“แพนเค้ก เขมนิจ” กับรักมาราธอน 8 ปี ทำไมยังไม่พร้อมเเต่งงาน?

เรื่องเรียนว่าเครียดแล้ว คนมาถามเรื่องแต่งงานบ่อยๆ เครียดกว่า?
แพนเค้ก : เครียดกว่า เพราะว่าเกรงใจคนที่ถาม คนก็จะถามตลอด ด้วยความที่เหมือนเราอยู่ในสายตาตลอด ก็จะเป็นกำลังใจให้เรา หวงเรา ซึ่งเรารู้สึกว่าคำตอบของเราก็เป็นคำตอบเดิมที่เคยได้ฟังกัน

ส่วนพี่หมีเองเขาว่ายังไงบ้าง?
แพนเค้ก : พี่หมีก็สบายๆ ไม่ได้มากดดันอะไรกัน เขาก็มาบอกเหมือนกันว่าเวลามีคนถามก็จะกดดันเล็กๆ ไม่รู้จะพูดตอบยังไง บางทีก็มีเสียงจากครอบครัวทั้งสองครอบครัว ว่ามีอย่างนั้น อย่างนี่ ทำไม นู่นนี่นั่น คือมันก็เป็นความรู้สึกเกรงใจมากกว่า

พี่หมีเขาอยากแต่งไหม เขาเคยพูดเรื่องนี้กับพี่แพนไหมว่าอยากมีลูก อยากแต่งงาน?
แพนเค้ก : ถ้าถามว่าเคยคุยกันไหม เคย แต่ว่าไม่ได้ดีเทลไปถึงตรงนั้น เรารู้สึกว่าตอนนี้เรามีหลาน แล้วเราเลี้ยงหลาน เราก็รู้สึกว่ามันหัวฟูเหมือนกันนะ แล้วก็การดูแลชีวิตของคนหนึ่งคนมันมันมีรายละเอียดในชีวิตเยอะมาก เราเลยรู้สึกว่า ณ วันนี้เราแฮปปี้แบบนี้ ซึ่งพี่หมีกับแพนก็พูดตรงกัน ก็ดอเคไม่ได้กังวลอะไรในส่วนนั้น

ค่าสอนสอดคุยกันหรือยัง มีตัวเลขหรือยัง?
แพนเค้ก : อันนี้ให้เป็นเรื่องในครอบครัวของเราแล้วกัน คราวที่แล้วเราพูดไปเราอาจจะพูดสนุกกันในรายการ หรือเราพูดเล่นๆ กัน แต่บางทีฟีดแบ็กที่กลับมา คนตีความได้หลากหลาย

ตอนที่มีดราม่าเรื่องค่าสินสอดถือว่าหนักสุดไหม?
แพนเค้ก : ไม่ค่ะ แต่ว่ามันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มันกระทบกับคนอื่น เรารู้สึกไม่สบายใจ มากระทบถึงคุณแม่อย่างนี้ คนก็จะมองไปหลากหลายรูปแบบ

เวลาเจอดราม่ามันทำให้ดรอปความรู้สึกดีๆ ของเราไปไหม?
แพนเค้ก : บ่อยค่ะ จริงๆ มันก็มีหลายๆ เรื่อง ก็ต้องพยายามตั้งสติ โอเคไม่อ่านเยอะแล้วกัน หรือว่าถ้าเรารู้ว่าเรื่องนี้เป็นยังไง ถ้าเราสบายใจ คนในครอบครัวไม่ได้กังวลอะไรเราก็ไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านั้น

เลี้ยงหลานเป็นยังไงบ้าง?
แพนเค้ก : เหมือนเลี้ยงเยอะ แต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้น แต่ด้วยความที่เรารู้สึกว่าเราได้เห็นชีวิตหนึ่งชีวิตโตขึ้นมาในบ้านมันมีรายละเอียดในชีวิตเยอะมากๆ เราเลยรู้สึกว่าสร้างเด็กคนหนึ่งขึ้นมามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราเลยรู้สึกว่าเราเลี้ยงหลานก่อนดีกว่า แล้วด้วยความที่เรามีอะไรที่เราอยากทำ อยากเที่ยว ยังไม่อยากห่วงอะไรเยอะ เราก็เลยสบายๆ แบบนี้ มีลูกหมา 3 ตัว แค่นี้ก็ห่วงจะแย่อยู่แล้ว คนอาจจะบอกว่าไม่เหมือนกัน ใช่ แต่ในความรู้สึกของเราเราแบบค่อยๆ ไปดีกว่า

พี่หมีรักเด็กไหม?
แพนเค้ก : เหมือนกันกับแพนนี่แหละ รักหลาน แต่ว่าจะเล่นได้แป๊บๆ ก็จะคืนพ่อ แม่เขาล่ะ

แต่ดูจากภายนอก ดูทั้งคู่พร้อมแล้วจริงๆ แต่ทั้งคู่ก็ยังอยากมีชีวิตอิสระ?
แพนเค้ก : แพนว่าเราก็ยังอยากมีมุมอะไรแบบนั้นกันอยู่ ยังมีมุมที่เราอยากทำ มีมุมของตัวเอง มุมที่เราได้ทำอะไรด้วยกัน แพนว่าเรายังต้องการเวลาในส่วนแบบนั้นอยู่ ก็เลยคิดว่าตอนนี้แบบนี้น่าจะเหมาะกว่า

เขาบอกว่าพี่แพนเป็นสายชิล แต่พี่หมีเป็นสายจริงจัง มีขัดแย้งกันไหมในความที่เราไม่เหมือนกัน?
แพนเค้ก : บ่อยมาก ด้วยความที่คนมีลักษณะนิสัยไม่เหมือนกันแล้วมาอยู่ด้วยกัน พอรู้จักกันมากขึ้นมันก็มีที่ไม่เข้าใจกันทุกเรื่อง พี่หมีเป็นคนแบบฟอร์มเยอะ จริงจัง ก็อาจจะด้วยสายงาน ด้วยการทำงาน ด้วยตัวเขาเองด้วย เขาก็ค่อนข้างเนี๊ยบ มีระเบียบ มีวินัยในการดำเนินชีวิตของเขา ในขณะที่เราชิลอะไรก็ได้ คือมันผ่อนไปหมดในบางเรื่อง พอมาเจอกันก็เลยต้องจูน

แล้วทำไมต้องเป็นพี่หมี?
แพนเค้ก : นั่นนะสิ มันมีเรื่องที่ต้องเจอกัน ณ เป็นช่วงเวลาตรงนั้น วันที่เจอกันเขาไม่รู้ว่าแพน คือแพนเค้ก เขารู้ว่าเราคงเป็นคนหนึ่งที่มีชื่อเสียง

ในสายตาเราพี่หมีเป็นคนน่ารักยังไง?
แพนเค้ก : ก็เป็นคนดุๆ เป็นคนเนี๊ยบๆ เจ้าระเบียบนิดๆ แต่ถึงเวลาชิลก็ชิล แต่อย่างที่บอกเขาเป็นคนเสมอต้น เสมอปลาย ดูแลเรา ดูแลครอบครัว เขาอยู่ข้างๆ ตลอด

เขาตามใจไหม?
แพนเค้ก : ตามใจค่ะ ตารามใจจนที่บ้านว่าเหมือนกันว่าไม่ต้องตามใจน้องเยอะขนาดนี้ก็ได้ บางทีก็ตามใจกันจนเกินเรื่องไป

แล้วรู้จักกันนานไหมถึงขอเป็นแฟน?
แพนเค้ก : จำไม่ได้เหมือนกัน มันน่าจะมีความรู้สึกซึมๆ ไปมากกว่า

เห็นว่าไม่เคยขอเป็นแฟนกันแบบเป็นทางการ?
แพนเค้ก : ถ้าถามตอนนี้จำไม่ได้ว่าได้พูดอะไรกันไหม แต่ว่าด้วยความที่ได้เจอกันบ่อยๆ ได้ทานข้าว เป็นช่วงวาเลนไทน์พอดีก็เหมือนรู้กัน

แล้วแบบนี้เราจะมีวันครบรอบยังไง?
แพนเค้ก : เราก็นับจากวันที่เราเจอกัน บางทีเราก็เปลี่ยนนับจากวันที่ได้กินข้าวกัน หรือว่าเจอกันครั้งแรก เราก็เลยบอกว่านั้นสบายๆ แล้วกัน เอาช่วงเวลาที่เจอกัน ก็เลยไม่ได้ฟิก เรื่องของขวัญบางทีไม่ต้องรอวันพิเศษ อยากได้ขอเลย

พี่หมีมีมุมหวานๆ บ้างไหม?
แพนเค้ก : ก็มีมุมที่เขาอยากทำให้เรา อยากดูแลเรา เซอร์ไพรส์แรกๆ มีเหมือนกัน แต่หลังๆ เซอร์ไพรส์จนเราไม่ค่อยเก็ท บางทีเราก็กลัวการเซอร์ไพรส์ บางอันก็สำเร็จ บางอันก็ไม่สำเร็จ เพราะเรารู้ก่อน

ไม่ได้ขอเป็นแฟน แต่เคยขอเลิก?
แพนเค้ก : เคยแบบว่าจะทนไม่ไหวแล้วนะ ช่วงแรกๆ ที่รู้จักกัน เขาบอกว่าการที่เขามายืนอยู่ข้างๆ เรามันไม่ง่ายเลย เขาต้องเจออะไรมากมาย เสียงจากคนรอบตัว เสียงที่เข้ามาถึงตัวเขา ซึ่งเราก็บอกว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอยู่ตรงนี้เรารับมือได้ แต่พอคนที่เขาไม่ต้องโดนสัมภาษณ์ โดนตาม โดนแอบถ่ายรูป เขาก็ไม่รู้ว่าเขาต้องรับมือกับเรื่องราวเหล่านี้ยังไง มันก็มีอะไรหลายอย่างที่รู้สึกว่าทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้

แล้วเรากู้สถานการณ์ยังไง?
แพนเค้ก : เราก็ต้องคุย บอกเขาว่าธรรมชาติมันเป็นแบบนี้ พี่ๆ เขาทำงานกันแบบนี้ แล้วก็มันไม่ได้มีอะไร บางทีมีภาพที่เขาได้ได้ไปลง แล้วเขารู้สึกว่าเขาไม่โอเคเลย เขาก็จะรู้สึกเฟล แล้วคนก็จะมาพูดถึงเขาในมุมต่างๆ ที่เขาก็สึกว่าไม่สบายใจ ก็คงมีหลายอย่างที่กลับมาที่เขา เขาอยู่ในชีวิตของเขา เขาก็ดอเคอยู่แล้ว เหมือนกับไม่ต้องให้คนมาพูดถึงเขา แต่พอเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มรู้สึกด้วยตัวเองว่า เขาต้องดูแลตัวเองแล้ว

แล้วเวลาเราแต่งตัวเซ็กซี่ มีแบบน้องแพนมันเซ็กซี่ไปนะ มีไหม?
แพนเค้ก : เขาจะไม่พูดขนาดนั้น เขาจะรู้ว่าเราจะแต่งตัวตามเหตุการณ์ที่ไปทำงาน ซึ่งอันนั้นเขาจะไม่ได้ห่วงอะไร เวลาไปเที่ยว อยู่ด้วยกัน อยู่กับครอบครัว อันนั้นเขาก็โอเค มันไม่ได้เยอะเกินไป

แล้วล่าสุดในการเล่นภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่น้องแพนต้องใช้วาจาผรุสวาท ซึ่งไม่มีใครเคยได้ยินน้องแพนพูด?
แพนเค้ก : มันก็มีแหละ ด้วยความที่พูดกับเพื่อน แต่มันก็อาจจะไม่ได้บ่อย