จากการสอบถามยายกาญจนา เล่าว่า นั่งรถประจำทางออกจากบ้านย่านปทุมธานี แล้วมาต่อรถเมล์ สาย 29 ที่รังสิต เพื่อมาขายตุ๊กตาอยู่แถวนี้ได้ระยะหนึ่งแล้ว ขายดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่หลังจากที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ ทำให้ทีลูกค้าเยอะขึ้น และมีคนมีน้ำใจมาช่วยเหลือ ทั้งแบ่งข้าว แบ่งน้ำ แบ่งร่มให้เรา บางคนส่งเงินมาให้เรา ซึ่งต้องขอบคุณมาก ยายไม่รู้จะตอบแทนยังไงก็ได้แต่สวดมนต์อธิษฐานให้ผู้ใจบุญเจริญๆ ไม่ต้องมาลำบากเหมือนกับยาย
ยายกาญจนา เล่าต่อว่า ที่ต้องมาขายของเพราะเป็นหนี้นอกระบบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีร้านขายของ และฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่ช่วงที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ร้านถูกท่วม ทำให้ไปต้องกู้เงิน มาใช้จ่าย จนเป็นหนี้ถึงทุกวันนี้ แต่ยายก็สู้นะคิดว่าไปเอาของเขามาแล้วก็ต้องใช้คืนให้เขา บางครั้งคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่ก็ทำไม่ได้ ก็เลยมาขายตุ๊กตาเพื่อหาเงินใช้หนี้เขา และถ้าพอมีเงินเหลือก็จะเก็บไปทำร้านอาหารเหมือนเดิม
"ทุกวันนี้ถามว่าเหนื่อยไหมอายุขนาดนี้แล้วต้องมานั่งขายของตากแดดตากฝน บอกเลยว่าเหนื่อย แต่จะทำยังไงได้ เพราะอยู่คนเดียว สามีก็แยกกันอยู่ ส่วนลูกเขาก็ลำบากเลยไม่อยากรบกวนเขา มานั่งขายของ กลับบ้านไปก็อยู่กับหมากับแมว สู้ทนเอา และถึงแม้จะเหนื่อย แต่ก็มีความสุขกับการได้พูดคุยกับคนที่มาซื้อของ คนที่มาพูดคุยให้กำลังใจเรา" ยายกาญจนา เล่าทั้งน้ำตา
คุณยายสู้ชีวิต ยังบอกอีกว่า ของที่ซื้อมาก็เหมายกโหลมาจากสำเพ็ง ขายได้กำไรตัวละ 10 บาทเท่านั้น ที่ไม่เอากำไรมาก เพราะอยากให้คนมีรายได้น้อยสามารถซื้อได้ ส่วนคนที่ส่งเงินมาให้จริงๆยายอยากให้เขามาช่วยซื้อของมากกว่า มันเกรงใจเขา