เปิดปาก ฟ้าใส ปวีณสุดา กับเบื้องหลังเอ็กซ์คูลซีฟ พร้อมเผยเส้นทางชีวิตในอนาคต
ฟ้าใส : ตอนนั้นคิดว่าเราจะไม่เสียใจ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงเราจะไม่อะไร เพราะเรารู้สึกว่าเราทำเต็มที่แล้ว ตอนนั้นก็คือยิ้ม แล้วมั่นใจว่าเราจะเข้ารอบต่อไป
พอประกาศเราไม่ได้ไปต่อ ตอนนั้นใจหล่นตุ้บที่เท้าไหม ?
ฟ้าใส : ไม่หล่น เพราะว่าเราคิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว
เราเสียใจไหมที่ไม่มีประเทศไทย ไม่มีชื่อเราอยู่ตรง 3 คนสุดท้าย ?
ฟ้าใส : มันเสียใจไม่ใช่แบบเราเสียใจ แต่ว่าเสียใจแทนคนไทยทุกคนที่เชียร์เรา ที่เขาเชื่อในตัวเรา ถามว่ารอบไหนยากที่สุด ก็น่าจะเป็นช่วงตอบคำถามนะ เพราะมันเซนซิทีฟ
รอบชุดว่ายน้ำ ถือว่าลบคำวิจารณ์เรื่องหุ่นไปเลยไหม ?
ฟ้าใส : รู้สึกว่าทุกคนเห็นถึงพัฒนาการของหนู
เรื่องคำถามคาใจ สำหรับพี่ฟ้าใสได้รับคำถามที่ยากที่สุดใน 5 คน ?
ฟ้าใส : หนูก็ว่าอย่างนั้น
คำถามนี่ใครเลือก ?
ฟ้าใส : ไม่ได้เลือกค่ะ ก็คือทางกอง
เขาบอกว่าแรนด้อมมา ในใจคิดว่าเขาแรนด้อมไหม ?
ฟ้าใส : หนูก็คิดว่าถ้าในปีหน้าอยากให้เขามีซองคำถามอยู่ข้างหน้าให้เราเลือกเอง อันนี้จะถือว่าแฟร์
คิดว่ายุติธรรมไหมที่นางงามได้รับคำถามยากกับง่ายไม่เท่ากัน ?
ฟ้าใส : ถ้าใจจริงพูดถึงด้านใดด้านหนึ่ง มันก็ควรจะด้านนั้นทุกคนเลย
เจอบททดสอบเยอะมาก ทั้งเลื่อนจัดงานแต่ให้เร็วขึ้นจากมกราคมเป็นธันวาคม ไหนตาที่เจ็บ ไหนจะต้องผ่าตัด ถามจริง ๆ ตอนนั้นเครียดไหม ร่างกายเราไม่พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ?
ฟ้าใส : มันไม่ได้เรื่องร่างกายไม่พร้อม แต่มันเครียดเรื่องเตรียมตัวไม่ทัน ก็เลยรู้สึกเหมือนไม่พร้อมเต็มที่ แต่ว่าเราก็คิดเลยว่าไม่เป็นไร คือเราไม่สามารถพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์
ตอนเดินบนเวทีมองไม่เห็นครึ่งหนึ่งเหรอ ?
ฟ้าใส : เวทีต่างประเทศคือใส่คอนแทคเลนส์ข้างเดียว
ฟ้าใส : ตั้งแต่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ตอนนั้นตอนที่ไปพัทยา มันเหมือนใส่คอนแทคเลนส์เยอะ กิจกรรมเยอะด้วย แล้วหนูมีปัญหากับคอนแทคเลนส์สีใส พอใส่เยอะไปและนอนน้อยตามันเริ่มแห้ง แล้วมันติดกับตาเรา ถอดคอนแทคเลนส์ไม่ออกต้องไปหาหมอให้หมอถอดให้ แล้วหลังจากนั้นก็คือกระจกตาถลอก แต่วันพรีลิมฯ หนูใส่คอนแทคเลนส์สี ซึ่งมันต้องใส่ทั้งสองข้าง แล้วตอนนั้นคือข้างขวามัวจนมองอะไรไม่เห็นเลย คืออย่างน้อยถ้าไม่ใส่คอนแทคเลนส์มันก็จะเห็นเบลอ ๆ แต่นี่มันมองไม่เห็นจากตาข้างขวาเลย ตาข้างซ้ายคือชัดอย่างเดียว
8 เวที มาตอนนี้มีคนรักทั้งประเทศ หายเหนื่อยไหม ?
ฟ้าใส : มองว่าทุกก้าวคุ้มค่า
การเมืองกับการประกวดนางงามมันเกี่ยวข้องกันไหม ?
ฟ้าใส : มันไม่ควรเกี่ยว แต่นางงามก็สามารถโดนถามได้ทุกอย่าง เพราะว่านางงามก็เป็นไอดอลอีกคนหนึ่งที่หลาย ๆ คนเขาติดตาม
ให้กำลังใจแฟนคลับหน่อย ?
ฟ้าใส : มันไม่มีอะไรที่นอกเหนือจากหนูทำเต็มที่แล้ว แล้วต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เอามงที่ 3 มาให้ประเทศไทย ขอบคุณจริง ๆ ที่ซัพพอร์ตหนู มันทำให้หนูทำเต็มที่ในทุก ๆ ก้าว จริง ๆ เราเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีมงที่ 3 มาให้ประเทศไทย เราก็จะคอยซัพพอร์ตรุ่นน้องต่อไป เป็นกำลังใจให้รุ่นน้องด้วยนะคะ
แล้วลูกชายเจ้าของแบรนด์ Mouawad เขาเป็นใคร ?
ฟ้าใส : คุณจิมมี่ ถามว่าเขาจีบไหม ไม่ได้จีบ
เจอกันได้ยังไง ?
ฟ้าใส : ตอนนั้นหนูไปเป็นตัวแทนของมิสยูนิเวิร์สในงาน Mouawad แล้วตอนนั้นก็มีโอกาสเจอทั้งครอบครัว
แล้วสมมุติว่าเขามาจีบล่ะ ?
ฟ้าใส : หนูก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะว่าหนูยังไม่รู้จักเขา
แล้วหนูจะเปิดโอกาสให้รู้จักเขาไหม ?
ฟ้าใส : คือหนูก็คิดว่าอายุหนูก็พอสมควรแล้ว แต่ก็เปิดที่จะคุยกันในฐานะเพื่อนก่อน แต่ว่าถ้าเราคุยกันแล้วมันคลิกก็โอเคอาจจะไปต่อ ไม่ปิดกั้นค่ะ