น้องเทนนิส - โค้ชเช เปิดใจ จากคำดูถูก.. สู่นักเทควันโดเหรียญทองโอลิมปิก
โค้ชเช : ดีใจและภูมิใจด้วย ที่ผ่านมาก็ซ้อมหนักมากครับ ผมขอบคุณเทนนิสเขาก็อดทน พยายามสู้ต่อ ผมดีใจสุด ๆ ในชีวิตผม
น้ำตาไหลไหม ?
โค้ชเช : แน่นอนครับ ผมร้องไห้เยอะมาก
นอกจากเหรียญทองที่รอมา 19 ปี อีกหนึ่งเรื่องที่รอเหมือนกันคือการขอสัญชาติไทย ?
โค้ชเช : เมื่อเช้าผมก็ยื่นเอกสารที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แต่โค้ชเชก็มีชื่อไทยแล้ว ?
โค้ชเช : ชัชชัย ก็เป็นเหมือนชัยชนะ ท่านสมเด็จธงชัย เป็นคนตั้งให้ ก็ภูมิใจมาก ๆ
ก่อนที่เทนนิสจะลงแข่ง ทั้งเทนนิสและโค้ช โทร. ไปหาคุณพ่อ ?
น้องเทนนิส : ค่ะ คือปกติทุกครั้งที่หนูไปแข่ง พ่อจะตามไปเชียร์ได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนพ่อไปทุกที่ แต่ว่าคราวนี้ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้พ่อเดินทางไปเชียร์ไม่ได้ โค้ชรู้ว่าเราอยากได้กำลังใจก็จะโทรหาพ่อให้ทุกครั้งที่แข่งเลย
พ่อ : พ่อบอกให้สู้เต็มที่ สู้จนวินาทีสุดท้าย เทนนิสทำให้ได้นะ เรามั่นใจว่าเราต้องทำได้
พ่อ : ที่มั่นใจเพราะว่า เราทำการบ้านโจทย์นี้มา 3-4 ปีแล้ว โค้ชเชพาน้องเทนนิสเดินสายทั่วโลกแล้วครับ 3 ปี เราเก็บเหรียญทองได้ 19 เหรียญ เราแข่ง 20 รายการ จนคะแนนเราเป็นที่ 1 ของโลก เราเลยมีความมั่นใจ ทุกมุมโลก เราเก็บเหรียญทองได้ทุกเหรียญ เหลือโอลิมปิกอยู่เหรียญเดียว คิดว่าเราคงทำได้
ถ้าไม่ติดโควิดพ่อจะขนญาติ ๆ ไปนั่งเชียร์ที่ญี่ปุ่นเลย ?
พ่อ : ถ้าไม่ติดโควิดก็เตรียมกองเชียร์ไว้ 60 ท่าน จองเครื่องบินเรียบร้อย จองที่พัก ตั๋วเข้าชมเรียบร้อยแล้ว หมดเงินไป 3 แสนกว่าบาทแล้ว บางคนสมทบมาคนละ 30,000 บางคนไม่ต้องจ่าย พ่อก็จ่ายให้
พอติดโควิดพ่อได้เงินคืนไหม ?
พ่อ : ค่าเครื่องบินเขาจ่ายคืนเป็นแต้ม ค่าตั๋วเข้าชมคนนึงประมาณ 4,500 บาท จะจ่ายหลังพาราลิมปิกเสร็จ สำหรับค่าโรงแรมเขายึดไปครึ่งนึง
ตอนแข่งเหลือไม่กี่นาทีสุดท้ายพลิกมาชนะได้ ตอนนั้นในใจคิดอะไรอยู่ ?
น้องเทนนิส : ตอนนั้นแต้มนำอยู่ตอนแรกที่เริ่มยก 3 เหลือประมาณ 40 วิฯ ก็โดนแซง ก็บอกตัวเองว่ายังพอมีเวลาค่อย ๆ เก็บแต้ม เพราะคะแนนก็ห่าง 1 แต้ม ถ้าใจร้อนอาจจะทำให้แต้มไหลไปได้ พอเหลือ 10 วิฯ สุดท้าย มันก็ยังตามอยู่ บอกตัวเองว่าต้องไปละ ถ้าวันนั้นแพ้ บอกตัวเองว่าต้องทำให้เต็มที่ก่อน ไม่อยากเสียใจแล้ว พอเราเข้าไปใส่ก็ได้แต้มกลับมา
น้องเทนนิส : หนูคิดว่าความสามารถแล้วกัน เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาหนูทุ่มเททั้งหมดให้กับเทควันโด้ตลอดเวลา หนูไม่เบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่นเลย หนูเน้นอันนี้ แล้วก็อยากทำให้มันได้ แล้วหนูก็ไม่อยากรออีก 3 ปีข้างหน้า ที่หนูจะกลับมาแก้ไขอันนี้ ทำให้เต็มที่ก่อน ยังมีเวลาอยู่
วันนั้นโค้ชเชได้บอกอะไรกับเทนนิสก่อนแข่ง ?
โค้ชเช : บอกว่าไม่ต้องคิดถึงรอบชิง เจอสเปนแค่รอบแรก รอบชิงน่าจะกดดัน ไม่ต้องคิดเรื่องแพ้ชนะ ถ้าเล่นเต็มที่ มั่นใจปกติ เรื่องฝีมือ เรื่องเทคนิคเราดีกว่าเขาเยอะมาก เพราะฉะนั้นไม่เป็นไร เหมือนตอนที่ซ้อม ที่เตรียมมา
นอกจากคำพูดให้กำลังใจ ยังเล่นสายมูเตลูด้วย โค้ชมีพกผ้ายันต์ไปด้วย ?
โค้ชเช : ก็ความเชื่อ ถ้ามั่นใจ ผมไม่เครียดก็มีโอกาสชนะ
น้องเทนนิส : นายกสมาคมเป็นคนให้มา นำมาให้ที่สนามบิน นำพระของที่บ้านที่พี่ให้มาก็ออาไปหมดทุกอย่าง ให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์ 100% ทั้งร่างกาย จิตใจ ไม่อยากพลาดตรงไหน
นอกจากนั้นยังไปบนบาน ขอพรจากหลวงพ่อโสธรไว้ด้วย ?
น้องเทนนิส : ใช่ค่ะ ไปแก้มาเมื่อวานแล้ว หนูก็ขอว่าให้ได้เหรียญทอง
มันมีตั้งหลายกีฬา ทำไมให้ลูกสาวเรียนเทควันโด ?
พ่อ : บ้านเราอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ฝนตกตลอด เราเล่นกีฬาอื่นโอกาสมันน้อย แต่เทควันโดมันเล่นได้ตลอด แต่เทนนิสฝึกทุกอย่าง พาไปฝึกว่ายน้ำ กรีฑา ฝึกวอลเล่บอล จักรยาน เทนนิส คือลูก ๆ ทั้ง 3 คน ชื่อเกี่ยวกับกีฬาหมดเลย เพราะครอบครัวเราเป็นครอบครัวกีฬา
น้องเทนนิส : หนูชอบไปดูพี่ชายโดนเตะ ไปเชียร์
ได้ข้อมูลมาว่าน้องเทนนิสเหมือนโดนพ่อบังคับให้เรียน ใจเราไม่ได้อยากเรียนเทควันโดเลย ?
น้องเทนนิส : ใช่ค่ะ ตอนแรกก็กลัวมาก ๆ เลย ไปดูพี่แข่งแต่ละครั้งคือมันรุนแรง พี่ชายแขนหักกลับมา ก็กลัวมาก ๆ บอกพ่อว่าหนูขอไปเล่น ๆ ตามพี่ชายไปเที่ยวได้ไหม แต่ว่าไม่แข่งเด็ดขาด จนกระทั่งมีแมชต์แข่งที่ภูเก็ต หนูชอบทะเลมาก ๆ หนูบอกพ่อว่าหนูอยากไปเที่ยวภูเก็ตจังเลย พ่อบอกไม่ได้ ต้องลงแข่งถึงพาไป เราก็ลง แต่เป็นอะไรที่ฝังใจ โดนดูถูก ทำไมเธอเล่นอ่อนจัง ครั้งนั้นทำให้หนูอยากกลับมาซ้อมแล้วกลับไปชนะเขา ก็บอกพ่อเลยว่าต่อไปนี้มารับตอน 2 ทุ่มนะ หนูจะซ้อมรอบนักกีฬาแล้ว
จริง ๆ แล้วที่มีเทนนิสและเหรียญทองได้ เพราะคำดูถูกที่ภูเก็ตเหรอ ?
น้องเทนนิส : ใช่ค่ะ เพื่อน ๆ แซวกันเฉย ๆ
สมมติเขาดูอยู่ตอนนี้อยากบอกอะไรเขา ?
น้องเทนนิส : เราทำได้แล้วนะ ได้เหรียญทองโอลิมปิกแล้ว
เป็นนักกีฬามืออาชีพต้องขึ้นเหนือ ล่องใต้ ตอนนั้นห่วงเรื่องเดินทางไหม ?
พ่อ : พ่อขับรถเองตลอด ไปทั่วประเทศ แพ้ส่วนใหญ่ ชนะน้อยมาก เพิ่งมาชนะที่อุตรดิตถ์ แล้วตั้งแต่นั้นมาประมาณ 11 ปี มาอยู่ในสนามกีฬา ซ้อม เก็บตัว ทีมชาติ
เห็นว่ามีอยู่ครั้งนึงรถเกิดแอคซิเดนเหรอพ่อ ?
พ่อ : ครับ ช่วงนั้นยังไม่ติดทีมชาติ ขับรถจะมาชิงแชมป์ประเทศไทย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ขับจากสุราษฯ ผ่านจังหวัดชุมพร ฝนมันตก พ่อก็บอกเทนนิสระวังนะ ตอนนี้รถมันควบคุมไม่ได้แล้วก็พลิกคว่ำแล้วไปฟาดกับต้นไม้ เกือบจะลงคลอง แล้วเอารถไปซ่อม แล้วขึ้นรถทัวร์มาแข่งต่อ
น้องเทนนิส : สำหรับหนู หนูไม่ได้กดดันตัวเองว่าหนูจะต้องเป็นแชมป์หรือเหรียญทอง เป้าหมายของหนูไม่ได้ไกลขนาดนี้ คือหนูไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงวันนี้ ติดทีมชาติ ได้เหรียญทองโอลิมปิก มันไกลมาก ๆ หนูเป็นเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรงเลย คือรูปร่างหนูผอมแห้ง แล้วก็แทบจะไม่มีแรงเลย สิ่งที่หนูทำแต่ละวันคือหนูทำให้ดีที่สุดในแบบของหนู หนูไม่ได้กดดันตัวเองว่าฉันจะต้องเป็นแชมป์นะ เพราะฉะนั้นหนูทำให้ดีที่สุดแล้วมีความสุขกับสิ่งที่หนูทำแต่ละวัน
พ่อ : เทนนิสได้ร่วมแข่งขัน พ่อถือว่าเป็นความสุขแล้ว ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นพ่อไม่มายด์ พ่อสอนเทนนิสอยู่เสมอว่าคนที่ยืนอยู่บนแท่นชนะคือคนที่ผ่านความพ่ายแพ้มาแล้วทั้งสิ้น ไม่เป็นไรเรื่องแพ้ สู้ไปได้ตลอด
เรื่องจริงไหมที่เขาบอกว่าโค้ชเชดุมาก ๆ ?
น้องเทนนิส : ค่ะ
โค้ชเช : ดุครับ เพราะว่าผมอยากให้ทุกคนเก่งขึ้น จริง ๆ ผมต้องการซ้อมหนักแต่ว่าไปแข่งเบา ผมพูดตลอดว่าตอนซ้อมเหนื่อย ร้องไห้ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าไปแข่งเราได้ที่ 1 เราก็ร้องไห้อีก
ตอนซ้อมมีร้องไห้ไหม ?
น้องเทนนิส : ประจำ มันร้องไห้เพราะเหนื่อย ในใจมันคิดว่าทำไมมันต้องเหนื่อยขนาดนี้ แต่ก็บอกตัวเองว่ามันต้องเหนื่อยมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว มันเป็นโอลิมปิกนะ ต้องเต็มที่สุด ๆ จนกว่าจะแข่งขัน
เห็นว่าตอนซ้อมก็มีเรื่องเรียนด้วย คุณพ่อก็เป็นห่วงกลัวจะจบไม่ทัน ?
น้องเทนนิส : ตอนปริญญาตรีก็เรียนหนักมาก เพราะว่าเรียนจุฬาฯ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ติดทีมชาติด้วย แล้วก็เรียนด้วย ต้องจัดการเวลาอย่างหนักเลย ตื่นเช้ามาซ้อม 6 โมง แล้วรีบขึ้นรถไปเรียน 9 โมง เลิกเรียน 4 โมงกลับมาซ้อม คือมันแน่นมาก ๆ
น้องเทนนิส : ได้ตั้งแต่ก่อนไปแข่งโอลิมปิก
ล่าสุดก็ได้ตำแหน่งฑูต ?
น้องเทนนิส : การท่องเที่ยวและกีฬา
เทนนิสแพ้มาก็เยอะ ชนะมาก็เยอะ ต้องมีการแพ้ เราถึงมีวันนี้ได้ ?
น้องเทนนิส : จริงค่ะ หนูคิดว่าไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ มีประสบการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ล้ำค่าที่สุดแล้ว
เห็นบอกว่าเจอคอมเมนต์ทั้งชมและอีกฝ่ายด้วย เจออะไรมาบ้าง ?
น้องเทนนิส : เจอแบบรูปร่างแบบนี้เตะเทควันโดไหวเหรอ มีแรงหรือเปล่า
มีคอมเมนต์ไหนที่เราติดใจบ้างไหม ?
น้องเทนนิส : อันไหนไม่ดีหนูก็ปล่อยผ่าน ถ้าเป็นสิ่งที่ทำให้หนูปรับปรุงตัว หนูก็เอามาปรับปรุง อะไรที่เป็นคำชมก็เป็นแรงบันดาลใจให้หนูฝึกซ้อม และพัฒนาต่อไป
มีคนคุยหรือยัง ?
น้องเทนนิส : ยังไม่มีแฟน
สเปกของเทนนิสชอบแบบไหน ?
น้องเทนนิส : ชอบคนที่เข้าใจเรา เพราะเราฝึกซ้อมกีฬา แทบจะไม่มีเวลาไปหาเลย
สมมติคนในวงการบันเทิง ชอบแบบไหน ?
น้องเทนนิส : แบบไบร์ท
อยากจะบอกอะไรกับไบร์ท ?
น้องเทนนิส : ไบร์ทกับวินเลยละกันนะคะ ก็ชอบทั้งสองคน ติดตามผลงาน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเจอกันแล้วก็ร่วมงานกันนะคะ
ตอนนี้ได้เหรียญทองแล้วเปิดใจไหม ?
น้องเทนนิส : เปิดโอกาสมากขึ้น แต่ยังโฟกัสเรื่องของกีฬาอยู่