบางท่อนของคอแข็ง ฟังแล้วตลกดี ได้ความหมายในกึ่งเป็นความเป็นตัวตนของแนท เนื้อเพลงมาจากแนทเป็นส่วนใหญ่"

"แนทได้ผู้กำกับ คุณลี ทองคำ คนที่กำกับภาพยนตร์เดอะเร็กซ์ แล้วแนทก็ดูหน้ามอนิเตอร์ ดูทุกฉากที่เราเล่น เป็นคนเขียนเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้กำกับ ตอนสลัดผ้าเป็นคุณลีกำกับเป็นหนุ่มลาว ที่ไปอยู่เมืองนอกค่ะ"

"ก็เล่นเลยค่ะ เพราะฉากอาบน้ำแน๊ตคิดอยู่แล้วว่าต้องทำ เพราะความเป็นชาวบ้าน ความเป็นผู้หญิง คนอยากดูอะไร แน๊ตต้องตีโจทย์แฟนคลับแนทให้ออกก่อน ว่าแฟนคลับแนทต้องการอะไร" 

"พอจบคอนเสิร์ตคลื่นวิทยุ ก็มีค่ายเพลงมารอ และเอานามบัตรให้ เราดีใจมาก ไม่ได้เกี่ยงว่าเล็กหรือใหญ่ เขาบอกเขาไม่ใช่ค่ายใหญ่นะ แต่ค่ายเขาไม่มีผู้หญิงเลย เขาอยากได้เราเป็นศิลปินหญิงเบอร์แรก เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมามันไม่เสียเปล่าค่ะ มีคนเห็นอะไรในตัวเราถึงได้เอาเราไปอยู่ในค่ายของเขา"

"(หัวเราะ) อย่าเรียกว่าแก้ผ้าเลยค่ะ เอาเป็นว่าเราใส่ชุดเหมือนฝรั่งดีกว่า ชุดสปอร์ตสองชิ้น ถ้าดูของเมืองนอกเขาก็ใส่แบบนี้ เพราะจะได้โฟกัสกล้ามเนื้อแต่ละจุดว่าได้ใช้งานจริงมั้ย"

"แนทว่าอยู่ที่มุมมองของคน มันอาจแปลกใหม่สำหรับเมืองไทยเพราะไม่มีใครทำแบบนี้ หรือคนที่ออกกำลังกายจริงๆ เขาอาจไม่ได้ทำเบอร์นี้ แต่แน๊ตคิดว่าการทำแบบนี้ เราได้เห็นอย่างเช่นตอนนี้ยังมีเซลลูไลท์อยู่นะ ฉันเล่นท่านี้ กล้ามเนื้อโฟกัสหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้ทำให้มีแรงจะเล่นต่อ"

"มันเลยจุดมีผู้ชายในฝันแล้วค่ะ ช่วงมีแฟนมา เจอผู้ชายทุกรูปแบบ แฟนทอม แฟนเจ้าชู้ แฟนที่เซ็กซ์จัด โหย แนทเจอผู้ชายหลายรอบแบบมาก แนทเจอทุกประเภทแล้ว ก็เลยไม่มีสเปก แต่ผู้หญิงที่อยากเจอคือพวกผู้ชายแนวซาดิสต์นิดๆ (หัวเราะ) โซ่แส้กุญแจมือหน่อยๆ"

"แนทชอบคุยกัน เจอกัน ทานกาแฟร่วมกัน แต่แนทเลี้ยงตัวเองได้ค่ะ ทุกวันนี้ไปกินข้าวก็เลี้ยงรุ่นพี่ค่ะ จ่ายเป็นหมื่นสองหมื่นแนทก็จ่ายค่ะ ไม่ต้องมาจ่ายค่าข้าวให้แนทค่ะ หนูเป็นคนตรงค่ะ พอเจอผู้ชายอ้อมๆ เราก็ไปไม่เป็น คือบางทีผู้ชายเขาก็ให้เกียรติเรา แต่ถ้าบอกจะจีบก็โอเค ถ้านัดกินข้าวแล้วอ้อมก็ไม่ได้กินแนทค่ะ แนทไปก่อนค่ะ (หัวเราะ)"

"ไม่มีปัญหาค่ะ แนททำงานมาเหนื่อยมาก แต่ไม่เคยใช้ชีวิตที่ไร้สาระ แนทไม่เคยเที่ยวปาร์ตี้ แนทจะเอาเงินทุกบาททุกสตางค์มาเก็บเพื่อวางแแผนว่าแต่ละปีจะเอาเงินไปทำอะไร อย่างปีนี้แนททำงานเก็บเงิน เพื่อวางแผนว่าปีหน้าจะให้อะไรกับตัวเองก็เป็นเอ็มวีตัวนี้ที่แนทลงทุนทำ"