ชีวิตไม่ตลกเหมือนเบื้องหน้า ดาว ขำมิน ลำบากถึงขั้นเคยไร้บ้าน!
สมัยก่อนลำบากมาก โตที่สลัม?
พอจบ ม.ต้น ก็ย้ายออกมาอยู่คนเดียว?
ดาว : "คือย้ายออกมาเพราะว่า อยู่ไปก็มองกับข้าวมันไม่อิ่ม ตอนนั้นอยู่กับแม่แล้วพี่อีกคนหนึ่ง ส่วนพี่ที่เหลือก็ออกไปทำงาน ก็มองดูกับข้าวมันน้อย เราก็เลยตัดสินใจย้ายออกมา เพื่อให้เขากินอิ่ม"
ตอนนั้นสงสารใครมากที่สุด ตัวเองหรือคนรอบข้าง?
ดาว : "ตัวผมเอง ผมไม่มีความสงสารตัวเองเลย คือสงสารแม่ แม่พยายามเหลืออะไรมาที่บ้าน พอมาถึงเราด้วยความเป็นเด็กก็เปิดตะกร้าดูว่ามีอะไรบ้าง แม่ก็ยืนมองแล้วน้ำตาไหล ก็เลยไม่กล้ากิน เราก็เลยออกมาดีกว่า ซึ่งตอนออกมาก็ไม่มีความคิดว่าจะอยู่ที่ไหน ตอนไปเรียนก็เรียนไม่รู้เรื่อง เป็นคนคิดมาก แต่เราชอบทำให้คนอื่นสนุกชอบ แต่ว่าพอเลิกเรียนเราก็จะนั่งคนเดียวแล้วก็คิดจะไปไหนต่อ ตอนนั้นเราก็นอนที่หน้าราม. เพราะเขาเปิดตลอด 24 ชม."
แล้วมาต่อยมวยตอนไหน?
ดาว : "ตอนเริ่มจะจบ ม.ปลาย ช่วง ม.ปลาย ตอนต้นไม่มีเงินไปอาศัยเพื่อน ผมบอกเพื่อนว่าไม่มีที่นอน เพื่อนก็ใจดีไปนอนที่อื่น เพื่อให้เหลือ 2 คน เพราะหอนี้ให้อยู่ห้องละ 2 คน แต่ว่าไปอาบน้ำ ห้องน้ำรวม เจ้าของหอเห็น ผมก็เลยไปทั้งผ้าเช็ดตัวออกไปเลย ก็ไปอยู่หน้าราม เวลาเพื่อนชวนกินก็บอกว่าอิ่ม ไม่มีเงิน เกรงใจเขา แต่พอเพื่อนไปหลายๆ คนกินไม่หมด ผมก็บอกว่าบาปกรรมกินทิ้ง กินขว้าง ผมก้เอามากิน"
ช่วง ม.ปลายเริ่มต่อยมวย ตอนนั้นเงินดีไหม?
ดาว : "จริงๆ ต่อยมวยก็เลี้ยงตัวได้ แต่เท่าที่จำได้ไม่ได้สักบาท ต้องชนะถึงได้ตัง ผมน่าจะเป็นนักมวยสายธรรมะไม่เคยชนะใครเลย ผมตั้งใจต่อย แต่ต่อยสู้เขาไม่ได้ คือไฟล์สุดท้ายที่เลิกก็ชะล่าใจ โดนเตะเข้าตาผมก็เลยเลิก"
แล้วมาเข้าวงการได้ยังไง?
ที่เห็นทั้งหมดนี้ บุคลิกแบบนี้มันเป็นตัวเราจริงๆ หรือเป็นคาแร็คเตอร์ของเรา?
ดาว : "จริงๆ ผมจะเป็นคนที่คิดมาก คิดเยอะ ทุกวันนี้ผมก็คิดยาคลายความตึงเครียด ผมเคยนั่งตบหัว 2 วันโดยไม่นอน แต่ไม่หาย ผมชอบพาเพื่อนไปหาหมอ แต่ตัวเองไม่ชอบ เพราะต้องใช้เงิน เคยปวดแบบเงยหน้าไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นไมเกรน แต่ไปหาหมอ หมอบอกไม่ใช่ "