“หนิง – จิน” เล่านาทีน้ำตาแตกหลัง “น้อง ณิริน” คว้ารางวัลระดับเอเชีย - รับหวงลูกห้ามมีแฟน

เพิ่งคว้ารางวัล Best Host award 2019 หายตื่นเต้นหรือยัง?
ณิริน : "ยังคะ คือว่าวันแรกตื่นเต้น"

หนิง : "คือเราไม่คิดว่าเขาจะได้ คือพอเค้าได้เราก็ภูมิใจ ดีใจ แล้วเวลาอะไรที่เราไม่คิดว่าจะได้มันจะมีความดีใจทวีคูณกว่าเราคาดหวัง"

จิน : "ตกใจเหมือนกัน เพราะว่าจริงๆเค้าต้องบินไป 2 คน ผมติดงานที่บ้านที่เขาใหญ่ไฟลท์มันไม่ตรงกัน เวลาที่เค้าถ่ายรายการกับเวลาที่ต้องบินเป็นเวลาเดียวกัน เลยไม่ได้มีใครไปอยู่ที่บ้านเขาใหญ่กัน"

ตอนที่รู้ว่าได้รางวัลทำอะไรกันอยู่?
หนิง : "นวดอยู่บนห้อง คุณจินวิ่งวุ่นจัดงานอยู่ ดูแลทุกคน เราก็เดินลงมาร้องไห้ ไม่ได้รู้ว่าข้างล่างเค้ารู้เรื่องแล้ว แล้วก็วิ่งลงมาเพื่อตะโกนหาณิรินว่าได้รางวัล แต่ข้างล่างเค้ารู้กันอยู่แล้ว เขาก็มีน้ำตากันอยู่แล้ว หนิงรู้คนสุดท้าย คือตินแรกที่เราตัดสินใจว่าจะไม่ไป ก็มีการปรึกษาว่าจะเอายังไงดี เลื่อนคิวแขกรับเชิญกันไหมแล้วเราก็ไปมะนิลากัน เราก็แบบยังไงก็ไม่ได้หรอกคนเข้าชิงเก่งๆกันทุกคน แล้วเราได้คิวของน้องแต้ว ณฐพร แล้วเราก็อยากอยู่รับผิดชอบถ่ายงานในวันนั้น"

ณิรินร้องไห้เลย?
ณิริน : "ดีใจเพราะว่าคุณแม่เขาเคยบอกว่าอะไรที่มันมีได้โอกาสแค่ครั้งเดียว เด็กๆที่เค้าไม่ใช่ดาราเขาอยากเป็นแบบหนูเยอะ คุณแม่บอกว่าต้องตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียน จะได้มีเงินเยอะ ดีใจมากที่สุดค่ะ"

ตอนชนะกระซิบอะไรกับคุณแม่?
หนิง : "เขาร้องไห้แล้วบอกว่าคุณแม่ขาณิรินทำให้คุณแม่ภูมิใจแล้วใช่ไหมคะ หนิงพยายามจะสอนริริณเสมอโอกาสบนโลกใบนี้มันไม่ได้มีมาให้เราง่ายๆ เมื่อไหร่ที่เรามีโอกาสได้ทิชอะไรสักหนึ่งอย่างในชีวิตขอให้ตั้งใจทำสิ่งนั้นให้ดี แล้วเราจะเกิดความภูมใจในตัวเรา แล้วเราอยากจะพัฒนา เมื่อเราโตขึ้นมันจะทำให้เค้ามีความตั้งใจที่จะทำอะไร พอเขาพูดคำนี้ขึ้นมาเราเลยรู้สึกว่าคำพูดยากๆ จากผู้ใหญ่คนนึงที่พยายามอธิบายให้เค้าเค้าเข้าใจ

ณิริณ : "ต้องขอบคุณทุกคนในทีมที่ทำให้ได้รางวัลค่ะ"

สอนลูกไม่ให้ฟุ้งหลงแสงสีเสียง?
ณิริน : "แม่บอกว่าต้องตั้งใจทำคะ"

หนิง : "หนิงจะบอกว่ารางวับที่เราได้มามันไม่ใช่ทุกอย่างจะประสบความสำเร็จ อะไรก็แล้วแต่มันสามารถประสบความสำเร็จมันไม่ได้แค่เราเพียงคนเดียว มันมีคนแวดล้อมคนรอบข้างที่ช่วยเหลือเรา เราต้องกตัญญูคนที่ช่วยเหลือเรา หน้าที่ณิรินตอนนี้ไม่ใช่เป็นดารา"

ณิริน : "ไม่ใช่เป็นดารา ไม่ใช่เป็นนางแบบหรือเป็นอะไร หน้าที่ของหนูคือนักเรียน"

หนิง : "เราเลยให้เค้าตั้งใจเรียนเพื่อประสบความสำเร็จใจหน้าที่ของเค้า อันอื่นแค่เป็นกิจกกรมเสริมที่เขาชอบ"

รักลูกมากจะไม่ยอมให้ลูกมีแฟน?
จิน : "คือยังไม่ถึงเวลาต้องโตก่อน จบซัก ปริญญาตรีถึงมีได้ ตอนเกิดผมอยากได้ลูกสาว แต่เวลาผมอุ้มเค้า ผมบอกหนูต้องเป็นทอมนะตลอดเวลา"

หนิง : "เราถึงขั้นทะเลาะกันที่จินพูดแบบนี้ เขาพูดจริงๆ นะโตขึ้นต้องเป็นทอม เราก็แบบพูดจาไม่เป็นมงคลแต่ตอนนี้หนิงมีความคิดเหมือนจินเพราะว่าเราเลี้ยงของเรามาเราก็หวง ไม่อยากให้มีแฟน หวง เราไม่รู้ว่าใครจะทำร้ายลูกเรา ทำให้ลูกเราเสียใจ เค้าจะดูแลลูกเรายังไง มันเป็นอะไรที่พูดยากมากหัวอกคนเป็นแม่"

ตอนนี้พ่อแม่ทะเลาะกันบ้างไหม?
ณิริน : "มันมีคะแต่แบบว่าน้อย"

จิน : "ผมจะมีเวลาจุกจิกกับผมเยอะ เวลาใส่รองเท้าแตะไปไหนอาย ผมก็เป็นของผมอย่างนี้ บางทีก็แบบพูดว่ารถรักมากเหลือเกินนะ เดวจะกรีดรถ (หัวเราะ) ผมแบบอะไร "

หนิง : "วันๆ เขาก็จะอยู่แต่กับรถเขา ใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ร้องเท้าแตะ บางครั้งมันต้องดูสถานที่ คือเวลาบางทีเราไปงาน เค้ามารับ ก็คีบรองเท้าแตะมา มันเหมือนแบบไม่เกียรติสถานที่"

หนิง : "ตอนที่เขาให้น้องสาวหนิงมาหลอกขึ้นเรือ อันนั้นเป็นโมเมนต์แต่งงาน เราก็ไม่รู้มาก่อน เราคุยกันมาแต่ยังไม่ถึงตกลงว่าเป็นแฟน เขาก็อยากเป็นแฟนแหละ โมเมนต์นั้นมันเหมือนผูกมัดแหละว่าขอแต่งงานแล้วเป็นแฟนแต่งงานกันนะ เขาพูดว่าจินทำตัวไม่ดีมาเยอะแล้วขอทำตัวดีๆ เพื่อผู้หญิงคนนี้ มันเป็นคลิปที่ถ่ายไว้ตอนขอแต่งงาน"

ตอนขอแต่งงาน?
หนิง : "ตอนนั้นมึนๆ งงๆ ก็เซย์เยส แล้วทีนี้พอมีณิรินเค้าไปดูคลิป เขาก็เอาคลิปไปพูดกับพ่อเขาไหนบอกจะทำตัวดี (หัวเราะ)"

ทำไมถึงเลือกแต่งงานกับจิน?
หนิง : "เขาเป็นคนดีคะถึงแม้ว่าภาพบางภาพที่หลายๆ คนเห็น ความเกเร แต่ถ้าในมุมของความเป็นครอบครัวคือเขาดีมาก อีกสิ่งคือต่อให้เราทะเลาะกันขนาดไหน คู่สามีภรรยามันต้องมีอยู่แล้ว วันที่ตอบแต่งงานจินเขารู้ว่าหนิงเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่พอเราได้สัมผัสกับเขา เขามีอะไรที่พยายามในการปรับปรุงตัว ข้อดีที่เขามีตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่ แต่ข้อที่เขาไม่ดีเขาก็พยายามที่จะปรับ"

เวลาคบหากันกว่าจะแต่งงาน?
หนิง : "จริงๆ แปปเดียวคะ 7-8 เดือน"