ทนายดัง งง! เมียปล่อย หนุ่ม ศรราม ไลฟ์สดชี้แจงแทนไม่เซฟสามี

"การสั่งซื้อสินค้าจากโลกออนไลน์ ถ้าเราดีลงานกับต่างประเทศหรือพ่อค้าที่เขาซื้อกับเราจริงแล้วเราเอามาขายต่อ อันนี้ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง พอไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโก้ง ก็ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ คืนเงินก็จบ จะเป็นความผิดฐานฉ้อโก้งต้องเป็นเจตนาหลอกลวง เจตนาทุจริตมาตั้งแต่ต้น คือตัวเองไม่เคยดีลกับคนซื้อของหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศเลย แต่มาโพสต์ขายว่ามีสต็อกสินค้า สามารถสั่งกับเขาได้ เขาต้องเอาเงินไปวางมัดจำ ซึ่งแบบนี้เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งตรวจสอบไม่ยากนะครับ ส่วนภรรยาคุณหนุ่มก็เอามาโชว์สิ ไหนล่ะการสั่ง สั่งจริงหรือเปล่า ทุกวันนี้ยังไม่เห็นเลย"

"โดยปกติคนเราถ้าทำงานตรงไปตรงมา ไม่ได้ว่าโกงนะ แค่ตรงไปตรงมา สินค้าไม่ได้ก็ต้องคืนเงิน คืนเงินเสร็จปุ๊บใครจะมาแจ้งความล่ะ"

"ผมตั้งข้อสังเกตอย่างนี้ กรณีของระยะเวลา ประเด็นตัวนี้ต้องนับวันที่ช่วงต้นเดือนก.พ. ที่กระทรวงพาณิชย์ มีคำสั่งห้ามขายเกินราคา 2.50 บาท ซึ่งเกือบ 2 เดือน คุณไม่คืนเงินมัดจำเขาอีกเหรอ นี่คือประเด็นนะ ซึ่งคุณหนุ่มไม่ได้ชี้แจงประเด็นนี้ออกมา แต่ผมเชื่อว่าไม่มีการชี้แจงประเด็นนี้ทั้งสองฝ่าย เพราะอะไรรู้มั้ยครับ ถ้ามีการบอกว่าคุณขายหลังมีประกาศควบคุมราคาสินค้า ผมเห็นล่าสุดศาลไม่รอลงอาญานะครับ การที่ออกมาพูดว่าจะคืนเงิน จะแถลงข่าวคืนเงินในวันนี้ก็ตาม ผมคิดว่าเขาไม่ได้กลัวเรื่องฉ้อโกงหรอก ฉ้อโกงก็คืนเงินได้ แต่ความผิดเรื่องพ.ร.บ.ควบคุมราคาสินค้า มันยอมความไม่ได้ ผมจำได้ว่าคราวก่อนศาลไม่รอลงอาญา 2 ปีนะ อย่าคิดว่าการขายราคาหน้ากากเกินราคาเป็นโทษเบาและไม่รุนแรง ไม่ใช่นะครับ ผมก็รออยู่เหมือนกันว่าตกลงคุณซื้อขายก่อนหน้านี้กี่เดือนกี่วันกันแน่"

 ถ้าไม่มีการสั่งซื้ออะไรคือคดีอาญา?

"ศรรามโดนตัดสินไปก่อนเลยว่านี่เลยเป็นตัวกักตุนหน้ากากอนามัย ศรรามต้องเคลียร์ แต่จริงๆ จะไปว่าศรรามไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ขาย เมียเขาขาย ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเอาศรรามมาพัวพันด้วย เพราะเขาไม่ได้ทำ เมียควรออกมาไลฟ์สด เมื่อวานศรรามควรเป็นคนถือกล้อง แล้วให้เมียเป็นคนไลฟ์ ไม่ใช่ศรรามไลฟ์แล้วเมียถือกล้อง(หัวเราะ) มันผิดคนแล้ว เมียจะได้อธิบายให้สังคมเข้าใจว่าการซื้อขายอะไรยังไง อีกอย่างการที่คุณออกมาเคลียร์เองก็จะได้เซฟสามีคุณด้วย ไม่ให้โดนสังคมด่า พอเวลาสังคมด่า โซเชียลตัดสินไปแล้ว ตราบาปนี้ลบออกยากนะ"

หมอกำธร : "ลดได้มั้ยอยู่ที่ประชาชนด้วย เพราะการล็อกดาวน์ทำให้เราเดินทางไม่สะดวก แต่ก็เดินทางได้อยู่ดี แต่พอเราปิดปุ๊บไปรวมกลุ่มสังสรรค์เฮฮา พฤติกรรมแบบนี้จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ประชาชนต้องล็อกดาวน์ตัวเองด้วย"

หมอกำธร : "มันเป็นไปตามความคาดหมายแต่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ถ้าเป็นประมาณนี้ก็ยังคุมยาก แต่ถ้ามากกว่านี้เรารับไม่ไหว เราอยากให้น้อยกว่านี้ครับ ตอนนี้มันใกล้ถึงจุดที่เรารับได้ไม่เต็มที่ มันตึงมาก"

หมอกำธร : "มันมีมาตรการป้องกัน ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์เขาระมัดระวังอยู่เต็มที่อยู่แล้ว"

"น่าเป็นห่วงมากเลยนะครับ อันนี้ผิดเรื่องคุณธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม การที่เราเป็นกลุ่มเสี่ยงเราไปสัมผัสกับคนอื่นไม่กักกันตัวเอง ทำฟันทำวันนี้ไม่ตายนะครับทำวันหลังก็ได้ คุณต้องแจ้งเขา เพราะหมอเขาทำคุณเสร็จเขาไปทำคนอื่นต่อ คุณกำลังทำให้เกิดการแพร่เชื้อโดยผ่านทางหมอ ซึ่งทำแบบนี้มีโทษปรับ 2 หมื่นนะครับ"

"จริงๆ เรามีบทลงโทษนานแล้ว แต่เราไม่เคยเอาไปหวดใครจริงๆ จังๆ สักที คนจะได้กลัว กรณีแบบนี้ถ้าคุณหมอที่ทำฟันต้องไปแจ้งความให้ดำเนินคดี จะได้เป็นเยี่ยงอย่าง สงสารเขาทำไม เอาเชื้อมาแพร่คนอื่นแต่ไม่บอกเขา เขาให้คุณบอกแค่ว่าคุณมีความเสี่ยง ต้องเอาให้เป็นเยี่ยงอย่าง ถ้าเรือนจำว่างจะให้เอาเข้าคุกด้วยซ้ำ จะได้กลัวกัน ตอนนี้ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 ปีแล้วนะครับ ถ้าพี่ไม่แจ้งก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด คุกทหารก็ว่างอยู่ เมืองไทยมันต้องเอาหนักๆ เลย ไม่ใช่ให้คนมีความเสี่ยงไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋ไปเรื่อยๆ"

"แถลงช้าไปมั้ย ทำไมรู้สึกตัวช้าจังเลย มันห่างกัน 2 เดือน ประชาชนโดนหลอกหรือสื่อสารผิดพลาดกันอีกแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ต้องมีความกระจ่าง วันนั้นทำไมถึงกล้ายืนยันว่ามีหน้ากากอนามัยสต็อก 200 ล้านชิ้น คำว่าหน้ากากอนามัยกับวัตถุดิบมันเขียนกันคนละแบบ แสดงว่าต้องมีคนนึงพูดไม่จริงสิ ใครก็ไม่รู้"

"ผมคิดว่าเขาคงกลัวเสียหน้า แต่ตอนนี้เรากำลังสู้กับโรคระบาดที่เราไม่เคยเจอมาก่อนบนโลกใบนี้ เราต้องการรู้ว่ารพ.ไหนขาดแคลนไม่ขาดแคลน ผอ.รพ.หลายคนก็บอกว่าขาด แต่โพสต์ไม่ได้ แล้วไปบริจาคก็รับไม่ได้อีก เดี๋ยวเขารู้ว่ารพ.เขาขาด นี่คือปัญหา และคิดว่าเร็วๆ นี้ต้องมีวิธีการแก้ไขปัญหา ผมเชื่อว่ามีคนไทยหลายคนพร้อมบริจาคพร้อมซื้อมาให้"

"แต่คำว่ากลัวความผิด กับอีกคนที่เขาเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยทุกวัน เราต้องให้กำลังใจเขา ถ้าเขาขาดต้องไปเติมให้ จะไปรอหน่วยงานราชการอย่างเดียวไม่ได้"

"ถ้าลดระยะเวลาลงสักหน่อย ถ้าเขามาบริจาคให้เอกชนหรือรพ.โดยตรง ป่านนี้เขากระจายไปหมดแล้ว จริงๆ เราเป็นหน่วยงานราชการต้องไวกว่านี้ เข้มกว่านี้ อันนี้มันช้า"

"ไปสั่งกระทรวงสาธารณสุขก่อน จะตรวจอะไรนักหนา 2 วัน เอาไปแจกเขาได้แล้ว ให้ขั้นตอนมันลดลงและไปสั่งอย.ด้วย อย.ตรวจให้ไวกว่านี้ คนจะได้ซื้อมาบริจาคเยอะๆ ศุลกากรก็ประกาศยกเว้นไปเลย จีนทำ ทำไมไทยไม่ทำ ยกเว้นให้หมดเราจะรอคนป่วยคนตายมากกว่านี้ไม่ได้ ที่มาพูดไม่ได้ด่า แต่ขอเสนอแนะ"