ทนายดัง เปิดกม.ศรรามต้องใช้หนี้แทนติ๊กเพราะสินสมรส!

"เขียนไม่ได้ครับ อันนั้นผิดหลักกฎหมาย แม่มีสิทธิ์เจอลูก แต่ผมเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง ผมจะเอาลูกไปอยู่บ้านใครก็ได้ ถ้าไม่อนุญาตแม่ก็ไม่ให้เจอ นี่คือความแตกต่าง โดยปกติการหย่าร้างที่แฟร์ที่สุดต้องให้อำนาจปกครองบุตรเท่ากัน เวลามีเรื่องทะเลาะกันแบบนี้ จะได้ต่างคนต่างอ้างสิทธิ์ในการเลี้ยงดูถ้าจะพาลูกไปเที่ยว แต่ปรากฎว่าในการหย่ายกให้พ่อคนเดียวแล้ว วันข้างหน้าแม่จะเอาไปเลี้ยงบ้าง แต่พ่อไม่อนุญาตนี่คือจบเลยนะครับ เพราะเขียนเอาไว้แล้ว และถ้าหากจะต้องแก้ไขอำนาจปกครองบุตร เรื่องใหญ่มากๆ นะครับ"

"คุณศรรามต้องปรึกษาทนายความมาแล้วแน่นอน เรื่องนี้สำคัญมาก โดยปกติคนเราถ้าหย่ากัน ต้องให้อำนาจปกครองบุตรคู่กัน น้อยรายมากที่แม่ให้พ่อเลี้ยง ปกติผัวให้เมียเลี้ยง แล้วผัวส่งเงินให้ แต่นี่ระบุเลยว่าคุณหนุ่มจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรเอง ภรรยาไม่ต้องจ่าย เหตุผลอาจมองว่าคุณหนุ่มมีการงานมั่นคง อยู่กับพ่อน่าจะมีอนาคตที่ดีกว่า นั่นอาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง"

"ผมว่าทำไม่ได้ ทำได้แค่ขอให้ได้เจอ แต่จะไปเพิกถอนอำนาจปกครองบุตรคุณศรราม หรือให้เมียเป็นปกครองร่วมยากมาก คุณเซ็นไปแล้ว คุณสมัครใจเซ็น การไปเพิกถอนอำนาจปกครองบุตรของพ่อ โดยปกติแล้วพ่อต้องมีพฤิตกรรมชั่วช้า ทำร้ายร่างกายลูก ข่มเหงลูก หรือสำมะเลเทเมา ซึ่งคุณหนุ่มเขาไม่ใช่อย่างนั้นเลย ผู้ชายทั่วไปต่อให้เลิกกันก็ไม่ใช่อย่างนั้น"

"วันใดก็ตาม เป็นแฟนกันเรายังอ้างได้ว่าไม่รู้แฟนเป็นหนี้อะไรมา แต่เราเป็นคู่สมรสกัน จดทะเบียนกฎหมายรับรองแล้ว จดทะเบียนปุ๊บ กฎหมายบอกเลยว่าเงินที่ได้มาหลังจดทะเบียนถือเป็นสินสมรส หมายถึงผู้ชายกับผู้หญิงมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน แล้วเมื่อเจ้าหนี้้ต้องการสินสมรสของฝ่ายเมีย หนุ่มไปหาไปร้องเพลงมาได้เป็นแสนเป็นล้าน เมียมีสิทธิ์ครึ่งนึง เจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์มาเอาสินสมรส แม้เมียจะอยู่บ้านเฉยๆ ผัวไปร้องเพลงตามร้านอาหาร ได้เงินมาเป็นล้านก็ตาม เจ้าหนี้เขามีกรรมสิทธิ์ในหนี้สินของเมีย เขาสามารถทำได้"

"เขาก็ทวงได้ เพราะตอนนี้ตัวทรัพย์สินยังแยกไม่หมดว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็ครอบคลุมระหว่างทรัพย์สินระหว่างจดทะเบียนสมรสกันนะครับ ทรัพย์สินเก่ายุ่งไม่ได้ ทรัพย์สินหลังหย่าก็ยุ่งไม่ได้ เป็นภาระที่คุณหนุ่มต้องหามาชี้แจง เพราะงั้นอย่าแปลกใจที่เจ้าหนี้ต้องไปเคาะประตูบ้านคุณหนุ่ม ศรราม เขามีสิทธิ์ทวงในส่วนนั้น"

"ใช่ครับ จนกว่าหนี้สินหรือทรัพย์สินที่เป็นสินสมรสจะหมดไปแล้ว ถ้าบอกว่าไม่มีเงินแล้วนะ สินสมรสจ่ายหมดแล้วตั้งแต่คบกันมาก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว แต่คำถามคือเวลาทนายเขาฟ้อง เขาก็ฟ้องทั้งคู่อยู่ดี เพราะเป็นสินสมรส"

"ใช่ครับ ที่เหลือก็ไปฟังว่าใครพูดจริง ใครพูดไม่จริง แต่ถ้าพี่หนุ่มจะเอาให้กระจ่างกว่านี้ ควรให้คนมีหนี้บอกมาเลยว่าเขามีหนี้กี่เจ้า แล้วคำนวณสินสมรสเลยว่าเหลือมั้ยแล้วประกาศไปเลยว่าเจ้าหนี้ไม่ต้องมายุ่งแล้ว เพราะไม่เหลือแล้ว สินสมรสไม่ได้แบ่งแสดงว่ายังเหลือ แต่เขาต้องมาคุยให้จบว่าเหลือไม่เหลือ และแจ้งเจ้าหนี้ด้วย เจ้าหนี้จะได้มารับชำระหนี้"

"อดีตแฟนควรแจงให้ชัด เพราะพี่หนุ่มไม่มีปัญหาเรื่องหนี้ แล้วดูว่าเหลือไม่เหลือ ถ้าไม่เหลือก็จบกันไป"

"อย่างแรกเลย ผมดีใจระดับหนึ่ง ที่คณะกรรมการที่นายกฯ ตั้ง มีคำตอบให้สังคมแล้วว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น แม้แต่ระดับสูง ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ยังบอกเลยว่าผิดจริยธรรม ฉะนั้นสำนวนตัวนี้มีปัญหา แต่ที่แปลกและไม่น่าเชื่อไปกว่านั้นคืออ.วิชา สรุปมาประเด็นนึงน่าสนใจ 8 กลุ่มที่เกี่ยวข้องในการทำให้สำนวนบอสมีปัญหา ทำไมมากถึง 8 กลุ่มขนาดนี้ ปกติต้องจบแค่ชั้นตร. อัยการ เฮ้ย แสดงว่านี่ไปถึงกรรมาธิการ ไปถึงพิสูจน์หลักฐาน หน่วยงานอื่นๆ อีก ซึ่งเรื่องนี้อ.วิชาท่านตรงไปตรงมามาก ท่านกล้าสรุปเลยว่า 8 กลุ่ม แล้วเสนอท่านนายกฯ ไป"

"แต่ประเด็นที่น่าสนใจ ประเด็นเรื่องความเร็วของรถ สังเกตมั้ยสื่อ นักกฎหมายตามเรื่องนี้เยอะมาก คือคนสงสัย เด็กยังสงสัย มันพีคมากเลยนะ ที่วันหนึ่งตัวผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานหน่วยนี้ที่ทำความเห็นว่าไม่ถึง 80 บอกว่ามีคำสั่งจากผู้ใหญ่ระดับสูง สั่งให้เขาเปลี่ยนความเห็นใหม่ แต่ด้วยความที่เขาก็กลัวเขาก็บันทึกเสียงไว้หมด ลองคิดดูสิครับ พิสูจน์หลักฐานต้องเป็นกลางมั้ย เป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับศาลนะ เวลาศาลจะลงโทษใครฟังพิสูจน์หลักฐานเป็นหลัก คือใช้มาประกอบการพิจารณา วันนึงเขากำลังบอกสังคมไทยว่าพิสูจน์หลักฐานที่เราเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ มันสั่งได้"

"นายกฯ ใช้อำนาจตามพ.ร.บ.บริหารแผ่นดิน ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ถ้าท่านไม่สบายใจท่านไม่ต้องมาก็ได้ ไม่มีโทษอะไร เพียงแต่ว่าด้วยระบบข้าราชการขอความร่วมมือไปแล้วต้องมาให้ ให้แล้วอ.วิชาส่งต่อให้ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ เมื่อป.ป.ช.ดำเนินการต่อจะสั่งสอบเพิ่มยังไงก็เป็นสิทธิ์ ป.ป.ช. แล้ว อันนี้เป็นการสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้แปลกพิศดารอะไร ไปพาดพิงถึงใครเขาก็ต้องเชิญมาถาม อัยการจะไม่มาก็ได้ แต่ที่อัยการต้องมาเพราะกระแสสังคมกดดัน ลองอัยการไม่มาสิ คนก็ยิ่งคิดไปใหญ่ อันนี้ต้องบอกว่านายกฯ ประชาชนไม่ได้ขอร้องให้มา แต่ถ้าไม่มาเป็นเรื่อ่ง เพราะงั้นหน่วยงานคุณ องค์กรคุณ ถ้าทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ คุณต้องชี้แจงกับสังคม"

"ถ้าย้อนไปเดือนก่อน ผมพาน้องๆ นักศึกษาไปยื่นที่ป.ป.ช. ไว้แล้ว นายกฯ สั่งสำนวนจากอ.วิชามาป.ป.ช. ได้เลยครับ และใช้อำนาจตามกฎหมายชี้มูลได้เลยว่าผิดหรือถูกยังไงบ้าง ป.ป.ช. มีอำนาจสอบอัยการสูงสุดอยู่แล้ว อ.วิชา เป็นอดีตป.ป.ช. เก่า แนวทางสอบก็น่าจะมาจากป.ป.ช. ผมว่าพอข้อมูลชุดนี้ไปถึงป.ป.ช. มันน่าจะไวขึ้น"

"ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดไว้เลยว่าถ้ามีการกล่าวโทษข้าราชการ ต้องส่งไปให้คณะกรรมการป.ป.ช. เป็นคนพิจารณาก่อน เมื่อ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว เขาจะส่งไปป.ป.ท. หรือส่งกลับไปทางตร. เป็นอำนาจเขา หรือเขาจะตั้งกรรมการพิจารณาเอง แต่มีระยะกำหนดนะ ภายใน 1 ปี ต้องพิจารณาว่าจะไปหน่วยไหน และบวกอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปีว่าจะชี้มูลหรือไม่ชี้มูล"

"อันนี้น่าสนใจ กลุ่มที่อ.วิชาคิดว่าหลักฐานชัด และหลักฐานที่ถอดเทปมาผมว่ามันชัดระดับหนึ่ง ผมว่างานนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิสูจน์หลักฐานโดนแน่นอน เพราะมันชัด มีโอกาสมากที่ขึ้นสู่ศาลแล้วศาลจะพิจารณาลงโทษ ต่อให้ถูกผู้บังคับบัญชาคุกคามยังไงก็ตาม เราเป็นเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม เราก็ต้องกล้าสู้ เมื่อเรายอมแพ้ และทำให้กระบวนการยุติธรรมแพ้ไปด้วย ผมว่าก็เรื่องนี้ก็เป็นความผิดทางกฎหมาย และเราไม่เคยรู้เลยว่าถ้าคดีนี้สั่งได้ แล้วคดีอื่นๆ ล่ะ มันจะทำให้เกิดปัญหาความเชื่อถือในกระบวนการไปหนัก แต่มุมนึงต้องยอมรับว่าวันนี้ที่กล้าคุยกันทำให้อนาคตเราอาจแก้ไขปัญหานี้ได้ก็ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดแล้วไม่ได้แก้ไขกันเลย"

อ.วิชากันคนสองคนไว้เป็นพยาน คือนายตำรวจที่พูดเรื่องความเร็ว แล้วก็อาจารย์ที่มาดูความเร็ว หลายคนก็ตั้งคำถามว่าเขาก็ผิดทำไมตั้งเป็นพยาน ถ้าสอบสวนแล้วเขาผิด การเป็นพยานเขายังผิดอยู่มั้ย?

"ตามกฎหมายอาญา ประมวลวิธีพิจารณาความอาญาไม่มีเรื่องกันไว้เป็นพยาน แต่กฎหมายป.ป.ช. มีเรื่องการกันเอาไว้เป็นพยาน คนละฉบับ ไม่ใช่ป.วิอาญา ใครที่บอกว่ากันไม่ได้ กันได้ แต่ให้ป.ป.ช. กัน แต่เงื่อนไขป.ป.ช. กันพยานต้องเป็นพยานปากเด็ดเอาผิดผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้จริงๆ"

"เขาทำผิดเพราะระบบบังคับบัญชาสั่งใช้มั้ย ถ้าเป็นแบบนี้ต้องเอาผิดคนสั่งการ ตัวต้นเหตุให้ได้ แม้จะตำแหน่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม กันระดับล่าง ดำเนินคดีระดับบน ถ้าวันนี้ผมเป็นคนที่เขาอ้างถึงผมเริ่มกลัวแล้วนะ ถ้ากันพวกนี้ไว้เราจะไม่ถึงข้างบน คิดว่าอยู่ดีๆ เขาจะกล้าไปกล่าวหาผู้บังคับบัญชาระดับสูงเหรอ"

"ผมว่าเรื่องนี้ปาหี่ ไม่เชื่อว่าจะเอาผิดได้ ต่อให้รื้อคดีอะไรก็ตาม เพราะสำนวนส่วนหนึ่งมันเสียไปแล้ว มันทำให้ทนายคุณบอสโต้แย้งในชั้นศาลด้วย ต่อให้คุณบอสผิดจริง ถ้าการสอบสวนไม่ชอบก็ลงโทษไม่ได้"

"แต่ถ้าเขามาก็ไม่จำเป็นต้องเปิดตัวไงครับ เขามีเงินอยู่แล้ว"