เคลียร์ ! กระชายขาว บรรเทาโควิด จริงไหม?
รายการโหนกระแสวันที่ 21 ก.ค. 64 "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ "นพ.พิเชฐ บัญญัติ" รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ อดีตนายกสภาการแพทย์แผนไทย กรณีกระชายขาว สามารถบรรเทาอาการโควิดได้หรือไม่
ข้างหน้าอาจารย์ มีทั้งขิง กระชายขาว ตะไคร้ ข่า พวกนี้สร้างภูมิ?
"ใช่ครับ ในการแพทย์แผนไทย ถ้าสมุนไพรมีรสเผ็ดร้อนกระตุ้นธาตุไฟ ธาตุไฟมีส่วนที่ตรงกับแพทย์แผนปัจจุบันคือภูมิคุ้มกัน พอกินของเผ็ดร้อนกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกัน ซึ่งเรามีภูมิคุ้มกันทั่วไปและภูมิคุ้มกันเฉพาะ ภูมิคุ้มกันเฉพาะจะเกิดก็ต่อเมื่อได้รับการฉีดวัคซีน ถึงจะเกิดภูมิคุ้มกันเฉพาะโรค เฉพาะอย่าง แต่เบื้องต้นที่จะปกป้องเรา คือภูมิคุ้มกันทั่วไป ได้จากอาหารการกิน การออกกำลังกาย การหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์""กระชายต้องเรียกว่าเป็นสมุนไพรที่เราใช้มานาน ก้นครัวว่างั้นเถอะ แต่การใช้ของคนไทยเรา จะใช้ลักษณะปรุงเป็นอาหาร ถ้าใช้ในตำรายาไทยก็มี เช่น ตำรับยาตรีกาฬพิษ จริงๆ ตำรับนี้ถือว่าดีมาก แปลตรงตัวคือของสามอย่างที่สามารถรักษาโรคตามกาลหรือป้องกันพิษเข้าร่างกายได้ด้วย ในชีวิตประจำวันไม่ค่อยมีใครพูดถึงเพราะเป็นเรื่องของแพทย์แผนไทย มันประกอบไปด้วยการใช้รากกระเพราแดง เหง้าข่า แล้วก็หัวกระชาย แต่จริงๆ กระชายโดยรวมจริงๆ เวลาใช้เรามักไปเน้นตรงนมกระชาย หรือแง่งกระชาย หรือรากกระชาย แต่จริงๆ ตรงหัว หรือเหง้าใช้ได้เหมือนกัน ประโยชน์จริงๆ ใช้ได้ทั้งคู่ ตำราแพทย์แผนไทยจะพูดถึงส่วนนี้ด้วย รักษาท้องอืดท้องเฟ้อ แก้โรคในปาก กับใช้นมกระชายคือรากกระชาย ใช้บำรุงกำลัง คล้ายๆ โสม แต่เนื่องจากกระชาย ขิง ข่า ตะไคร้เป็นยาลดร้อน ถ้ากินติดต่อกันนานๆ ทุกวัน จะมีผลข้างเคียง จะทำให้ร่างกายร้อนเกิน เกิดร้อนใน มีกระบวนการบางอย่างของร่างกาย ทำให้เซลล์ประสาท ทำงานไม่สมดุลได้ ตำราหรือองค์ความรู้แพทย์แผนไทยไม่นิยมให้กินอย่างใดอย่างหนึ่งนานเกินไป ติดต่อกันนานเกินไปมันจะเสียสมดุลของร่างกาย ยกตัวอย่างกินน้ำกระชายเยอะหน่อย 2-3 แก้วทุกวันคิดว่าจะป้องกันได้ดีแต่มันโอเวอร์โดส จะเกิดผลเสีย ถ้าเราทานปริมาณที่เหมาะสม โดยหลักภูมิปัญญาของไทย ไม่ว่าจะเป็นยาหรืออาหาร จะไม่เคยกินดิบเลย ต้องต้มสุกแบบนี้ ถ้าให้ดี ควรใส่สมุนไพรหลายตัวหน่อย ใส่มะนาว กระชาย น้ำผึ้ง จะปั่นหรือต้มก็ได้ ความเห็นส่วนตัวควรแก้วนึงต่อวัน เพราะมันไม่ใช่สารสกัดบริสุทธิ์
ทดลองกิน มันเปรี้ยว และมีกลิ่นเขื่อนๆ
"เปรี้ยวเพราะมะนาว แต่กระชาย มีรสเผ็ดร้อน ขม ใช้รักษาท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้องได้ แต่โดยหลักใช้ต้มน้ำให้เดือดแล้วเอามากิน"ครับ เป็นยาต้ม ถามว่าปั่นได้มั้ย โดยหลักการปั่นสดหรือคั้นสด ต้องพิจารณาเป็นสมุนไพรแต่ละอย่างไป เพราะบางอย่างเราไม่ปั่นสด ในตำราแพทย์แผนไทยมักใช้เป็นต้มสุก แม้แต่กระชาย พูดตรงๆ เคยเห็นมั้ยเอามาตำน้ำพริกจิ้มผัก ไม่มีนะครับ แต่เอามาทำเครื่องแกง พอทำเครื่องแกงแล้วก็เอาไปแกง การกินสุกจะได้ประโยชน์มากกว่า แต่การกินส่วนที่สกัดออกมา อาจไม่เกี่ยวกับสุกหรือดิบอย่างแคปซูน อาจบอกได้ยากว่าดิบหรือสุก เพราะสกัดมาแล้ว เขาพยายามดึงสารในกระชาย ซึ่งมีเยอะมาก เช่นที่พูดเรื่องที่มีผลการทดลองม.มหิดล เช่นต้านโควิด มีสองกลุ่มใหญ่ๆ มีสารที่เจอตอนนี้ประมาณ 10 กว่าชนิด บางตัวต้านอักเสบ บางตัวในหลอดทดลองต้านมะเร็งด้วย แต่มันเป็นการวิจัยในหลอดทดลอง การวิจัยในสัตว์ทดลอง ไม่ได้บอกการเป็นพิษ เมื่อเรากินอาหารเราใส่ให้อาหารมีรสชาติ เราไม่ใส่เยอะอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไปกินสกัดต้องระวัง เหมือนเรากินยาพาราฯ วันละเม็ด เกิน 10 วันก็ไม่ได้แล้ว เพราะมีผลเสียต่อตับ อย่างสารตัวนึงในกระชาย โบเซนเบอร์จินเอ มีการทดลองว่าเอาเซลล์มะเร็งสี่ชนิดมามันต้านได้ดี แต่เอาเซลล์ตับมา มันทำลายเซลล์ตับด้วย หรือการทดลองที่อ่านในเปเปอร์วิจัย ที่ดูข่าว การทดลองที่มหิดล เขาเอามาทดลองกับเชื้อโควิด-19 เอาเชื้อมาและเอาสารสกัดกระชาย ซึ่งมีสาระสำคัญสองตัวที่เขาจำแนกออกมา คือพิโนสโตรบิน และ แพนดูราทินเอ พบว่าพอเอามาใส่กับเชื้อโรค มันฆ่าเชื้อโรคได้ดีกว่าขิงถึง 20 เท่า ดีกว่าฟ้าทะลายโจร 20 เท่า"
จะบอกว่าในกระชายขาวมีสารที่สามารถสร้างภูมิ?
"ไม่ใช่สร้างภูมิ สารตัวนี้เอาไปฆ่าเชื้อโรคหรือยับยั้งไวรัสได้ในหลอดทดลอง แต่ในคนยังไม่มีการทดลอง ถ้ากินไปปริมาณที่เหมาะสมมันก็ไม่โอเวอร์โดส ถ้ากินเป็นอาหารเหมาะสมอยู่แล้ว ถ้ากินเป็นน้ำดื่ม ถ้าดื่มทุกวันไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้ากินวันละขวดสองขวดทุกวันมันโอเวอร์ คิดว่ามากไป แต่เราไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน อาจจะได้แต่เสี่ยงมั้ยก็มีสิทธิ์เสี่ยง แต่งานวิจัยนึง เขาบอกว่าถ้ากินทุกวันไม่ควรเกิน 7 วัน เหมือนยาดองเหล้า เขากินหน่อยเดียว ไม่มีใครกินทั้งขวดทั้งแบน ฉะนั้นสิ่งที่มีการวิจัยศึกษาทดลอง การทดลอง มันใช้หลักการวิทยาศาสตร์ ไม่เป็นพิษ ปริมาณเหมาะสม ไม่มีสารปนเปื้อน ตรงนี้ยังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน แต่ที่ชัดเจน ในทางภูมิปัญญาคนไทย เราใช้กระชายมานานแล้ว ในอาหาร ฉะนั้นการต้มดื่มก็เหมือนเป็นอาหาร ปรับวิธีได้ แต่ถ้าเราใส่น้ำผึ้ง น้ำผึ้งเป็นยาเย็นจะลดความร้อนของกระชายได้ด้วย แล้วมะนาวเป็นยาลดเปรี้ยว ถึงจะเป็นยาร้อนแต่มันแก้ การกินของเผ็ดร้อนเยอะๆ จะทำให้แห้ง ทำให้ปากแห้งจมูกแห้งได้ สมมติกินกระเทียมจะรู้สึกปากแห้ง อันนี้เป็นผลข้างเคียงของการลดร้อน การใส่ยารสเปรี้ยวจะทำให้ชุ่มชื่นขึ้น การใส่ของหวาน ยารสหวานทำให้ชุ่มชื่นขึ้น มันสมดุลกัน เหมือนตำรับยาไทย มีตัวคง ตัวช่วย ตัวคุม อะไรประมาณนี้""เป็นยาคุมเอาไว้ คุมไม่ให้ออกฤทธิ์เกิน ฉะนั้นตำรับยาไทยจะไม่มียาเดี่ยว ต้องผสมกัน"
กินกระชายอย่างเดียวไม่ได้?
"เคยอ่านการวิจัยงานหนึ่งเขาบอกว่าไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 7 วัน เหมือนเรากินอาหารใส่กระชาย เราก็ไม่กินทุกวัน ต้องปรับไปเรื่อยๆ เหมือนเรากินแกงขี้เหล็ก นานๆ กินที การกินทุกวันก็มีผลเสีย ตำรับยามีหลายอย่างที่ใส่กระชาย เช่นตำรับยาเลือดงามเป็นยาบำรุงเลือดสำหรับสตรี มันมีรายละเอียดหลายตัว มีสมุนไพรอีกหลายตัว รายละเอียดทั้งหมดจำไม่ได้แต่รู้ว่ามีกระชายอยู่ในตัวนี้ แต่มันเป็นยาสามัญประจำบ้าน ไปเปิดดูได้ แต่ต้องทำเป็นชุด ตัวที่ ณ เวลานี้ถ้าจะกินน้ำต้มกระชายอย่างเดียว เราเปลี่ยนมากินน้ำต้ม รากกระเพรา เหง้าข่า หัวกระชาย มันจะสมดุลกัน ตรงกับตำรับที่จะป้องกันพิษ คำว่าพิษสมัยโบราณคือสิ่งเล็กๆ ที่มองไม่เห็น อย่างแบคทีเรีย ไวรัส ก็เอายาไปป้องกัน ลด กระทุ้งพิษอะไรต่างๆ ออกมา"
ต้มให้นานแค่ไหน?
"ต้มสุกเหมือนเราต้มน้ำเดือด ต้มน้ำธรรมดาเหมือนเครื่องดื่ม เติมน้ำผึ้งไปหน่อยก็เป็นการสมดุล มันคุมกันเองได้ ตำรับยาไทยเลยจะไม่ค่อยมียาเดี่ยว"
ฟ้าทะลายโจรกับกระชายขาว กินร่วมกันได้มั้ย?
"โดยหลักแล้วมันก็ไม่ได้มีข้อห้ามหรือข้อเสียอะไรที่จะกินทั้งสองตัว แต่ประโยชน์ที่ได้มากน้อยแค่ไหนอาจจะตอบยาก ฟ้าทะลายโจรเป็นยารสขมจัด เป็นยาเย็น ส่วนกระชายเป็นยาร้อน กินไปก็บาลานซ์ แต่มีข้อมูลบางส่วนที่เอาไปใช้ในเรือนจำ ให้ทั้งสองคู่กันไป กลุ่มนึงให้กระชาย กับฟ้าทะลายโจร กลุ่มนึงให้ฟ้าทะลายโจร กลุ่มที่ให้ฟ้าทะลายโจรอย่างเดียวดีกว่า ถ้าตามหลักแผนไทย เย็นจัดกับร้อนจัด มาเจอกันมันก็หมดฤทธิ์"
เหมือนหยินกับหยาง?
"ใช่ครับ แล้วตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยผลข้างเคียงฟ้าทะลายโจรอันนึงคือทำให้เยื่อเมือกต่างๆ มันแห้งไป ก็ไม่ดี เชื้อโรคเข้าง่าย แต่ถ้ากินไม่หวังผลกับโควิด-19 เลย อาจไม่มีผลเสียอะไร แต่ตามความเห็นผม ฟ้าทะลายโจร ตัวแอนโดรกราโฟไลต์ ที่ทดลองมาแล้ว ที่บอกว่ามันใช้ตามวิธีคิดทางการแพทย์แผนปัจจุบันแล้วนะ เอาสารออกมาเป็นตัวเด่น พบว่าสารตัวนี้ไม่ได้ป้องกันนะ กรมวิทย์ฯ ทดลองแล้ว มันไม่ได้กระตุ้นให้เกิดสารป้องกันการเข้าเซลล์ แต่มันป้องกันการแบ่งเซลล์ มันเลยรักษาได้""ถ้าพูดถึงทางวิทยาศาสตร์ เรายังไม่มีข้อมูลยืนยันในคนอย่างชัดเจน หรือแม้แต่ในหลอดทดลอง เอาสารสองของสองตัวนี้ไปผสมแล้วฆ่าโควิดได้มั้ย มันไม่มี แต่มีบทพิสูจน์นำไปใช้กับนักโทษในเรือนจำ ฟ้าทะลายโจรอย่างเดียว ได้ผลดีกว่าจากการทำวิจัย"
ที่เขาสกัดเป็นเม็ดๆ กินยังไง?
"ตอบยากมา แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยต้องดูที่ฉลาก อย่างแรกขึ้นทะเบียนอย. แน่ๆ อย่าไปซื้อออนไลน์ ขายตรง ถ้าเราไปซื้อข้างกล่องบอกปริมาณสาร บอกวิธีกิน เราก็จะปลอดภัย เราก็คงบอกไม่ได้บริษัทไหนมีสารมากน้อยเท่าไหร่ เราต้องว่าตามที่เขากำหนดไว้"
กระชายขาวอย่างเดียวกินทุกวันก็ไม่ค่อยดี?
"จากประสบการณ์ที่มี ผมก็แนะนำว่าไม่ควรกินติดต่อกันนานเกินไป เหมือนยาพาราฯ ไม่เป็นพิษภัย แต่ถ้ากินติดต่อกันนานๆ ตับรับมือไม่ไหว"
กระชายขาวเขากินมาก่อนอยู่แล้วก่อนมีโควิด มันป้องกันอะไร?
"บอกยาก เพราะในตำราแพทย์แผนไทย ถ้ากระชายก็แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้บิด แก้มูกเลือด แต่พอเอาสารแต่ละตัวมา อันนี้ต้านอักเสบได้ เขาคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ แต่ในทางแพทย์แผนไทย ของที่มีรสเผ็ดร้อน มันจะมีส่วนกระตุ้นธาตุไฟ ตัวทำให้ธาตุไฟทำงานได้ มันคือตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันนี่แหละ ถ้าเรากินแกงเลียง กินแกงที่มีเครื่องแกง กินต้มยำทุกวัน เราก็ได้ภูมิคุ้มกัน เรากินน้ำพริกผักสด น้ำพริกจิ้ม อันนี้ตัวกระตุ้นภูมิอย่างดี หรือผักสดมีรสฝาดออกไปทางขม พวกนี้คล้ายๆ ตัวที่ปรับเลือดเราทำให้ร่างกายไม่ร้อนเกิน พอร่างกายเราไม่ร้อนเกิน เชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรียมันไม่ชอบ แต่ถ้าเราเครียด อดนอน พักผ่อนน้อย จะทำให้ร่างกายร้อนเกิน สังเกตได้จะทำให้เป็นร้อนในเลย มันจะไวต่อการติดเชื้อ ฉะนั้นเรากินของรสเผ็ดร้อน น้ำพริก ต้มยำมันก็ไปกระตุ้นภูมิ เรากินผักก็ปรับระดับสภาพในเลือดเราไม่ให้ร้อนเกิน ติดเชื้อยากขึ้น"
กระชายดำมีมั้ย จำเป็นต้องเป็นกระชายขาวอย่างเดียวมั้ย?
"กระชายแดง กับกระชายเหลือง คุณค่าใกล้ๆ กัน แต่แพทย์แผนไทยแนะนำให้ใช้ขาวหรือเหลืองดีกว่า กระชายดำใช้ประโยชน์อีกทาง กระตุ้นเพิ่มกำลัง"
แพทย์แผนไทยนิยมเอามาต้ม กรองออกมาแล้วแช่แล้วดื่ม หรือจะกินร้อนๆ ก็ได้ สมัยนี้มีเครื่องแยกกาก ทำได้มั้ย?
"ก็ได้นะ แล้วแต่การปรับ"
เอาทั้งหมดไปปั่นแล้วกิน?
"มันอาจจะได้อย่างอื่นตามไปด้วย ในปริมาณที่มากกว่าเรากินอาหาร จริงๆ ไม่น่ากินเท่าต้มแล้วแยกกาก บางอย่างการต้มคือกระบวนการสกัดสารสำคัญอย่างนึง เราต้มเพื่อสกัดเอาตัวยาออกมา การต้มมันกำจัด โดยภูมิปัญญาทำไมเรากินสุกมากกว่าดิบ เพราะการต้มเป็นการฆ่าฤทธิ์ที่มันไม่ดีบางอย่างที่เป็นพิษได้ การกินกับน้ำ อย่างขิงทำไมกินอุ่นๆ เพราะกินอุ่นเป็นกระสัษยา ดูดซึมเอาของที่มีประโยชน์เข้าร่างกายได้เยอะ เป็นความละเอียดอ่อน"
นอกเหนือจากที่บอกไป มีอะไรอีกบ้าง?
"ที่มีการศึกษา ม.มหิดล อาจารย์ท่านนึงศึกษาแล้วกระตุ้นภูมิได้ คือตรีผลา ประกอบด้วย สมอพิเภก สมอไทย และมะขามป้อม หาไม่ยาก เอามาต้มได้เลย แยกเป็นน้ำออกมา บำรุงร่างกาย แต่คำว่าตรีผลา มาจากคำว่าตรีผล ผลไม้สามอย่างที่มีคุณค่าต่อร่างกาย ไปปรับสมดุลในร่างกายตามแพทย์แผนไทย ถ้าร่างกายสมดุลอะไรก็เข้ามาไม่ได้ แต่มีคนเอาไปศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ว่ามันสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ด้วย"กระเทียมดำคืออะไร?
"คือกระเทียมที่ไปอบบางอย่าง เขาเชื่อว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระเกิดขึ้นจากกระบวนการอบ ถ้าบอกว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก็จะช่วยลดการเจ็บป่วย สารตัวนี้มีศักยภาพในการต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวทำให้เราแก่เร็ว เป็นมะเร็ง เป็นเนื้องอก เชื่อว่าถ้ามีพวกนี้เข้าไป ก็ทำให้เราแข็งแรงขึ้น ไม่ป่วยง่าย"
ยาห้าราก ช่วยอะไร ทำยังไง?
"ยารักษาไข้พิษไข้กาฬ ตามพระคัมภีร์ตักศิลา ไข้พิษไข้กาฬวิเคราะห์แล้วโควิด-19 คือไข้พิษไข้กาฬกลุ่มนึง ยาห้ารากรักษาได้ เป็นตัวแรกที่รักษาไข้พิษไข้กาฬ เป็นยาตัวแรกที่ใช้กระทุ้งพิษไข้ ได้ยินคำว่ายาลดไข้จันทลีลามั้ยครับ แต่ยาห้ารากคือกระทุ้งพิษไข้คือเอาไวรัสออกมา"
ห้ารากคืออะไร?
"คือรากไม้ 5 ชนิด ประกอบด้วย รากคนทา รากชิงชี่ รากเท้ายายม่อม รากมะเดื่อชุมพร รากย่านาง ชื่อเพราะๆ คือยาเบญจโลกวิเชียร หรือแก้วห้าดวง คือดีมาก เป็นยาที่ปรากฏในคัมภีร์แพทย์แผนไทยที่เรียกว่าตักศิลา รักษาไข้พิษไข้กาฬ มีถึง 77 โรคที่เขียนไว้ ซึ่งโควิด-19 เข้าได้กับหลายโรคในพระคัมภีร์ เช่น ถ้าไม่มีอาการน้ำมูกนิดหน่อย เขาเรียกไข้หวัดน้อยถ้าไข้สูง มีอาการเยอะ เราบอกโควิดสีแดง สีเขียว สีเหลือง ก็เข้าไปในกลุ่มไข้หวัดใหญ่ ถ้ามีอาการอื่นเช่นตุ่มผื่นที่ผิวหนังลงปอด ก็เป็นชนิดอื่นๆ ไป วิชาแพทย์แผนไทยไม่ได้บอกว่าเป็นไวรัสตัวนี้ตัวเดียว เขาดูอาการ ยาตัวแรกในการรักษาคือยากระทุ้งพิษออก"
ทำไมอาจารย์บอกว่าโควิดก็เป็นโรคไข้พิษไข้กาฬ?
"สมัยก่อนเราไม่สนใจตัวเชื้อเลย แต่เรารู้ว่าป่วยมีพิษเข้าไป พิษเทียบเคียงได้กับเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ดังนั้นการรักษาต้องมีการขับพิษหรือกระทุ้งพิษ การรักษาก็คือการใช้ยาห้ารากนี่แหละครับ"
แต่ชาวบ้านทำเองไม่ได้?
"ครับ มันก็มีขายอยู่นะ ที่คุ้นคือย่านาง แล้วก็คนทา เป็นต้นไม้ชนิดนึงต้องไปเอารากมันมา ถ้าทำแบบเดิมคือเอามาเสมอภาค แล้วต้มกิน แต่สมัยนี้มีผลิตภัณฑ์ยาห้าราก ทำเป็นรูปแบบเม็ดหรือแคปซูลก็มี ทำเป็นยาขึ้นมา เป็นภูมิปัญญาที่เราไม่ได้ทดลองในวิทยาศาสตร์ แต่มันถูกบันทึกไว้ตั้งแต่สมัยหลายร้อยปี ก็เป็นความเชื่อเหมือนฟ้าทลายโจร เดิมใช้แก้เจ็บคอ แต่เราไม่ได้เอาไปทดลองทางวิทยาศาสตร์ พอทดลองว่าใช้ได้ก็ถูกเอาไปบรรจุเป็นแนวทางในการรักษาได้"
"เครื่องต้มยำกินแล้วมีประโยชน์ มันจะคุมฤทธิ์กันเอง ปรับธาตุให้ทำงานดี ไม่เสียสมดุล ถ้าไม่อยากกินอะไรเป็นยา ก็กินต้มยำได้เลย"
ฆ่าตัวโควิดยังไม่มีการทดลองในมนุษย์มาก่อน แต่ทดลองในสัตว์หรือหลอดแก้ว ไปยับยั้งไวรัสได้คือโควิดนี่แหละ แต่มุมทั่วๆ ไปไม่เคยมาทดลองกับมนุษย์?
"สมมติเราใส่ในหลอดทดลอง เราใส่ไป 10 ก็เจอเชื้อ 10 แต่เวลามากินมันจะดูดซึม 10 หรือเปล่าก็ไม่รู้ จะถูกเปลี่ยนเป็นอะไรก่อน เหลือเท่าไหร่ไม่รู้เราก็เลยบอกไม่ได้ มันกะปริมาณไม่ได้ นี่คือปัญหาว่าเวลาใช้ในคน อาจจะได้ผลหรือไม่ได้ผล ยังบอกไม่ได้"