โรส ศิรินทิพย์ ทรุด! ผู้ใหญ่ในวงการหลอกกว่า 10 ล้าน ซ้ำโดนขู่

หลายคนคิดถึง เพราะห่างหายจากหน้าจอและผลงาน คอนเสิร์ตก็ไม่ยอมไป เกิดอะไรขึ้น ?
โรส : จริงๆ ถ้าเขาจ้างก็ไป แต่ก็มีช่วงนึงที่ชีวิตก็ดำดิ่งเหมือนกัน

เล่าให้ฟังหน่อย ?
โรส : จริงๆ น่าจะเป็นประสบการณ์ที่หลายคนโดนมา เราไปลงทุนกับคนที่เราคิดว่าโอเค สรุปก็ไม่โอเค แต่เรื่องก็จบแล้ว เราฟ้องเขาแล้ว เราชนะ แต่เขาก็ไม่จ่ายเงินเราตามที่ควรจะจ่าย

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่อยากเจอผู้คนไหม ?
โรส : ก็มีช่วงนึงที่รู้สึกว่าอยากหายจริงๆ มันก็ท้อ เราตั้งใจทำงานมาเป็น 10 ปี มันก็ท้อ แทนที่เงินส่วนนั้นเราจะได้มาช่วยครอบครัว ทำให้คนรอบข้างเราโอเคขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นหนี้

ตกลงจำนวนเงิน 10 หรือ 20 ล้าน ?
โรส : จริงๆ จำนวนที่ฟ้องชนะคือ 5 ล้าน รวมดอกเบี้ยที่เขาควรจะต้องจ่ายกลับมา แล้วจะมีเงินที่เขายืมไป อันนี้ไม่ได้เอามานับละ ก็คงจะเป็นล้านเหมือนกัน หนี้บัตรเครดิตที่เขาสร้างไว้ให้ประมาณ 2 ล้าน ซึ่งตอนนี้ยังใช้อยู่เลย

เขาสนิทกับพี่โรสขนาดให้บัตรเครดิตเลยเหรอ ?
โรส : ด้วยความที่เราไม่เคยเจอผู้ใหญ่นิสัยไม่ดี รอบข้างโรสส่วนใหญ่จะเป็นคนดี ก็เลยไม่คิดว่ามันมีคนนิสัยไม่ดีแบบนี้จริงๆ เราก็คิดว่าผู้ใหญ่คือผู้ใหญ่เขาน่าจะรักษาคำพูด แต่ปรากฏว่าเอาไป 2 บัตร แล้วใช้เป็นล้าน เราก็พยายามถามเขาว่าธนาคารมาตามแล้วนะ เขาบอกว่ารอก่อน กำลังไปทำเรื่อง สุดท้ายถึงขั้นต้องขึ้นศาล นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ต้องขึ้นศาลกับเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ทำด้วยซ้ำ

เป็นคนในวงการหรือนอกวงการ ?
โรส : กำลังคิดอยู่ว่าเขาในแค่ไหน ก็ไม่ได้ในมาก เรียกว่าพอมีคนรู้จักบ้าง

ตอนนั้นเราโกรธขนาดไหน ?
โรส : เรียกว่าทรุดดีกว่าคือโรสคิดว่าตัวเองวางแผนการเงินมาค่อนข้างดี เราไม่ได้มาจากบ้านที่รวย เรื่องการเงินเราก็จะวางแผน อาชีพเราไม่ได้มั่นคงมาก็เก็บเงินๆ เพราะฉะนั้นแม้แต่หนี้บัตรเครดิตเราก็ไม่เคยมี เราจ่ายตรงทุกเดือน พอรู้ว่าเป็นอย่างนี้ทรุดเลย มีอยู่ช่วงนึงที่คิดว่าไม่อยู่ก็น่าจะสบายกว่า

คิดจะฆ่าตัวตายเหรอ ?
โรส : ไม่ได้คิดจะฆ่า แค่คิดว่าถ้าตายมันจะดีกว่า แต่เราไม่คิดว่าจะทำอะไรอยู่แล้ว แต่เราแค่รู้สึกว่าเราเป็นคนที่โอเคมาตลอด พยายามทำความดี พยายามทำอะไรดีๆ สำหรับคนอื่นมาตลอด แต่พอเป็นแบบนี้ เราไม่เคยคิดฆ่าตัวตายอยู่แล้ว เพียงแต่คิดว่าถ้าวันนี้ถ้าขับรถไป รถชนเราตาย เราก็โอเค ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร

ผ่านมา 4 ปีจากเหตุการณ์วันนั้น แต่มันยังอยู่ในความทรงจำ เพราะตอนเราคุยโรสเองอยากจะร้องไห้ ?
โรส : ใช่ ทุกวันนี้พยายามทำใจ พยายามคิดว่าเราเป็นมะเร็ง คนที่โชคไม่ดีแบบนี้มันมีอยู่เยอะ อยู่ๆ เป็นมะเร็งต้องเสียค่ารักษาเป็น 10 ล้าน เราก็เลยคิดว่าโอเคเราเป็นมะเร็ง เราโชคไม่ดีเอง แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกโอเค ก็คือคนรอบข้างเราทุกคน ค่อนข้างให้กำลังใจเรา

ณ วันนี้ผ่านมา 4 ปีหนี้สิน ?
โรส : ก็ยังมีอยู่ ตอนนั้นมีเขาให้ไปจำนองบ้านด้วย เรื่องบ้านนี้เขาบอกว่า คือเป็นบ้านที่เขาอยู่ เขาบอกว่าแม่ต้องใช้เงิน เดี๋ยวเอาบ้านไปเข้าชื่อโรสก่อนได้ไหม แต่แม่ยังอยู่ที่นี่ ยังไงแม่ก็จะจ่าย จะผ่อน ถ้าแม่ไม่ผ่อนก็โดนไล่ออก สุดท้ายก็ไม่เคยจ่ายเลย สุดท้ายบ้านหลังนั้นตอนนี้ขายทอดตลาด แล้วโรสก็เป็นหนี้บ้านหลังนี้ประมาณ 1 ล้าน เราก็พยายาม ถ้ามันไม่มีโควิดเราจะไม่เครียดขนาดนี้

เขายังขู่เราด้วย ?
โรส : นิดหน่อย เขาชอบพูดอะไรที่ดูเหมือนว่าเขาจะใช้วิธีสกปรกทำร้ายเราได้ คือตอนแรกที่เราเลือกเดินหน้าฟ้องเขา พอเราเลิกคบกับเขา เราก็ไม่อยากเจอเขา ด้วยความที่เราเจ็บหนักมาก แล้วเขาจะมาบ้านเรา แล้วเขาพูดประมาณว่า นี่ถ้าเกิดไม่มา แม่รู้นะว่างานอยู่ที่ไหน แม่จะไปบุกที่งาน แม่ติดคุกก็ไม่เป็นไร

ทำไมคนเป็นแม่ออกโรงตลอด แล้วคนที่เป็นเพื่อนของโรสเขาอยู่ที่ไหน ?
โรส : คือแม่เขาพยายามปกป้องเขา แบบยังไงประวัติลูกฉันต้องไม่มี ลูกฉันต้องขาวสะอาด

โรสฟ้องชนะคดีเรียร้อยแล้ว ทำไมเราถึงไม่ใช้อำนาจศาลไปบีบให้เขาจ่ายมา ?
โรส : ที่โรสฟ้องคิอศาลแพ่ง มันไม่ใช่ศาลอาญา ถ้าเป็นอาญา เราบีบให้เขาทำได้ ถ้าเขาไม่ทำ เขาติดคุก แต่พอเป็นแพ่งปุ๊บกฎหมายไทยคือคุณต้องไปสืบเอาเองว่าเขามีทรัพย์สินอะไรเท่าไหร่ ถ้าเขาไม่มีอะไรเราก็ฟ้องไม่ได้ แล้วเขาฉลาดตรงที่เขาไม่ทำอะไรเป็นชื่อตัวเองเลย คือโรสฟ้องทั้งตัวเขา ฟ้องทั้งบริษัทที่เขาให้มาลงทุน ฟ้องทั้งตัวลูกเขาด้วย ซึ่งโรสชนะหมดเลย บริษัทเขาก็ปิดไป ไปเปิดบริษัทใหม่ บริษัทใหม่เขาก็ไม่ใช้ชื่อตัวเองในการที่เป็นผู้ถือหุ้นหลัก

ผ่านมา 4 ปีแล้ว อโหสิกรรมไหม ?
โรส : ถามว่าอโหสิกรรมไหม คือไม่ยุ่งเลยดีกว่า เราคิดว่าอะไรที่เขาทำไว้ สักวันมันต้องกลับไปที่เขาไหม หรือว่าเขาไม่น่ามีความสุขที่ชีวิตเขาเป็นอย่างนี้หรือเปล่า ถามว่าอโหสิกรรมหรือเปล่า เราก็ไม่รู้แบบนี้มันเรียกว่าอะไร เราก็หวังว่าเขาจะไม่ไปทำร้ายคนอื่นอีก แล้วหวังว่าจะคืนเงินมาบ้างนะ อย่างน้อยก็ทำให้เราไม่เป็นหนี้มากเท่านี้ได้ไหม

ถ้าเขาดูอยู่ตอนนี้โรสอยากบอกอะไรเขา ?
โรส : ก็ยินดีด้วย ที่ชีวิตดีมากตอนนี้ ถ้าทำงานได้เงินแล้ว ก็เอามาคืนกันบ้าง ชีวิตจะได้มีความสุข แล้วก็อย่าหลอกใครอีกเลย เพราะว่าหลอกมาเยอะแล้ว ที่ทำบุญไปมันไม่ช่วยจริงๆ นะ การทำบุญไม่ได้ล้างบาปที่คุณทำ เพราะฉะนั้นอย่างน้อยถ้าอยากเป็นคนดีก็หยุดหลอกคนอื่นก่อน คืนเงินนิดนึง ครึ่งนึงก็ได้

แสดงว่ามีคนดูแล ?
โรส : มีเยอะเลย ในแฟนเพจก็ประมาณแสนนึงได้แล้ว

คนที่ใส่ใจซึ่งกันและกัน ?
โรส : ก็ต้องมีแหละ แต่ก็คิดว่าอยู่เงียบๆ ดีกว่า ถ้ายิ่งใหญ่เดี๋ยวจะเสียใจทีหลังหรือเปล่า เงียบๆ ดีกว่า ก็เงียบๆ แบบนี้มาพักนึงแล้ว ก็ช่วงนั้นแหละ ช่วงที่หนักๆ เขาก็ดูแล ก็คุยเป็นเพื่อนๆ กันมา

เขาน่ารักยังไง ?
โรส : น่ารักทุกตรงเลย

เขาปลอบใจโรสยังไงบ้าง ?
โรส : เหมือนเพื่อนทุกคน เขาก็จะโกรธแทนเวลาเขารู้เรื่อง วันที่เราต้องไปขึ้นศาล หรือว่าหนี้มันมาเยอะมาก จนไม่ไหว เขาก็จะบอกว่าไหวหรือเปล่า มีอะไรให้เขาช่วยไหม ยืมเงินเขาก่อนไหม เราก็แบบไม่เอา เรื่องเงินถ้าเป็นไปได้เราก็ไม่อยากยืมใคร เรารู้สึกว่าเอาให้มันสุดก่อน ถ้าเรายังหายใจอยู่ ยังสามารถทำงานได้ เราก็พยายามก่อน เราก็จะคอยเชียร์อัพเสมอว่ากินไรไหม คือพยายามดูแลเท่าที่เขาจะทำเป็น

ถ้าเขาดูอยู่ อยากบอกอะไรเขา ?
โรส : ก็ขอบคุณที่ดูแลอย่างดีมาตลอด ขอบคุณที่รู้ว่าเราไม่ได้มีอะไรเลย แต่ก็ยังอยู่