เปิดวิธีเลี้ยงลูกของซิงเกิ้ลมัม นิโคล-แอน พร้อมเผยสเปคว่าที่ลูกสะใภ้-ลูกเขย

นิโคล : ใช่ เกือบ 30 ปี พี่แอนเป็นคนแรกของกี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เวลาเขาสัมภาษณ์กี้เข้าในวงการยังไง ครั้งแรกทำอะไร ครั้งแรกในวงการของกี้คือถ่ายแบบ งานแรกที่เจอกล้อง เจอช่างแต่งหน้า คือถ่ายแบบกับพี่แอน แล้วพี่แอนเขาจะเป็นนัมเบอร์วันอยู่ที่นั่น แล้วเราเพิ่งไปวันแรก จะเขินมาก

แอน : ยุคนั้นเราถ่ายแบบไม่มีการโฟโต้ช้อป ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ยุคนั้นต้องให้นิดนึง

นิโคล : แล้วกี้ครั้งแรก พี่แอนคล่องมาก แล้วเราก็เตี้ยมาก แล้วพอถ่ายเสร็จจะวิ่งไปหาแม่ แม่บอกไปคุยสิ เราบอกไม่เอาอาย

รู้ไหมว่าตอนนั้นน้องสาวปลื้มขนาดนี้?

แอน : ไม่ทราบเลย เพราะว่าทุกคนยุคนั้นจะอายุน้อยๆ แล้วทุกคนจะไปกับคุณแม่หมดเลย มีดิฉันนี่แหละไปเดี่ยวอยู่

ตอนนั้นพี่แอนพีคสุดๆ นางเอกเบอร์1 คือ แอน สิเรียม แล้วต้องทำงานกับนางเอกเบอร์1 ในฐานะน้องใหม่เราประหม่าไหม?

นิโคล : ก็อยากทำดี พอเขานั่งยังไง เราก็พยายามนั่งบ้าง ก็แอบดู ศึกษา เพราะเรายังไม่เคยทำ เราก็ปลื้มและเกร็ง แล้วลงปกด้วย ครั้งแรกในชีวิต

แอน : เขาน่ารักมาก เพราะนิโคลมีเสน่ห์มาก ตาโตๆ ยิ้มหวานๆ จิกกล้องแล้วเขามีเสน่ห์ หน้าเขาเป็นเอกลักษณ์

พี่แอนเป็นคนพิเศษของนิโคลยังไง?

นิโคล : อย่างที่ทุกคนถามมา เรามักจะจำครั้งแรกของเราในชีวิตเสมอ เพราะว่ามันจะเป็นภาพเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เลย ถ้าถามอะไรที่เราเจอกันตามงาน ตามอีเว้นท์ เราก็เจอกันมาเป็น 10 ปี แต่ว่าวันนั้น ช็อตนั้น โมเมนต์นั้น กี้จะไม่มีวันลืม เพราะก้าวแรกของชีวิตเข้ามาในวงการ แล้วโมเมนท์นั้นเราอยู่ด้วยกัน

พี่แอนผู้หญิงคนนี้เขาน่ารักยังไง?

แอน : เขาน่ารักเสมอต้น เสมอปลายนะ เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์ แอนจะจำรอยยิ้มเขาได้ แล้วพอถ่ายแบบอยู่แพ๊บนึงนิโคลก็ได้เป็นนักร้องเลย

แอน : คือปลื้ม จริงๆ ข่าวคาดเคลื่อน อยากจะรู้ว่าเทคนิกในการเลี้ยงลูกเขายังไง เพราะว่าลูกเขาเพอร์เฟคท์มากเลยนะ ที่เราติดตามไอจี เราเห็นหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะร้องเพลง ได้คุณแม่มาเต็มๆ เลี้ยงยังไงแอนอยากจะรู้เหมือนกัน

นิโคล : กี้ก็อยากมีลูกสาวนะคะ ชื่นชมลูกสาวพี่มาก คือสวยมาก

ช่วงโควิดแบบนี้ดูแล เลี้ยงลูกยังไง?

นิโคล : คุยกับเขาเยอะๆ ว่ายูโอเคไหมที่ไม่ได้เจอเพื่อน แล้วไม่ได้ออกไปข้างนอกโอเคไหม อยากเดินเล่นไหม แยากไปสูดอากาศข้างนอกไหม เราต้องคุยกับเขาเยอะๆ ว่าเขาคิดอะไรยังไง ได้รับข้อมูลอะไรบ้าง เราก็คอยสังเกตลูกเท่านั้นเอง

แอน : ต้องบอกว่าเหมือนทุกคนในบ้านเขาจะกลัวแอนกันหมดเลย ไม่ว่าแม่บ้านมันก็จะอยู่คนละมุม คนละห้อง ชั้นบน ชั้นล่าง ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่นัก ก็ยังส่งไลน์ ก็ตามยุคตามสมัย นอกจากว่าเราไม่ตอบแล้วเขาก็จะลงมาพูดกับเราข้างล่างว่าแม่มีงานนี้ๆ เพราะลูกแอนเรียนจบแล้ว

ในช่วงโควิดแบบนี้ยังมีโอกาสทำอะไรด้วยกันไหม?

แอน : ก็มี คือทุกอย่างในบ้านนนนี่คุมหมดเลย สั่งอาหารอะไรอย่างนี้ จะมีจริงๆ ก็ออกกำลังกายที่แบบว่าได้สวนกันบ้างในห้อง

นิโคล : เราต้องเข้าใจ มันจะเกิดขึ้นไม่ใช่ 16-17-18 มันเกิดขึ้นตอน 12-13-14-15-16 ทุกปีจะเปลี่ยน สำหรับกี้นะคะ แช้วของกี้เป็นลูกผู้ชายด้วย ก็เลยต้องปล่อยเขา ความคิดของกี้คือเจาโต ปล่อยให้เขาเจออะไรในชีวิตตามที่เขาควรจะเจอ แต่เราก็ต้องคอยดูอะไรที่ปล่อยไม่ได้ก็ห้ามปล่อย แต่อะไรที่ปล่อยได้ก็ไม่เป็นไร เขาต้องไปศึกษาชีวิตของเขาเองก็ต้องให้เขา

แอน : ก็คล้ายๆ กันนะ แอนก็รู้สึกเหมือนกันว่ายิ่งลูกคนเดียว แล้วช่วงที่ผ่านมา ช่วงวัยรุ่นมันก็จะเจออุปสรรคเยอะแยะมากมาย แอนก็จะปล่อย แต่บอกเขาว่าถ้ามีปัญหาอะไร แม่อยู่ตรงนี้นะ ก็คอยซัพพอร์ตลูกตลอด แต่ก็มีกฎบ้างว่าห้ามกลับบ้านกี่โมง เขาก็ทำตามแต่ค่อยๆ เลททีละนิดๆ ตอนหลังก็ไม่ทำตาม

โควิดนี่กลัวแค่ไหน กับลูกที่อยู่ในภาวะวัยรุ่นที่บางทีต้องมีพบปะเพื่อน?

แอน : ลูกกลัวมากกว่าแอนอีก แอนงงมากเลย เขาค่อนข้างที่จะเป็นระเบียบมากเลยช่วงนี้ แอนคิดว่าเขาน่าจะมีวินัยจากการที่ลดความอ้วนได้ 20 โล เขาก็เลยโอเค ร้านอาหารปิดหมด ทุกอย่างปิดหมด ก็อยู่บ้านออกกำลังกายแล้วเขาก็ไม่ได้เจอเพื่อนเลย เพราะเจามองว่า ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมามันก็จะมาถึงแม่ เขาก็เลยอยู่อย่างเป็นสัด เป็นส่วนอยู่บ้าน แล้วหาอะไรของเขาทำ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่างั้นเราก็ต้องระวังตัวเอง และดูแลตัวเองให้แข็งแรง

นิโคล : เหมือนกัน ก็ต้องดูแลตัวเอง ทิกเกอร์อายุยังไม่ถึงฉีดวัคซีนยังไม่ได้ ก็ต้องระวังทั้งคู่ ทิกเกอร์ก็ไม่ออกไปไหน เราก็ไม่ไปไหน แล้วก็สร้างภูมิตัวเองให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

พี่แอนมีโรคจิตมาป่วนไอจีด้วย?

แอน : ใช่ ตอนแรกแอนไม่รู้เรื่องเลย คือนนนี่เป็นคนบอกแอนว่าแม่มีอย่างนี้ โรคจิตมาป่วนไอจีแม่ แอนก็บอกว่าจริงเหรอ คือเขาใช้คำไม่สุภาพ แล้วก็มีการตัดต่อภาพ น้องนนนี่มาบอกแอน แอนถึงได้รู้ เพราะปกติแอนไม่ได้อ่านคอมเมนต์ตลอด มันไม่มีเวลา แล้วก็ไม่ได้เช็กว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราถ่ายรูปบางทีเซ็กซี่ แล้วตอนหลังนนนี่ก็จัดการ หนูต้องไปแจ้งความ เราก็เลยรู้ง่าอ่อลูกเราก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ดูแลให้

แอน : โดนด้วย เพราะว่าลูกถ่ายเซ็กซี่กว่าแม่อีก

แล้วเขาจัดการยังไง?

แอน : นนนี่กับแฟนคลับถล่มกันก็เลยหมดไป คือถ้ามีอะไรที่ไม่สุภาพ หรือเขียนคำไม่ดีก็ต้องขอบคุณน้องๆ ช่วยดูให้แม่ เพราะแม่ก็ไม่ไหวแล้ว ดูไม่ทัน ตาไม่ดีด้วย

เขาเม้าท์ว่าพี่กับคุณสามีห่างกันแล้ว?

แอน : ห่างกันเพราะช่วงโควิดนี่แหละ คือเราก็ทำงานอยู่ในกรุงเทพตลอด แล้วเขาก็อยู่บางเสร่ เขาก็บอกว่าเขาไม่รู้จะเข้ามากรุงเทพทำไม มันไม่มีอะไรทำ บางทีเรากลับไป 1-2 วัน แล้วเราก็ต้องกลับมาทำงานอีก บางทีเราก็เหนื่อย แต่ก็โทรคุยกันทุกวัน แล้วต้องโทรแบบวีดิโอคอลด้วยได้รู้ว่าอยู่สถานที่จริงไหมตรงนี้

เขาเคยขอให้พี่หยุดทำงานไหม?

แอน : รุ่นนี้เขาขอไม่ได้แล้ว เพราะเราชอบ เราสนุก เราได้เจอเพื่อน

คนนี้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

นิโคล : โอเค ก็เรื่อยๆ

ได้ข่าวว่ามีหนุ่มนอกวงการตามส่งขนมจีบให้ตลอดเลย?

นิโคล : ไม่มี แต่ก็มีเพื่อนทำอาหาร

ถามจริงๆ คุยกับใครอยู่ไหม?

นิโคล : จริงๆ ก็มีเพื่อน มีอะไร นี่เอาจริงๆ เลย เพราะกี้ถ้าคบใครก็เปิดเผย ตอนนี้ก็ขอโฟกัสเรื่องลูกชายก่อน

ลูกมาปรึกษาเรื่องความรัก ปัญหาหัวใจไหม?

นิโคล : มีถามๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแม่ถาม เราเหมือนเพื่อนกัน จริงๆ ทิกเกอร์ไม่ได้ถามเรื่องผู้หญิงกับกี้เท่าไหร่ เพราะเขามีแต่เพื่อนๆ แต่กี้จะถามลูกเกี่ยวกับเวลาผู้ชายพูดอย่างนี้เขาหมายความว่ายังไง เพราะมุมมองของลูกจะใสและตรงไปตรงมา เพราะบางทีเราคิดซับซ้อนเยอะไป

นิโคล : ไม่หวง เขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างที่เขาต้องใช้ ไม่งั้นเขาจะเจอคนที่ใช่ได้ยังไงถ้าเราไปปิดกั้นเขา แต่ว่าห่วงไหม ก็ห่วงตามประสาแม่

มีสเปคไหมว่าอยากได้ผู้หญิงแบบไหนเข้ามาในชีวิตลูกเรา?

นิโคล : ชอบผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเอง มั่นใจในตัวเอง จะเป็นยังไงก็ได้ แต่ชอบให้เป็นตัวของตัวเอง มีความคิดของตัวเอง ให้ลูกเรารักในตัวเขา แค่ขอให้มีความเป็นไทย มีสัมมาคารวะ ตรงนั้นจะดีมาก ถ้ามีนะคะ

พี่แอนตอนนี้ลูกสาวเป็นยังไงบ้าง?

แอน : ตอนนี้ลูกสาวเก็บตัวมากๆ เก็บทั้งตัว ทั้งใจ เพราะช่วงสถานการณ์โควิด ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีให้เขาได้อยู่กับตัวเองมากๆ เขาจะได้รู้สึกว่าสิ่งที่ใช่ สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ มันคืออะไร เพราะว่าช่วงวัย 25 มันสำคัญมากนะ ช่วง 25-30 ปี มันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกแบบนีง

แม่ยังหวงอยู่ไหม?

แอน : ไม่หวง แต่ยังคงห่วงอยู่ แอนเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนก็เหมือนกัน ไม่ว่าขนาดไหนก็ยังต้องห่วงอยู่

แล้วมองไหมในอนาคตอยากให้ลูกสาวเราเจอกับคนแบบไหน?

แอน : อยากให้เจอกับคนที่เข้ากับเขาได้ เพราะบางทีดีเกินไปลูกเราอาจจะไม่ชอบ อยากให้เจอคนที่เข้ากันได้จับมือแล้วจูงมือกัน ช่วยทำในสิ่งที่มันเป็นอนาคตของเขา เพราะแอนก็ไม่สามารถไปทำแทนเขาได้ เอาที่ลูกมีความสุข แล้วก็สามารถที่จะสร้างเนื้อ สร้างตัวได้ ตอนนี้ถามว่าห่วงไหม ห่วงอยู่แค่เรียนจบเขาก็เรียนจบให้เราแล้ว เราอยากให้เขาลดหุ่น เขาก็ลดแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่สามารถทำงานได้ หวังว่าทุกอย่างคลี่คลายไปแล้ว เขาจะได้ทำงานในสิ่งที่เขาชอบ