เปิดชีวิตนักร้องดังยุค 90 อัมพร แหวนเพชร ต้องมาเก็บของเก่าหาเงินประทังชีวิต
เป็นนักร้องลูกทุ่งแถวหน้าของเมืองไทย ที่เคยมีผลงานโด่งดังไม่น้อยในยุค 90 - ยุค 2000 สำหรับ อัมพร แหวนเพชร เจ้าของเพลงดัง อาทิ ดอกไม้ในป่าช้า, นางรอ, ผิดซองเพราะลองใจ ฯลฯ ที่วันนี้ต้องหันมาเก็บของเก่าข้างถนนขาย โดนเมาท์ว่าเป็นนักร้องตกอับ แถมยังเครียดมากเพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยหนักช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยล่าสุดเธอได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา, ชมพู่ ก่อนบ่าย และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
พิษโควิดถล่มชีวิตหนักมาก ๆ เลย ?
อัมพร : อย่างที่รู้ เราไม่ได้โดนคนเดียว ต้องโดนกันทุกคน โควิดมารอบแรก เรารู้สึกว่ามันมาแรงแล้ว ต่อมายังมีรอบที่ 2 อีก ยังมีรอบที่ 3 อีก หนักกว่าเดิม มันรู้สึกว่ามันแย่มาก ๆ ตอนนี้
พี่อัมพรทำธุรกิจอะไรอยู่ตอนนี้ แล้วเราเสียหายต่อเดือนเท่าไร ?
อัมพร : นอกจากร้องเพลงแล้วก็จะขายของออนไลน์ พอโควิดมากลายเป็นว่าขายของไม่ได้เลย เลยทำให้รู้สึกว่ามันแย่มาก ๆ เลย
ผลกระทบต่อเดือนเป็นตัวเลขกลม ๆ เท่าไร ?
อัมพร : มันค่อนข้างเยอะ ก็เป็นหมื่น รายได้จากที่เราหายไป
พี่อัมพรมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นมาก แต่ก็ยังขายไม่ได้ ?
อัมพร : ขายไม่ได้ เราก็รู้ช่วงนี้ทุกคนน่าจะลำบาก คือมีแต่คนขายของ คนที่จะซื้อยาก
แต่ที่ทำให้ท้อที่สุดคือเรื่องของคุณแม่ที่ป่วย ?
อัมพร : คุณแม่ป่วยเป็นโรคงูสวัดมาประมาณสัก 3 เดือนแล้ว ตอนนี้เดินไม่ได้ ต้องมีคนดูแลตลอด งูสวัดต้องเป็นแผลใช่ไหม แต่แผลของแม่หายหมดแล้ว เหลือแต่ความปวดที่มันเข้าเส้น เข้ากระดูกข้างใน ก็สงสารแม่มากที่แกเดินไม่ได้ แล้วกลางคืนก็นอนไม่ได้ กินข้าวอะไรมันก็ต้องมีข้อห้าม
ในบ้านพี่อัมพรเป็นเสาหลักเลยไหมในการหารายได้ ?
อัมพร : ใช่ เพราะพี่สาวออกจากงาน เนื่องจากโควิด ต้องกลับบ้านต้องไปดูแลแม่แทน ถ้าเราไปอยู่ด้วยกันทั้งหมดมันก็กม่มีอะไรทำ ก็เลยให้พี่สาวเป็นคนดูแล แล้วตัวเราเองก็มาขายของบ้างอะไรบ้าง
จากนักร้องดัง แต่วันนี้ถึงขั้นเก็บของเก่าขาย อันนี้เรื่องจริงไหม ?
อัมพร : ก็จริง ก็คือที่บ้านเก็บมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่พี่ชายจะเสีย พี่ชายเป็นคนเริ่มต้นเก็บ เขาเป็นคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แล้วก็ทำงานอย่างอื่นไม่ได้ แล้วอยู่ที่บ้านเขาไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเก็บของเก่าสะสมแล้วเอามาขาย เป็นรายได้ของเขา
เมื่อก่อนราคาดีมาก ช่วงนี้ราคามันลดลง ?
อัมพร : ถูกต้อง กองใหญ่มาก แต่ได้เงินแค่ร้อยกว่าบาท
แล้วไปเอามาจากไหน ?
อัมพร : แถวบ้านบ้าง แล้วเราอยู่กรุงเทพฯ แล้วเรากลับบ้าน เราก็เก็บสะสม เอาไปให้เขาด้วย
แสดงว่าเราไม่ได้ไปเก็บตามบ้านแล้วนำไปขาย ?
อัมพร : เก็บจากที่บ้านด้วย แล้วก็เดินไปข้างทาง ร้านค้า เห็นมันข้างทางก็เก็บมา
แล้วที่โดนเมาท์ว่าตกอับจริงหรือไม่จริง ?
อัมพร : ตกอับไหม มันก็พอถู ๆ ไถ ๆ ไปได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงขอรับบริจาค แล้วจริง ๆ มันเป็นอาชีพที่ไม่น่าอาย เพราะว่าอันนี้สอนลูก สอนหลานได้ เพราะว่าหลานตัวเล็ก ๆ เขาก็รู้จักเก็บขยะเอามาให้ย่า ให้ยายขาย เหมือนเราสอนเขาไปในตัว
แต่ในโซเชียลก็มีการเมาท์ว่าไม่อายเหรอมาเก็บขยะขาย ได้เข้าไปอ่านอะไรพวกนี้ไหม ?
อัมพร : ก็ได้อ่านอยู่ค่ะ แต่ว่าก็มีหลายคนที่ให้กำลังใจเราก็มี มันเป็นอาชีพที่สุจริต เราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร
เจอคอมเมนต์ที่ทำให้ท้อบ้างไหม ?
อัมพร : ไม่ท้อนะ ถ้ามีคอมเมนต์เข้ามาเราก็ไม่รู้สึกท้อ เพราะว่าเราทำความดี เราไม่ได้ทำอะไรที่ไปเดือดร้อนคนอื่น เพราะว่าการเก็บของเก่าขายมันเป็นสิ่งที่ดีด้วย เพราะว่าของเก่า ๆ ที่เขาไม่ได้ใช้แล้ว เราเก็บมาสามารถเอาไปรีไซเคิลใหม่ได้
พี่ลำบากมาตั้งแต่เด็ก ๆ เห็นว่ากับข้าวที่ดีที่สุดของครอบครัวพี่คือปลากระป๋อง ?
อัมพร : สมัยเด็ก ๆ ลำบากมาก ๆ ครอบครัวก็ทำไร่ ทำนา ไม่เคยได้กินอาหารดี ๆ กับเขา หมู เห็ด เป็ด ไก่ ครอบครัวเราไม่มีโอกาสได้กินแบบนั้น ก็เก็บผักบุ้งเอามาแกงส้มใส่ปลากระป๋องบ้าง เป็นอาหารที่เริดที่สุดแล้ว ณ ตอนนั้น
อัมพร : ทั้งครอบครัวเป็นคนที่ชอบร้องเพลง ทั้งพ่อ ทั้งแม่ พี่สาว คือเมื่อค่อนจะมีวิทยุทรานซิสเตอร์ เวลาทำงานเอาวิทยุไปด้วย แล้วก็ฟังวิทยุ
เราก็เลยใช้ความสามารถในการประกวดร้องเพลง ?
อัมพร : ครั้งแรกตอนอยู่โรงเรียน ป.5-ป.6
ผู้ชายที่เข้ามาส่วนมากจะมีครอบครัวกันหมดแล้ว ?
อัมพร : ใช่ค่ะ
แล้วคนที่เข้ามาเขาบอกเราไหม หรือเราไปรู้เอง ?
อัมพร : บางคนก็บอก บางคนก็ไม่ได้บอก รู้ด้วยสัญชาตญาณของตัวเอง
แล้วมีไหมที่เราเผลอใจไปรักเขา แล้วต้องตัดใจ ?
อัมพร : ส่วนใหญ่จะคุยกันก่อนมากกว่า ไม่คิดจะเป็นน้อยเขา ถามว่าเจ็บไหม ไม่ถึงกับเจ็บมาก
มีมาเสนอเลี้ยงดูเราเลยไหม ?
อัมพร : ยังมี คือเขาอยากดูแลเรา แต่พอเรารู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว เป็นพี่ เป็นน้องอะไรกันได้ แต่ถ้าให้เป็นครอบครัวกับเขาคงยาก
โปรโมชั่นที่เขาเสนอเรา คืออะไร ?
อัมพร : ให้อยู่สุขสบาย มีทุกอย่างให้หมดเลย
ตอนนี้ก็มีนะ แต่ปฏิเสธ ?
อัมพร : ตอนนี้เราคิดว่าเราอายุเยอะแล้ว เราไม่อยากคิดเรื่องตรงนั้น ขอทำงานดูแลแม่ ดูแลครอบครัว ดูแลพี่น้องเราดีกว่า คือตอนนี้โควิดก็ระบาด เราไม่อยากมาคิดเรื่องตรงนั้นด้วย แต่ว่าคุยกันเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องได้ ช่วยเหลือกันในยามที่ลำบาก
ปิดตายความรักเลยไหม ?
อัมพร : ตอนนี้มันไม่ได้คิดเรื่องตรงนั้น คิดว่าน่าจะปิดตายไปเลยดีกว่า
ถ้ามีเข้ามาแล้วเราถูกใจเขา เราจะเปิดไหม ?
อัมพร : ก็อาจจะคุยกันไปก่อน คบกันก่อน บางทีไม่กี่เดือนเราเห็นก็ไปกันไม่ได้แล้ว
ไม่เปิดใจ แต่มีข่าวว่ามีลูกแล้ว ?
อัมพร : มีจริง ๆ 1 คน เป็นลูกสาว ตอนนี้อายุ 28 ปี เป็นลูกบุญธรรม จริง ๆ เราไม่อยากเรียกลูกบุญธรรม เพราะว่าอยู่ด้วยกันเราก็รักเหมือนลูกจริง ๆ เราก็อยู่ด้วยกันมาเป็น 10 ปีแล้ว
พี่ไม่เจอกันมานานแค่ไหนแล้ว ?
มนต์สิทธิ์ : ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว
มีคนเชียร์ให้คุณสองคน ?
มนต์สิทธิ์ : ก็มีเยอะนะครับ เชียร์เยอะมาก มนต์สิทธิ์ ร้องคู่อัมพร อยากให้เป็นเนื้อคู่กันจริง ๆ จัง ๆ แต่เหมือนเพื่อนกันมากกว่า
แต่ก็มีคนเมาท์อีกว่าคุณสองคนเป็นสามี-ภรรยากันจริง ๆ ?
มนต์สิทธิ์ : มันไม่ใช่ พี่คือรักน้องเหมือนน้องคนนึง ไม่เคยจีบ ศิลปินค่ายเดียวกันไม่กล้าจีบ แต่ถ้าที่อื่นจีบหมดเลย