เปิดใจ ผอ.ประกวด นางสาวสมิหลา ยันไม่ล็อกมงฯ - แจงเหตุ น้องอร ตุ๊บ
อร : "ตอนแรกหนูอยู่ข้างล่างค่ะ ยังไม่ขึ้นเวที หนูอยู่ที่โต๊ะคระกรรมการ ที่หนูอยู่ตรงนั้นเพราะหนูอยากได้รับคำชี้แจงเกี่ยวกับการลงคะแนนค่ะ ต้องการดูใบคะแนน แต่ทางคณะกรรมการและพี่ที่รวมคะแนน เขาไม่ได้มีคำอธิบายและคำตอบให้หนู จริงๆ เสียงในงานค่อนข้างดัง เขาไม่ได้ยินเสียงที่หนูพูดเลย หนูเลยต้องตะเบ็งเสียงออกไป ในภาพหรือคลิปที่ออกไป เลยดูเหมือนหนูรุนแรงหรือก้าวร้าว ที่เดินไปหยิบไมค์ พี่ๆ ทีมงานเขาบอกว่าไม่ได้ยินหนู เลยคิดว่าการใช้ไมค์พูดออกไป พี่ๆ เขาต้องได้ยินหนูแน่ๆ นี่คือเหตุผลที่เดินไปหยิบไมค์ เพราะข้างล่างตรงโต๊ะคณะกรรมการ เขาเก็บไปเลย หนูไม่ได้มีโอกาสจับตรงนั้น และหนูเห็นว่าไมค์ที่เหลืออยู่มีตรงแค่พิธีกร หนูเลยเดินไปตรงนั้น"
ตอนได้ไมค์มาพูดว่าอะไร?
อร : "หนูพูดว่าหนูกับน้องๆ อีก 4-5 คนที่ตกรอบ พวกเราเคยไปประกวดมาแล้วทั่วประเทศหลายเวที เป็นทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ เรารู้ว่ามันเหมือนเกมกีฬา มีแพ้มีชนะ มีเวลาที่เราไม่ควรเข้ารอบ เดินไม่ดี ตอบคำถามไม่ดี เราไม่ควรได้รับมงกุฏ เรารู้ตลอด แต่งานนี้สิ่งที่เกิดขึ้น คือพวกเรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม ไม่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่หนูพูดไป"
หลังจากนั้นคณะกรรมการว่ายังไง?
อร : "ไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากท่านคณะกรรมการ และมีการไปคุยกันในห้องหลังเวที และหยุดการประกวดไปเลย เขาไม่ได้ตอบคำถาม เห็นแค่ใบคะแนนใบเดียวที่กำลังแชร์อยู่ในโลกโซเชียล เราเพิ่งมาเห็นตอนคุยกันข้างหลัง มีคณะกรรมการโหวตให้หนูเข้ารอบ 9 คน เป็นคะแนนที่สูงสุด แต่หนูไม่ได้เข้ารอบ ก็เลยทำให้เกิดประเด็นว่าทำไม"
อร : "เขาบอกว่าหนูเข้ารอบก็จริง แต่หลังจากนั้นเขามานั่งคุยกันว่าอยากปรับเปลี่ยนหรือเอาใครออกมั้ย แล้วเขาก็บอกว่าต้องการเปลี่ยนตัวหนูออก นี่คือที่เขาชี้แจง ส่วนหนูก็บอกตรงๆ ว่าไม่ได้เข้าใจกับคำชี้แจงน้้นเท่าไหร่"
รู้สึกรับไม่ได้?
อร : "เรารับฟัง แต่รู้สึกว่ามันไม่ได้มีความสมเหตุสมผลมากพอค่ะ เราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่รับฟังค่ะ"
คิดว่าล็อกหมายเลขผู้ชนะหรือเปล่า?
อร : "ก่อนมาประกวด อรได้ข่าวมาแล้วว่ามีการล็อกตำแหน่ง ล็อกผู้ได้รับตำแหน่งทั้งหมดเลยนะ และมีพี่เลี้ยงนางงามบางค่ายที่ถอนตัวไปแล้ว แต่อรรู้สึกว่าเวทีนี้เป็นเวทีในตำนาน เป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ อรก็มีความเชื่อลึกๆ ว่ามีความยุติธรรม อรเลยตัดสินใจมาประกวด ถึงแม้ว่าจะได้ยินข่าวตรงนั้นมา ก็ยังเลือกที่จะมาค่ะ"
อร : "สิ่งที่เกิดขึ้น อรเชื่อว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้แล้วในการประกวดนางสาวสมิหลาปีนี้ เพราะทุกอย่างจบลงไปแล้ว อย่างที่ทุกท่านทราบว่าปีนี้ไม่มีนางสาวสมิหลา เงินรางวัลได้ถูกหารแบ่งกัน แต่ถามว่าจะเปลี่ยนอะไรได้มั้ย อรเชื่อว่าในอนาคตต่อๆ ไปจะต้องดีกว่านี้ อาจไม่ใช่แค่งานสาวสมิหลา แต่จะรวมไปถึงงานต่างๆ ที่จะจัดขึ้นในอนาคต อรเชื่อว่าต้องมีความระแวดระวังและมีความโปร่งใสมากขึ้นค่ะ อรคิดว่าจะยกระดับและทำให้นางงามเดินสายกลับมาเป็นนางงามเดินสายแบบแต่ก่อน และน่าเชิดชูมากกว่านี้ค่ะ"
ตอนรอบสัมภาษณ์ได้คำถามว่าอะไร และตอบว่ายังไง?
อร : "ทุกคนได้คำถามเดียวกันค่ะ และต้องตอบทัศนคติ เอาคร่าวๆ นะคะ เขาถามว่าถ้าโลกจะแตก เราสามารถเลือกให้กลุ่มคนหนึ่งกลุ่มย้ายไปอยู่โลกใบใหม่ไปอยู่ในที่จำกัด คุณจะเลือกกลุ่มไหนแล้วคุณเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มคนนั้นด้วยมั้ยเพราะอะไร อรตอบว่าถ้าอรจำเป็นต้องเลือกจริงๆ อรไม่ใช่บุคคลที่อยู่ในกลุ่มนั้นหรอกค่ะ อรจะเลือกผู้นำศาสนาทุกๆ ศาสนา เพื่อสร้างโลกใบใหม่โดยใช้ความเชื่อและความศรัทธาหล่อหลอมเป็นพลังแห่งความดี เพราะอรเชื่อว่าถึงแม้ทุกศาสนามีหลักคำสอนที่ต่างกัน แต่ทุกศาสนาๆ มีหลักคำสอนที่เหมือนกัน คือให้คนเราทุกคนทำความดี ซึ่งความดีคือสิ่งที่คนไทยทั้งชาติกำลังต้องการ เพราะความดีนี่แหละเป็นบ่อเกิดของทุกอย่าง ไม่ว่าจะความรัก ความสามัคคี และสิ่งนี้จะทำให้เราร่วมมือและฟันฝ่าวิกฤตไปได้ ประมาณนี้ค่ะ"
เราได้คะแนนเท่าไหร่จากคำถามนั้น?
อร : "ก็ยกมือโหวต 9 ท่านค่ะ ยกมือว่าโหวตให้หนูเข้าไปรอบคะแนนนตอบคำถามค่ะ"
อร : "ตอนนั้นเราไปคุยกันหลังเวที ใบนี้เราได้มาจากผู้ใหญ่ที่จัดงานเอามาให้ค่ะ เป็นหนึ่งในกรรมการค่ะ มีการวงกลมคนได้คะแนน 5 อันดับแรกเพื่อประกาศเข้า 5 คนสุดท้าย ซึ่งในนั้นมีวงเลขของหนู ตอนแรกเขาบอกว่าใบนั้นเป็นใบคะแนนคณะกรรมการท่านเดียว แต่พอถามไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าเป็นผลรวมของคะแนนตอบคำถามโดยใช้วิธีการโหวต สักพักเขาบอกว่าเป็นแค่คะแนนตอบคำถามอย่างเดียว ไม่รวมคะแนนความสวย 60 เปอร์เซ็นต์ นี่คือตลอดเวลาที่คุยกัน 1 ชม. คร่าวๆ เป็นอย่างนี้ค่ะ"
ปีนี้ไม่มีนางสาวสมิหลา แล้วเงิน 2 แสนบาททำยังไง?
อร : "เรานำมาหาร 10 เลยค่ะ และให้ผู้เข้าประกอบ 10 คนสุดท้ายคนละ 2 หมื่น"
เป็นข้อเรียกร้องนางงามหรือมติกรรมการ?
อร : "พี่เลี้ยงเสนอค่ะ และคณะกรรมการก็เห็นด้วยค่ะ"
เสียใจมั้ยกับการประกวดครั้งนี้?
อร : "ต้องยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ เรื่องที่เกิดขึ้นบั่นทอนความรู้สึกมาก มันทำให้เรารู้สึกว่าทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ เรามาเพราะรักในวงการนางงาม เราอยากมาประกวดที่นี่ เราเห็นว่าเป็นเวทีมีเกียรติ ทรงคุณค่า ยิ่งใหญ่ สืบต่อมาหลายปีแล้ว ความรู้สึกแย่ที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นหลายท่านให้กำลังใจ ไม่ว่าจะไลฟ์ หรือเฟซบุ๊ก รวมทั้งในงาน มันเป็นพลังบวกที่ทำให้เรารู้สึกแย่น้อยลง แต่ไม่ปฏิเสธเลยว่าหนูรู้สึกเสียใจ หนูเฟลกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก หนูมีใจรักกับการเป็นนางงามมากๆ"
อยากพูดอะไรกับคณะกรรมการ?
อร : "หนูไม่รู้จะพูดอะไร แต่ขอพูดกับคนที่เชียร์ ติดตามข่าว หนูอยากบอกว่าขอบคุณจริงๆ ขอบคุณพี่ๆ ทุกๆ ท่านที่เป็นพลังบวกให้หนูกับน้องๆ อีก 4 คน สิ่งที่ทำอยู่มีคนซัปพอร์ตและเข้าใจเรา และอยากขอโทษผู้ใหญ่ทุกท่านที่เป็นคนจัดงาน ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร หนูขอโทษที่ทำให้งานประกวดนางสาวสมิหลาต้องยุติลง หนูก็อยากขอฝากถึงเวทีการประกวดต่างๆ ที่กำลังจะจัดขึ้นในอนาคต หนูยังเชื่อมั่นในความยุติธรรม หวังว่าวงการประกวดนางงามของเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้สักวันค่ะ"
นพ.ปวริศ : "ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนครับ"
เกิดอะไรขึ้น น้องอรถึงลุกขึ้นมาเรียกร้องหรือประท้วงคณะกรรมการว่าการตัดสินไม่เป็นธรรม?
นพ.ปวริศ : "จริงๆ เป็นรอบ 10 คนสุดท้ายเลือกผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ซึ่งกระบวนการในการคัดเลือกคือกรรมการลงคะแนนในเรื่องความสวย 60 เปอร์เซ็นต์ คำถาม 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลทั้งหมดคนที่เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายเป็นผลที่เป็นที่สิ้นสุดการตัดสินของการประกวดนางสาวสมิหลาประจำปี 2563 มาจากทั้ง 9 คน มีการเซ็นรับรองเรียบร้อย"
ถ้าคะแนนเป็นเอกฉันท์ ทำไมถึงต้องมีการโหวตนางงามเข้ารอบ 5 คนถึง 2 รอบ?
นพ.ปวริศ : "เราให้คณะกรรมการทุกท่านเลือกแล้วคัดมา 5 คนในคะแนนที่คิดว่าควรเข้า 5 คนที่หนึ่งถึงเก้า โผที่หลุดออกมาเขาเรียกว่าเป็นการติ๊กการโหวตของคณะกรรมการที่ใครบ้างที่คิดว่าน่าจะเข้า 5 คน แต่ผลสุดท้ายมาได้ 6 คน ได้มาปุ๊บก็ต้องมาคุยในคณะกรรมการอีกครั้ง ว่าใครควรเป็น 5 คนที่ได้รับตำแหน่งนางสาวสมิหลาประจำปี 2563
นพ.ปวริศ : "มีครับ ตอนนั้นน้องได้โหวตมากที่สุด ได้ 9 คะแนนจากกรรมการทุกคน แต่การโหวตนั้นไม่ได้หมายความว่าน้องจะเข้ารอบ โจทย์ปีนี้เป็นการประกวดแนวใหม่ของการค้นหานางสาวสมิหลาครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนแปลง คือเราหานางงามที่สวย ออร่า มีความเป็นดารา สามารถต่อยอดได้ มีความพร้อมใช้ในทุกๆ ด้าน มีสมอง มีทัศนคติที่ดี ที่สำคัญนางสาวสมิหลาต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ แสดงอัตลักษณ์ของจังหวัดสงขลาได้ดีที่สุด คือกรรมการก็ต้องมีการประชุมคัดอีกทีว่าใครควรเข้า 5 คน ซึ่งผลก็ออกมาตามที่ทุกท่านได้เห็น"
เขาก็ตกรอบไป ไม่ได้เข้ารอบ เขาตกรอบเพราะอะไร?
นพ.ปวริศ : "ก็เหตุผลนี้แหละครับ เพราะกรรมการทุกท่านต้องมาตอบโจทย์ของเวที ว่าต้องการนางสาวสมิหลารูปแบบไหน"
การคัดเลือกหรือให้คะแนนเป็นความลับสุดยอด มันหลุดออกมาได้ยังไง?
นพ.ปวริศ : "เอาง่ายๆ นะครับ ใบนั้นเป็นแค่เพียงเศษกระดาษ ไม่มีลายเซ็นรับรอง กองประกวดค่อนข้างจัดงานใหญ่โต เป็นงานใหญ่ของจังหวัด เงินรางวัลเป็นแสนบาท มีเครื่องปริ๊นท์ใหญ่ว่างอยู่ข้างๆ เป็นไปไม่ได้ แล้วผมเป็นหมอ จะเอาใบกิ๊กก๊อกใบนั้นมาเป็นใบคะแนน"
เป็นใบที่โหวตให้คะแนนจริง?
นพ.ปวริศ : "เป็นโหวตครั้งแรก กระบวนการไม่ได้สุดแค่นั้น ผมอยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่าง"
มีการกลับไปตรวจสอบมั้ยว่าใครตั้งใจปล่อยหรืออยากให้เกิดเรื่องหรือเปล่า?
นพ.ปวริศ : "เอาตรงๆ เลยนะครับ ในห้องมีอยู่ไม่กี่คน ผลที่ออกไปก็จะเป็นทีมงานทั้งนั้น แต่โดยส่วนตัวผมรับงานนี้ทำด้วยใจ มีความโปร่งใส อยากให้เวทีของจังหวัดไปในแนวโน้มที่ดีขึ้น มีความเป็นสากล จริงๆ ผมน้อยใจ แต่ขอฝากอย่างหนึ่งจากวันนี้ไป ผมไม่ขอรับงานเวทีของจังหวัดถ้าใครมาทาบทามหรืออะไรก็ตาม ขอรับแค่เวทีมิสแกรนด์สงขลาอย่างเดียว เพราะมิสแกรนด์คือครอบครัวของผมที่ดูแลดีที่สุด และเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย"
เวทีนี้มีการล็อกตัวนางงามมั้ย?
นพ.ปวริศ : "เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการล็อกตัวนางงามครับ"