
หมอพรทิพย์ ติงคดี น้องชมพู่ ออกทะเล! ด้านแม่ฉะแซ่บร่างทรง

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 - 15.00 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (24 มิ.ย.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" เปิดใจสัมภาษณ์ "แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์" ผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์และชันสูตร เกี่ยวกับคดี "น้องชมพู่" ที่หายตัวไป ก่อนพบเป็นศพเปลือยเสียชีวิต จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้
ในฐานะที่คุณหมอทำคดีมามากมาย คิดว่าจะได้ตัวคนร้ายมั้ย?
หมอพรทิพย์ : "ถามในคดีนี้ ยังไม่ถึงกับฟันธง เพราะเราไม่ทราบว่ายังมีอะไรที่เขาลืมไปหรือเปล่า แต่ถ้าพูดในภาพใหญ่ก็ค่อนข้างเป็นห่วงเพราะดูออกไปไหนมาไหนจนจะไม่ถึงต้นตอแล้ว"
หมอพรทิพย์ : "ขอย้อนไปคร่าวๆ สั้นๆ ต้องขึ้นต้นที่จุดพบศพ จุดนั้นสำคัญมาก เพราะเป็นการตายผิดธรรมชาติ จะมีสามส่วน คนแรกคือพนักงานสอบสวน คนที่สองคือคุณหมอ สามคือเจ้าหน้าที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ วันนี้มันยังไม่มีข่าวหลุดออกมาเลยว่าหมอไปหรือหมอมอบใครไป คนนี้จะเป็นกุญแจสำคัญ เพราะตร.ไม่มีความรู้เท่าหมอนิติเวช เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานก็ต้องฟังประเด็น ณ เวลาพบศพตอนนั้น สภาพศพมันบอกประเด็นเยอะ ผู้ทำการชันสูตรศพต้องตอบให้ได้ 6 คำถามคือหนึ่ง เหตุตายคืออะไร ดูสภาพศพ ใครก็ต้องรู้ว่าสงสัยเรื่องทางเพศ ต้องมีอะไรสักอย่างเพราะมันเปลือย สองพฤติกรรมการตาย เด็กสองขวบจะเดินไปบนเขา ค่อนข้างตั้งต้นเลยว่าถูกกระทำมากกว่าที่จะเป็นเอง สามเสียชีวิตเมื่อไหร่ สี่เสียชีวิตที่ไหน ห้าเมื่อถูกกระทำ ใครเป็นคนทำ หกผู้ตายคือใคร ซึ่งหกรู้อยู่แล้วว่าเป็นน้องชมพู่ มันจะตอบไม่ได้เลย ว่าเหตุตาย เวลาตาย สถานที่ตาย ตรงนี้ต้องดูที่ศพ ณ จุดที่พบศพก่อน เมื่อไม่มีผู้รู้เข้าไปในจุดเกิดเหตุ เขาถึงต้องส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่อุบลราชธานี"
หมอพรทิพย์ : "สภาพ เอาว่าในต่างประเทศที่เป็นหลักการสากล เด็กกับผู้หญิงไม่ค่อยเสียชีวิตโดยธรรมชาติ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าถูกกระทำ แล้วสภาพศพ คือเด็กที่เล็กเกินกว่าจะเดินขึ้นไป และอยู่ในสภาพเปลือยไม่มีเสื้อผ้าอยู่แถวนั้นเลย แค่นี้ก็รู้อยู่แล้วว่าถูกกระทำ"
บุคคลที่น่าสงสัยในแง่พฤติกรรม ในข่าว น่าจะเป็นคนกลุ่มไหน?
หมอพรทิพย์ : "ไม่ได้เห็นในเนื้อคดี เห็นแต่ข่าว ซึ่งข่าวก็ไม่รู้จริงหรือไม่จริง แต่เห็นรูปของศพ บอกได้ว่าหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์ ศพสภาพใหม่ อยู่ที่คนแรก สามส่วน เก็บได้เยอะได้ครบ ตรวจได้หมดมั้ย ถ้าตรวจได้หมดเอามาปะติดปะต่อดีๆ รู้คำตอบค่ะ ส่วนสื่อจะเอาใครมาก็เป็นห่างไกลๆ หลังๆ ไปกันใหญ่ อย่างเริ่มตรวจดีเอ็นเอขนหมา มันก็ชักไปไหนแล้ว ทำไมไม่เริ่มต้นจากสิ่งที่พบครั้งแรก"
ออกอ่าวไปแล้วเหรอ?
หมอพรทิพย์ : "มันอยู่โดยรอบมากกว่า เหมือนตีรอบค่าย แทนเข้าจุดตรงกลาง เขาอาจได้ข้อมูลแล้ว เพียงแต่ข้อมูลที่สื่อเสนอ มองอีกมุมมันอาจไม่ได้อะไรมามั้ง สื่อถึงช่วยสืบกันใหญ่เลย"
หกข้อที่พูดไป มีหลักฐานอะไรบ้าง?
หมอพรทิพย์ : "ข้อแรกต้องตอบได้คือเหตุตาย เรายกตัวอย่างผู้ตายเปลือย ต้องมีคนอุ้มมา มีใครเก็บดีเอ็นเอมั้ย หลักการนี้มันสากล ซึ่งพอไม่ได้ตรงนี้ก็นำไปสู่คนร้ายค่อนข้างยาก แต่ในศพจะบอกได้อยู่แล้วในเบื้องต้น หรืออะไรที่อยู่บริเวณติดกับศพ หรือที่อยู่ใกล้ๆ อย่างมีขนโน่นนี่ มีเศษ ต้องดูโดยละเอียด เพราะบางทีหลักฐานเชื่อมหาคนร้าย บางทีเผลอทำโน่นนี่ตก ประมาณนั้น และในศพหลังการผ่า เช่นสงสัยล่วงละเมิดทางเพศต้องไปดูภายใน"
หมอพรทิพย์ : "ต้องบอกเลยว่าขอรูปถ่ายโดยละเอียดเพื่อตอบคำถามให้ได้ เวลาตายด้วย และสถานที่ตาย"

หมอพรทิพย์ : "ศพมันดูไม่ได้แล้วไงคะ ส่วนใหญ่เวลาศพร้องเรียนพวกนี้เราได้จากรูปถ่ายที่ต้องถ่ายให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะบอกได้ว่าเด็กเสียชีวิตมานานเท่าไหร่แล้ว เพราะเรื่องเวลาจะช่วยบอกว่าใครน่าจะอยู่ในข่ายต้องสงสัย เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดเลย ที่สำคัญเขาเสียตรงนั้นหรือเสียที่อื่นเพื่อหาหลักฐานต่อ เพราะลักษณะศพค่อนข้างนึกไปเรื่องการทำร้ายทางเพศ ทำตรงนั้นที่ไหน นี่คือสิ่งที่เรายังไม่ทราบเลยว่าเสียชีวิตตรงนั้นมั้ย"
สิ่งที่หมอพูดคือยังมีไม่ครบ?
หมอพรทิพย์ : "มันไม่ใช่มีไม่ครบ แต่มันไม่ถูก ถ้ามีมันก็อาจรั่วไปถึงสื่อ ฟังจากประเด็นทั้งหลาย ขออนุญาตนะ อาจดูเป็นการตำหนิ แต่เรามองเชิงระบบ มันออกทะเลไปเลย เวลาการเสียชีวิตสำคัญมากนะ มันจะบอกได้ว่าใครเป็นคนทำร้าย และใครคือคนบริสุทธิ์ ตอนนี้ไม่ถูกปรากฎเป็นประเด็นอะไรเลยสักที่"
โฟนอินสัมภาษณ์คุณแม่น้องชมพู่ ถามตรงๆ คุณแม่ยังเชื่อมั้ย น้องชมพู่ไม่ได้เสียชีวิตเองแต่ถูกฆาตกรรมเอง?
แม่ : "เชื่อค่ะ ลูกหนูไม่เดินเข้าป่าเลยตลอดเวลาที่เลี้ยงลูกมา และเขาก็ชันด้วย"
มีตร.บางคนสันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตเอง ได้ยินคำพูดแบบนี้ รู้สึกยังไง?
แม่ : "แม่ไม่ทราบว่าตร.ท่านนั้นมาขึ้นเขาหรือเปล่า แล้วเป็นตร.ที่รับผิดชอบคดีมั้ย"
ตอนนี้ไปเรื่องตรวจขนหมาแล้ว น้องรักหมา?
แม่ : "ค่ะ น้องรักหมา รักสัตว์ค่ะ"
แม่ : "เป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะน้องเคยวิ่งตามหมาแล้ว แต่พอหมาเข้าป่า น้องก็ไม่ตามค่ะ"

แม่ : "ตราบใดที่ตร.ยังไม่สรุปใดๆ ทั้งสิ้น แม่ก็มีความหวังอยู่ค่ะว่าจะหาฆาตกรเจอ"
มีตัวละครหลายคน ลุงพลสนิทกับที่บ้านมั้ย เกี่ยวข้องกันยังไง?
แม่ : "ลุงพลคือลุงเขยของเรา บ้านอยู่ห่างกันหน่อย"
ทำไมตร. พุ่งเป้าไปสงสัยลุงพล?
แม่ : "แม่ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ถ้าให้แม่คิด ลุงพลขึ้นเขาบ่อยมั้ง อันนี้เป็นแค่ความคิดของแม่นะคะ"
แม่มีความคิดคล้อยตามที่ตร.สงสัยลุงพลมั้ย?
แม่ : "แม่คิดแบบเป็นกลาง และอยากบอกว่าลุงพลไม่ใช่เป้าหมายเดียวที่ตร.สงสัย ต้องให้เกียรติเขาด้วย เพราะสุดท้ายแล้วตร.ต้องเอาหลักฐานต่างๆ มามัดตัวคนร้าย มันอาจไม่ได้เป็นลุงพลก็ได้ กลุ่มผู้ต้องสงสัยมีหลายคน แม่จะไปมั่นใจลุงพลคนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ"
มีการตั้งข้อสงสัยไปที่พ่อชมพู่ด้วย แม่ว่ายังไง?
แม่ : "น้องชมพู่เสียชีวิตโดยไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น แม่ว่าทุกคนเป็นผู้ต้องสงสัยหมด มันก็เป็นไปได้ที่ตร.จะคิด แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องตามหลักฐาน"
ตัวละครแอ๋ม คนข้างบ้าน สนิทกับน้องมั้ย?
แม่ : "ครอบครัวแอ๋มกับน้องไม่ได้สนิทกันเลยค่ะ เพราะน้องไม่เคยไปเล่นบ้านแอ๋ม มีแต่ลูกสาวแอ๋มอายุ 4 ขวบที่มาดูการ์ตูนกันบ่อยๆ แม่ไม่สงสัยแอ๋ม เพราะครั้งแรกออกจากสวนยางมาหาน้อง แม่ก็เจอเขาอยู่ข้างบ้านเขานั่นแหละ จอดรถแล้วเจอเลย"
ได้คุยกับแอ๋มหลังเขาไปเจอตร.มั้ย?
แม่ : "ไม่ค่อยได้คุยกัน แอ๋มเขาออกไปทำงานคนละอย่างกับเรา อีกอย่างที่่บ้านมีนักข่าวทุกวัน ญาติๆ คนอื่นก็ไม่ค่อยเข้ามาที่บ้านสักเท่าไหร่"
แม่ : "แม่ไม่สงสัยแอ๋ม เพราะวันน้องหายแม่ก็เจอแอ๋ม แต่เขาได้หลักฐานอะไรหรือเปล่าแม่ก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องตร.ค่ะ"

แม่ : "ส่วนตัวแล้วแม่ไม่ชอบร่างทรง เวลาร่างทรงทำพิธีอะไรต่างๆ เขาหลับตา เขามองไม่เห็นอะไรเลย ถ้าเห็นทางในก็มาชี้เลยจะได้เงินค่าเบาะแสด้วยนะ ตร.ให้เยอะนะ นั่งทางในไม่มีประโยชน์ ให้มาชี้เลย ตร.ลืมตาทุกวัน ยังไม่เห็นอะไรเลย คุณหลับตาแล้วคุณจะเห็นอะไร"
ถ้าร่างทรงมาอีกเรื่อยๆ จะว่ายังไง?
แม่ : "ถ้าเขาไม่เรียกเงินเรียกทอง อันไหนต้อนรับได้ก็ต้อนรับ ถ้ายุ่งยากคงต้องให้ตร.ช่วยแม่แล้วล่ะค่ะ"
คุณหมอฟังแล้วเป็นยังไง?
หมอพรทิพย์ : "น่าเห็นใจ แต่อย่างที่บอกว่าจุดเริ่มต้นไม่สมบูรณ์ ต่อไปก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ได้เห็นสภาพศพ และเห็นว่ามีคุณหมอนิติเวช 2 ระดับ ข้อมูลน่าจะมี เพียงแต่ว่าได้เอามาคุยและตอบคำตอบให้ได้ จะได้ช่วยตร.ได้"
สัมภาษณ์ "ลุงพล" ตัวละครที่คนสงสัย ลุงสนิทกับน้องชมพู่แค่ไหน?
ลุงพล : "สำหรับครอบครัวน้องเราก็สนิทกัน เวลาลุงขายยางพาราเสร็จก็พาน้องไปเที่ยว ไปเต่างอย สกลฯ เกือบทุกเดือน"
ลุงพลเป็นคนที่เขาสงสัยรู้สึกยังไง?
ลุงพล : ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรมากมาย จนเจ้าหน้าที่ตร.มาตรวจค้นรถ ไม่รู้เขามาค้นเพื่ออะไร เขาไม่ได้บอกว่าเจออะไร"
ถูกตร.เรียกไปสอบสวนกี่ครั้ง?
ลุงพล : "ประมาณ 4-5 ครั้ง"
เขาถามอะไรลุงพล?
ลุงพล : "ส่วนใหญ่ถามเรื่องวันที่ 11 ไปไหน ยังไง เขาก็ถามตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน"
มีใครรู้เห็นเป็นพยานให้ลุงได้มั้ย?
ลุงพล : "ทุกชม.ที่ลุงไปก็มีพยานตลอด พยานทุกคนเจ้าหน้าที่ก็เรียกสอบหมดแล้ว"
ลุงพล : "พยานเขาได้ไปด้วยมั้ยก็ไปด้วย แต่เวลาอาจไม่ระบุชัดเหมือนที่ผมแจ้งเจ้าหน้าที่"

ลุงพล : "ครับ เพราะผมก็รักชมพู่เหมือนลูกคนนึง"
รู้จักแอ๋มที่อยู่ข้างบ้านมั้ย?
ลุงพล : "รู้จัก ก็เป็นลูกหลาน ญาติๆ กันนี่แหละครับ เขาสนิทกับชมพู่มั้ย ลุงไม่รู้เพราะบ้านลุงอยู่ไกลกัน ความสัมพันธ์ระหว่างชมพู่กับแอ๋ม ลุงไม่ทราบจริงๆ สำหรับลุงเองไม่มีความสงสัยในตัวแอ๋มครับ"
หมอวิเคราะห์หน่อยค่ะ?
หมอพรทิพย์ : "จริงๆ เป็นลักษณะการเอาพยานรอบๆ หรือเอาอะไรก็ได้เพื่อตัดออก แต่ทั้งหมดทั้งปวง คือหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเราไม่ทราบ ถ้าดูตามนี้น่าจะมีผลออกมา ประเด็นคือผลที่มีบวกหรือลบ ลบนี่เป็นลบที่เชื่อฟังได้ หรือเสื่อมสลายเรื่องระยะเวลาหรือความผิดพลาดที่ไม่ได้เก็บ ตรงนั้นน่าเชื่อถือกว่าพยานบุคคลทั้งหลาย ทำให้เสียชื่อเสียง เบื้องต้นวิทยาศาสตร์ไม่โกหก อย่างน้อยบอกว่าพบอะไร มันน่าเชื่อถือกว่าพยานบุคคลทั้งหลาย ทำให้เสียชื่อเสียงค่ะ ในเบื้องต้นหลักการของการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ นิติวิทยาศาสตร์ไม่ได้โกหก มันบอกว่าพบอะไร น่าเชื่อถือว่าคำพูดของคน"
ผลวิทยาศาสตร์จะบอกอะไรต่างไปจากพยานบุคคล?
หมอพรทิพย์ : "ยกตัวอย่างที่บอกว่าเวลาตาย ถ้าหมอหรือผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์เป๊ะ ถัดมาเรื่องดีเอ็นเอ ลายพิมพ์นิ้วมือ หลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุจะบอกว่าเข้าได้มั้ยกับคำพูดของคน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ ก็ไม่รู้ว่าตรงนี้ไม่มีหรือเป็นความลับ"
เรามีคุณหมอด้านนิติเวชหรือทำกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์แบบนี้เพียงพอมั้ย?
หมอพรทิพย์ : "ไม่พอค่ะ ตั้งแต่เราผลักดันมาสู่หน้าสื่อ เราก็พยายามผลักดันการปฏิรูป ตอนนั้นมี 50 ตอนนี้ 100 กว่าคน แต่ปัญหาใหญ่ไม่ใช่ไม่พออย่างเดียว แต่มันไม่มีเจ้าภาพ การตรวจหาการตายทั้งหมดที่เกี่ยวกับการตายผิดธรรมชาติ หมอนิติเวชนี่อันดับหนึ่ง หมออื่นๆ น้อย เพราะเขาเรียนน้อยมาก เขาไม่รู้เรื่องโรค เราต้องทำให้หมอนิติเวชเพียงพอที่จะสนับสนุนตร. นอกจากไปตรวจแล้ว อาจต้องมีสถานที่ผ่าศพที่เพียงพอ น้องชมพู่นี่หลักสากลหมอนิติเวชต้องเป็นคนไป ณ จุดพบศพ เวลาตาย ตายเพราะอะไร เจอขนแปลกปลอมบนตัวเด็กก็น่าจะตอบได้ว่าเป็นขนหรือเป็นอะไร"
"มันคืองานฝาก เขาก็ไปฝากหมอตามรพ.อำเภอ แล้วรพ.ปกติดูแลคนไข้ ยิ่งเจอโควิดเขาไม่เอางบมาลงตรงนี้ ฉะนั้นหมอเหล่านี้จะมีน้อย เพราะรพ.ไม่สนับสนุน การตรวจก็ไม่สนับสนุนเพราะไปกินงบ 30 บาท นี่คือไม่มีเจ้าภาพค่ะ"




กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday