จตุรงค์ เปิดใจ ข่าวปล่อยทิ้งน้องพี มกจ๊ก ให้เร่ร่อนอยู่วัด แถมโกงเงินค่าตัว


จตุรงค์ เปิดใจ ข่าวปล่อยทิ้งน้องพี มกจ๊ก ให้เร่ร่อนอยู่วัด แถมโกงเงินค่าตัว


   ถือว่าเป็นตลกที่ดังที่สุดของยุคในตอนนั้นสำหรับ น้องพี มกจ๊ก ที่ได้ ลุงรงค์ จตุรงค์ โพธาราม นำมาเล่นตลกในคณะ แต่อยู่ๆ ก็หายจากกันไป ซึ่งมีข่าวว่าลุงรงค์ทั้งโกงค่าตัวเด็ก หากินกับเด็ก ทั้งปล่อยให้ไปอยู่วัดขอข้าววัดกิน วันนี้จะมาเผยทุกประเด็น พร้อมเปิดชีวิตน้องพีที่หายไปจากวงการ เกเรเสเพล พร้อมทั้งวีรกรรมแสบมากมาย ที่แม้แต่ลุงรงค์เองก็เพิ่งได้รับรู้วันนี้ ซึ่งคู่ลุงหลานได้ควงกันมาออกรายการครั้งแรกในรอบ 10 ปี ในรายการ "คุยแซ่บ SHOW" ทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร

เล่นตลกกับเด็กมีคนว่ามั้ย เอาเด็กมาขาย?

ลุงรงค์ : สมัยก่อนไม่มีโซเชียล มันเป็นข่าวเลยนะ เขาเขียนว่าเอาเด็กมาหากิน สั้นๆ เลยเอาเด็กมาหากินเราก็โดนแล้ว เราตอบว่ามันไม่ได้เป็นการเอาเด็กมาหากิน มันเป็นการเอาเด็กมาหารายได้เพื่อให้พ่อแม่เขา เขาก็ไม่ได้เสียการเรียนของเขา เขาก็ไปโรงเรียนเหมือนเดิม ว่างก็เอามาเล่น เอาความสาระของเด็กมาแสดงออก ซึ่งปัจจุบันเยอะมากเลยนะ ดันลูก ลูกดาราดังเป็นแถวเลยนะ มันก็เหมือนกันแหละ นี่ตั้งแต่แยกกัน 10 กว่าปีไม่เคยพาออกทีวี นี่เป็นรายการแรกเลย เขาไม่ได้มาง่ายๆ นะ คิวเขาไม่ว่าง ทำอะไรลูก

น้องพี : ย่างหมูครับ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงอาทิตย์อีกวันคือย่างหมู

หายไปนานเท่าไรแล้ว?

น้องพี : 10 กว่าปีครับ ช่วงนั้นคาเฟ่เขาซบเซาด้วยครับ ออกกฎห้ามเด็กเข้าคาเฟ่ด้วย และด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ลุงรงค์พอไม่มีคาเฟ่ ก็ไม่ได้ทำคณะด้วย

ลุงรงค์ : ก็ถ่ายละคร ถ่ายหนัง ถ่ายรายการ คาเฟ่ก็เลิกๆ ไป อีกอย่างน้องพีจะเล่นไม่เหมือนเด็กๆ แล้ว เขาโตขึ้น มันเลยต้องหยุด

จตุรงค์ เปิดใจ ข่าวปล่อยทิ้งน้องพี มกจ๊ก ให้เร่ร่อนอยู่วัด แถมโกงเงินค่าตัว

มีข่าวว่าโกงค่าตัวหลาน หลานรับไม่ได้ เลยต้องแยก?

ลุงรงค์ : ถ้าเป็นคนในครอบครัว พ่อแม่เขาจะรู้ ตัวน้องพีเองจะรู้เรื่องเงินเรื่องทอง เรามีแต่ให้ เมื่อก่อนถ้าใครให้ต้องหารคนในวงการ แต่ถ้าเป็นน้องพีได้เท่าไรเอาไปเลย ส่วนค่าตัวน้องพี พ่อแม่เขาเป็นคนรับเลยนะ สมัยก่อนที่ฮิตมากเลยคือมุกอมตังค์ เล่นแล้วฮา ก็เล่นกัน คนอินคิดว่าไปอมตังค์หลาน

น้องพี : ไม่เห็นนะ เพราะว่าปากเขาก็ไม่มีอะไรตุงอยู่ ตอนนั้นผมเด็กด้วย โฟกัสแค่ว่าถ้าเราไปเล่นตลกที่นี่ตรงนี้ เราจะได้ของเล่น

ตอนนั้นกำลังดังเลย แล้วหยุดไป เราไปทำอะไร?

น้องพี : กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติเลย เช้าไปโรงเรียน เย็นกลับมาก็เล่นกับเพื่อน นอน ไปโรงเรียนอีกวัน

ตอนนั้นมีโทรเรียกหลานให้มาเล่นตลกมั้ย?

ลุงรงค์ : ตลกไม่ได้เล่นแล้วไง มันหยุดแล้ว เลิกแล้ว ก็เลยไม่ได้เรียก พ่อกับแม่เขามีงาน

น้องพี : กลับไปใช้ชีวิตปกติกันหมดเลยทุกคน

ตอนที่เล่นตลกอยู่บ้านลุงรงค์?

น้องพี : ใช่ครับ พอไม่ได้ก็ออกมา ก็อยู่กรุงเทพฯ ก่อน แล้วไปอยู่ที่นครปฐม เริ่มใหม่กันที่นั่น

มีข่าวว่าลุงรงค์ทอดทิ้งน้องพีให้เป็นเด็กวัด?

ลุงรงค์ : ไม่ได้ทอดทิ้ง ก็เขาขนกันไปเอง ไปเช่าบ้านอยู่หน้าวัดเลย บ้านอยู่ตรงข้ามวัด น้องพีก็เข้าไปวิ่งเล่นในวัด

น้องพี : ตอนนั้นเปิดร้านขายเสื้อผ้า ทำเลหน้าวัดมันสวย ใกล้ร้านสะดวกซื้อ

ลุงรงค์ : พอน้องพีไปวิ่งเล่นในวัด นักข่าวก็เจาะเลย นี่น้องพีนิ เติมเข้าไปอีกหน่อย น้องพีต้องอาศัยวัดอยู่ เติมเข้าไปอีกนิด ขอข้าววัดกิน พอเติมแบบนี้ลุงรงค์เลย

จตุรงค์ เปิดใจ ข่าวปล่อยทิ้งน้องพี มกจ๊ก ให้เร่ร่อนอยู่วัด แถมโกงเงินค่าตัว

ตอนนั้นเราตั้งใจไปอยู่ที่วัด?

น้องพี : ผมบ้านอยู่หน้าวัด เป็นเพื่อนกับหลานหลวงน้ำฝน มีงานก็ไปช่วย

ที่ออกจากลุงรงค์มาชีวิตลำบากมั้ย?

น้องพี : ถ้าจริงๆ ลำบาก เพราะก่อนหน้านี้เป็นตลกเงินค่อนข้างเยอะ พอออกมาแม่ก็ไปขายเสื้อผ้า เรากลับไปเรียน พ่อทำแอร์ มันเป็นการเริ่มต้นใหม่ ก็ค่อนข้างลำบาก

ตอนนั้นตัดขาดมั้ย?

ลุงรงค์ : ไม่ตัดขาดหรอก พ่อมันเป็นน้องที่เราเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ โตมากับเรา เวลาที่เราด่าหรือว่าอะไรในสิ่งที่ทำผิด ถ้าไม่เชื่อฟังมันจะงอนแล้วก็หายไป จะให้เราไปตามง้อมันก็ไม่มีเวลาถึงขนาดที่ต้องไปนั่งง้อ แล้วสุดท้ายมันก็กลับมากันเอง

หายกันไปกี่ปีกว่าจะกลับมาเจอกัน?

ลุงรงค์ : 4-5 ปี

น้องพี : ผมจำไม่ได้ ช่วงนั้นน่าจะประมาณ ป.5 กลับมาเจอลุงรงค์ในช่วง ม.2

เจอลุงรงค์ครั้งแรกตอน ม.2 พูดว่าไง?

น้องพี : ไม่กล้าเจอก่อนตอนนั้น เพราะเราห่างกันไปเลย จนมีงานศพของย่า ผมก็ต้องมารวมกันที่วัดก็เลยได้เจอกัน

ตอนไม่เจอคิดถึงมั้ย?

น้องพี : ช่วงนั้นเด็กด้วยครับ คือเราไม่ได้รู้สึกอะไร ตอนนั้นอยู่วงดนตรีที่โรงเรียนด้วย ก็ใช้ชีวิตปกติไปจนมาเจอเขาอีก

คิดถึงหลานมั้ย?

ลุงรงค์ : คิดถึง คืดถึงทั้งพ่อกับแม่เขาด้วย แต่เราเป็นพี่ น้องทิฐิไม่ยอมมาหาเรา ปกติทำผิดอะไรต้องเดินมาขอโทษ แต่อันนี้หายไป 4 ปี ไม่ยอมไม่สนใจ ไม่มาหาเลย แล้วเราจะไปตามเหรอ

ทะเลาะกันเรื่องอะไร?

ลุงรงค์ : ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอก แค่พ่อแม่เขาใช้เงินผิดประเภท เงินก็หมดไปโดยง่าย เราด่า ยอมรับว่าด่า ใส่อารมณ์

ตอนเขาไป เราใจหายมั้ย?

ลุงรงค์ : ก็ไม่หรอก เพราะว่าไปแบบไม่รู้ตัว อยู่ๆ เช้ามาครอบครัวนี้ไปไหน

น้องพี : เก็บของออกจากห้องไปเลย

ตอนนั้นรู้สึกผิดมั้ย?

ลุงรงค์ : ไม่ผิด เราด่าในสิ่งที่ถูกต้อง เราเป็นผู้ใหญ่ เราเป็นพี่ เราโกรธมันด้วยซ้ำ ด่าแค่นี้ไม่ได้เหรอ เราเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นมาขนาดนี้ อยู่กับเรามาทั้งชีวิต อยู่ๆ หายไป

จตุรงค์ เปิดใจ ข่าวปล่อยทิ้งน้องพี มกจ๊ก ให้เร่ร่อนอยู่วัด แถมโกงเงินค่าตัว

มาเจอกันอีกครั้งได้ยังไง?

ลุงรงค์ : งานศพไง เจอหน้าน้องพี สมัยก่อนน้องพีจะเป็นหลานที่เพอร์เฟกต์มาก มันดังมีทุกอย่างเลย มากกว่าหลานคนอื่น พอมาเจองานศพ น้องพีดูด้อยกว่าหลานคนอื่นเลยนะ ตอนเจอถามว่าเรียนอะไร เรียนยังไง เรียนหรือเปล่า เป็นห่วงเรื่องนี้อย่างเดียวเลย

น้องพี : เรื่องเรียน เขาจะเน้นเรื่องเรียนเป็นพิเศษ ตอนนั้นกำลังจะเปิดเทอม ม.2 เทอม 2 ก็เลยไปหาเขา

ลุงรงค์ : เรียนไร ดูท่าไม่ดีแน่ ไปบอกพ่อกับแม่เลยมาอยู่ที่บ้านสายสี่ เก็บเสื้อผ้าเลย เดี๋ยวพาไปฝากโรงเรียนที่มันมาตรฐาน

น้องพี : ก็ย้ายเลย เก็บของมาอยู่กับเขาเลยตอนนั้น

เจอพ่อแม่เขาครั้งแรกพูดว่าไง?

ลุงรงค์ : มันเข้ามาไหว้ เจอก็กลัวเราแล้ว เหมือนเข้ามายอมรับผิดอะแหละ ลืมไปหมดแล้วเรื่องโกรธ ซึ่งเพียงแต่ให้เราไปง้อน้อง ซึ่งน้องผิด มันไม่ได้

กลับไปอยู่กับลุงรงค์?

น้องพี : กลับไปเรียนที่กรุงเทพฯ อยู่บ้านเขายาวเลย

ตลอดเลยเหรอ?

ลุงรงค์ : ไม่ตลอด โรงเรียนเข้ากี่โมง 10 โมงยังไม่ตื่นเลย สักอาทิตย์กว่า 2 อาทิตย์ ผอ.เชิญลุงรงค์ไปเลย

น้องพี : ช่วงนั้นเจ็ตแล็กเพิ่งย้ายมา ก็เลยตื่นสายหน่อย

ตอนเจอ ผอ. เป็นยังไงบ้าง?

ลุงรงค์ : หลานคุณน้องพีทำไมยังงี้ล่ะ ผมก็ไม่รู้จะทำไงขอโทษครับ เอาไงดีล่ะ เราก็ไม่ดุ มันก็หน้ามึนๆ ลอยๆ ลุงรงค์กลับมาตี 2 น้องพียังไม่นอนเลย ช่วงนั้นเริ่มเป็นหนุ่ม

จตุรงค์ เปิดใจ ข่าวปล่อยทิ้งน้องพี มกจ๊ก ให้เร่ร่อนอยู่วัด แถมโกงเงินค่าตัว

อยู่ได้นานเท่าไร โรงเรียนนี้?

น้องพี : ผมอยู่ได้ 3 เดือน อยู่ให้จบเทอม

ลุงรงค์ : มันเป็นช่วงที่เด็กกำลังเก กำลังดื้อ

น้องพี : ช่วงนั้นตระเวนเลย นั่งรถเมล์ไม่ถึงโรงเรียนสักที นั่งอ้อมไปเรื่อยๆ ดูทางว่าเราจะไปทางไหนดี

ตอนออกโรงเรียนไปอยู่ไหน?

น้องพี : ตอนนั้นก็เคว้งครับ จะไปอยู่ไหนดี อยู่กับลุงรงค์ไม่ได้แล้ว เพราะเกเร แม่ก็อยู่นครปฐม โซซัดโซเซ สุดท้ายเลยเลือกไปอยู่นครปฐมดีกว่า

ไปถึงบ้านแม่เกเรที่สุดแล้ว?

น้องพี : ที่สุดแล้ว เต็มสูบเลย ช่วงนั้นมันกึ่งกลางพอดี เราออกจากลุงรงค์กะมาอยู่กับแม่ที่นครปฐม ช่วงนั้นแม่ย้ายกลับภูมิลำเนาพอดีที่ราชบุรี เราติดเพื่อนที่นครปฐม เลยตัดสินใจว่าอยู่นครปฐมนี่แหละ อยู่บ้านเพื่อนเลย ตอนนั้นเข้าเรียนที่บ้านโป่ง ด้วยความไกลด้วย ติดเพื่อนด้วย เริ่มไม่ไปเรียนละ อยู่บ้านเพื่อน 6 เดือนเต็มๆ

เอาเงินมาจากไหนตอนนั้น?

น้องพี : ทำงานครับ ทำอยู่กับเพื่อนบ้าง เพื่อนขายหมูไปช่วยขายก็จะได้เงิน ไปอยู่บ้านเขาข้าวฟรี อยู่บ้านเพื่อน 6 เดือน แล้วพ่อแม่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เพราะเราก็ไม่บอกพ่อแม่ด้วย ไม่บอกใครเลย

เขาไม่ตามเหรอ?

น้องพี : เขาไม่รู้จะตามที่ไหน ใช้วิธีสื่อสารผ่านตัวกลางคือน้า เราจะบอกน้าว่าไม่ต้องตามนะ ยังมีชีวิตอยู่ เดี๋ยวมาหาทุกวันอาทิตย์ ฝากบอกพ่อแม่ด้วย

ลุงรงค์ยังไม่รู้เลยเรื่องนี้?

ลุงรงค์ : ไม่รู้เลย แล้วกินอะไร ชีวิตเสเพลเละเทะขนาดนั้น นี่ไปเล่าให้พจน์ อานนท์ มันทำเลยนะเนี่ย

น้องพี : แต่ว่ามันเป็นช่วงสั้นๆ 6 เดือนสำหรับเรา

กลับมาอยู่บ้าน?

น้องพี : พ่อแม่ซ้อนแผนมาเจอเรา บอกว่าเดี๋ยวน้าจะเอาตังค์มาให้ เราก็โอเค สุดท้ายเป็นพ่อแม่มาเจอเรา สุดท้ายมันไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน กลับไปอยู่ราชบุรีกับพ่อแม่ ตอนนั้นทำงานและเรียน กศน.

อะไรที่ทำให้คิดว่าอยากกลับไปเรียน?

น้องพี : ตอนนั้นมันสนุก เราเจอหน้าแม่แล้ว รู้สึกว่าอยู่ที่นี่มานานแล้วมันไม่ใช่บ้านเราด้วย เราดูเหมือนคนไม่มีอนาคต ใช้ชีวิตไปวันๆ ตัดสินใจกลับไปอยู่กับพ่อแม่ดีกว่า

ตอนเรียน กศน. ทำงานอะไร?

น้องพี : ช่างไฟ พ่อก็เป็นช่างไฟด้วย เดินระบบ เอาความรู้จากพ่อมา

คิดถึงตอนเด็กๆ มั้ยที่เราดังแล้วต้องมาเป็นช่างไฟ?

น้องพี : ช่วงนั้นเรา 3-4 ขวบ มันจำอะไรไม่ได้เลย จำได้ช่วงนครปฐมมีเล่นละครบ้าง แล้วก็หายไปเลยจำไม่ได้ ได้แต่คิดว่าไม่เป็นไรมันผ่านไปแล้ว

ไปเป็นทหารทำให้คิดอะไรได้มากขึ้นมั้ย?

น้องพี : ได้ทุกอย่างเลย เปลี่ยนทุกอย่าง เปลี่ยนตัวเอง

ลุงรงค์ : เป็นคนละคนเลย

น้องพี : ตอนเป็นทหารอยู่กับลุงรงค์แล้ว ตอนนั้นไปอยู่ราชบุรีและกลับมาเจอลุงรงค์อีกรอบนึง

มาเจอกันได้ยังไง?

น้องพี : มีอาอีกคนนึง เขาบอกว่าลุงรงค์วิ่งเก็บตกให้พี่ตูนอยู่นะจะมามั้ย เราคิดว่ามันผ่านเวลามานานแล้ว แล้วเราก็รู้สึกผิด เพราะตอนนั้นออกมาจากเขาก็ไม่ได้บอกเขาเหมือนกัน หนีออกมา เราเลยไป

ลุงรงค์ : กำลังวิ่งเก็บเงินอยู่ข้างทาง รับเงินๆ มีผู้ชายหนุ่มๆ คนนึงวิ่งมาตีคู่ อ้าวน้องพี

น้องพี : แล้วก็วิ่งง้อกันไปเหมือนหนังอินเดีย ง้อกันไปคุยกันไป

จตุรงค์ เปิดใจ ข่าวปล่อยทิ้งน้องพี มกจ๊ก ให้เร่ร่อนอยู่วัด แถมโกงเงินค่าตัว

หันไปเจอน้องพีรู้สึกยังไง?

ลุงรงค์ : ก็ไม่รู้สึกยังไง ธรรมดากับครอบครัวนี้มาก เพราะมันเข้าๆ ออกๆ กันตลอดเวลา เพราะรู้สักวันน้องพีต้องมาหาเรา พอมันมาหาเรา ก็เอามันเข้ามาอยู่เหมือนเดิมแหละ

น้องพี : เขาผูกเชือกรองเท้าอยู่ กำลังจะวิ่งพอดี

ลุงรงค์ : หลังจากวันนั้นก็วิ่งด้วยกันจนจบเป้าหมายแหละ ตอนนั้นเริ่มมีครัวลุงรงค์แล้วเอามันเข้ามาอยู่ในครัวลุงรงค์ ก็เลยมาทำงาน มีรายได้

ตอนที่วิ่ง ประโยคแรกที่พูดคืออะไร?

ลุงรงค์ : อ้าว มายังไง

น้องพี : นั่งรถตู้มากับเพื่อนลุงนี่แหละ

ลุงรงค์ : คำต่อไป คืนนี้ไปย่างหมูนะ แล้วก็ย่างหมูตลอดมา

น้องพี : เขาถามเรื่องเรียนก่อนว่าเรียนเป็นยังไง เรียนอยู่มั้ย บอกเรียน กศน. เขาบอกไม่เชื่อ ก็วิ่งต่อ

ลุงรงค์ : จะไปเชื่ออะไร เรียนธรรมดายังไม่เรียนเลย กศน.สบายกว่า สมองเรากับน้องพีตัดทิ้งไปเลยเรื่องเรียน มันไม่ใส่ใจแน่ สิ่งที่ทำให้เราภูมิใจสุดคือไปเป็นทหาร 2 ปี แล้วกลับมาเป็นอีกคน อันนี้ภูมิใจสุด

เล่าให้ฟังหน่อย เปลี่ยนยังไง?

น้องพี : อยู่กับเขาก็ค่อนข้างเกเรเหมือนกันนะ

ลุงรงค์ : แกล้งคนโน้นอำคนนี้ให้เขาร้องไห้เสียใจ ถ้าทำแบบนี้เก็บกระเป๋าออกไปเลยนะ

น้องพี : ไปเป็นทหารเปลี่ยนทุกอย่าง เปลี่ยนเรื่องความคิด เขาปลูกฝังชีวิตประจำวันใหม่ ตื่นเช้า จะทำไรก็ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ คิด

หลานเราหลังจากทหารชอบที่สุดแล้ว?

ลุงรงค์ : ชอบที่สุดแล้ว หลังจากปลดทหาร ไม่ถึงปลดปีแรกเราก็โอเคแล้ว มันจะกลับมาทุกเสาร์-อาทิตย์ กลับมาการพูดการคุย การเปลี่ยนแปลง ระบบสมอง มันดีอ่ะ มันจะบอกลุงอันนั้นไม่ใช่ ลุงอันนี้ผิดนะ ลุงทำแบบนี้สิ ระบบคิดมันอ่ะ มีระบบมีระเบียบ มีทุกอย่าง มีการวางตัว ก่อนหน้านี้น้องพีจะเป็นคนพูดอะไรไร้สาระมาก กับคนอื่นไม่รู้ แต่กับน้องพีเปลี่ยนมาก เดี๋ยวจะให้ตำแหน่งใหม่นะ เป็นผู้จัดการ jr green

ไปทำงานร้านอาหารเกือบโดนไล่ออก?

ลุงรงค์ : ตอนแรกให้เป็นพีอาร์คอยต้อนรับไม่ชอบ ชอบย่าง ตอนนี้หันจนเป็นเซียนเลย ก่อนเป็นทหารด้วยความที่ปากไว พูดพล่อย อำคนโน้น แหย่คนนี้ แกล้งคนนั้น ลุงไม่เท่าไร เมียลุงกับเฟิร์นรับไม่ได้ หนักที่สุดว่าน้องชายเฟิร์น

น้องพี : คือแซวใส่สร้อย

ลุงรงค์ : ตอนนั้นมันอ้วนไง คอมันดำ ใส่สร้อยสีดำเหรอ เรียกประชุมเลย ทำไมทำยังงี้ เด็กไม่รู้เรื่องหรอก แต่ผู้ใหญ่เสียใจ นั่งเศร้าเลย

น้องพี : ตอนนั้นเราไม่ได้ว่าน้องเขา เราพูดกันเอง แซวกันไปมาระหว่างญาติพี่น้องมากกว่า อำๆ

รู้มั้ยว่าผิด?

น้องพี : รู้ว่าผิดตั้งแต่พูดไปละ แล้วถ้าน้องได้ยิน น้องจะรู้สึกยังไง เพราะตอนนั้นน้องไม่ได้มาพูดแหย่กับน้าสาว

ลุงรงค์ : แล้วพูดว่าให้ออกก็ออก ตอนนั้นก่อนเป็นทหาร สมองยังไม่มีระบบเลย

อะไรทำให้เราอยากไปเกณฑ์ทหาร?

น้องพี : เพราะลุงรงค์บอกให้ไปเกณฑ์ ตอนแรกไม่อยากไป

ลุงรงค์ : ลุงอ่ะเคยเป็นทหารมาก่อน สมัยก่อนลุงก็เป็นแบบมัน มันถอดแบบลุงมาเลย พอกลับมาเปลี่ยนเป็นคนละคน ลุงจึงได้รู้ว่าการเป็นทหารมันได้ระบบความคิดเยอะมาก มันเหมือนกับเราในช่วงเวลานั้นพอดี

เหมือนจะว่าแต่สปอยล์เขามาก?

ลุงรงค์ : ให้ทุกอย่าง รองเท้า 25,000 เราอยากให้เขาไปเป็นทหาร พอเขากลับมาเขามองรองเท้าอันนี้มันรู้ว่าลุงมี ใส่ไม่กี่ครั้ง ไปเปิดท้ายรถเอาเลย ใส่กล่องให้อย่างดี

น้องพี : สปอยล์ทุกอย่างถ้าขอนะ เขาเป็นคนจะด่าก่อน ด่าสุดแรงเกิดชีวิตเขาแหละ ด่าแล้วเขาก็ให้

รู้มั้ยลุงรงค์รักมาก?

น้องพี : รู้ เราไม่ค่อยพูดกัน แต่ถ้าขออะไรเขาจะให้ เขามีพระคุณทั้งกับเรา ทั้งพ่อแม่เรา.


ชมคลิป
VVVV
VV
V
VV
V
VVVV
VVVV


เครดิตแหล่งข้อมูล : รายการ คุยแซ่บโชว์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์